กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดที่ 1,774.90 USDต่อออนซ์ ลดลง 1.50 USDต่อออนซ์ ราคาปรับตัวลดลงเมื่อการประชุม G20 ให้ประเทศในยูโรโซนระดมเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับวิกฤติหนี้ก่อนขอความช่วยเหลือจากชาติต่างๆ นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลในเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำเมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,762.60 — 1,781.00 USDต่อออนซ์ ราคาปิดปรับลดลงเป็นวันที่ 2 ส่วนในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,766 USDต่อออนซ์ กราฟในรายวันราคาปรับลดลงต่ำกว่าเส้น MA 4 วันมีแนวโน้มอ่อนตัวลงสู่แนวรับแรกเส้น MA 34 ในกราฟราย 4 ช.ม. บริเวณ 1,764 และถัดไปเส้น MA 9 วันบริเวณ 1,756 USDต่อออนซ์ ถ้าหากไม่สามารถยืนเหนือเส้น MA 9 วันได้จะส่งสัญญาณลบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กราฟในรายสัปดาห์ราคายังยืนเหนือเส้น MA ทุกเส้น และปัจจัยพื้นฐานยังสนับสนุน โดยคาดว่าหากราคาอ่อนตัวลงมาจะมีแรงซื้อกลับบริเวณแนวรับ 1,756 — 1,750 USDต่อออนซ์ นักลงทุนที่ไม่มีสถานะรอเปิด Long บริเวณแนวรับดังกล่าว โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,780/1,794/1,803 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,740 USDต่อออนซ์ กรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ คาดว่าอยู่ระหว่าง 1,750 — 1,803
- ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุด ECB เสนอเงินกู้ 3 ปีดอกเบี้ยต่ำให้กับธนาคารในยุโรป และรัฐสภาเยอรมันอนุมัติเงินช่วยเหลือรอบที่ 2 ให้แก่กรีซแล้ว ส่วนกรีซได้เริ่ม swap พันธบัตรในวันศุกร์ทำให้เจ้าหนี้ภาคเอกชนมีผลขาดทุนที่แท้จริง 74% ของมูลค่าพันธบัตร S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงมาที่ระดับ “ selective default” ซึ่งสูงกว่าระดับ default หรือผิดนัดชำระหนี้เพียงขั้นเดียว ส่วนปัจจัยลบในวันนี้ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงชั่วคราวจากแรงขายทำกำไรและการคาดว่าสต๊อกน้ำมันของสหรัฐที่จะประกาศในวันพุธอาจเพิ่มขึ้น
- ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ ยูโรโซนจะพิจารณาทบทวนความแข็งแกร่งของกองทุนคุ้มครองยุโรปในเดือนหน้า และอาจจะมีการรวมขนาดกองทุนคุ้มครองยุโรปแบบชั่วคราวและแบบถาวรเข้าด้วยกัน เพื่อจัดตั้งกองทุนขนาด 7.50 แสนล้านยูโร (1 ล้านล้านดอลลาร์) โดยวิธีการนี้จะเปิดโอกาสให้จีน, ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆในกลุ่มG20 สามารถจัดสรรทุนทรัพย์เพิ่มเติมให้แก่ไอเอ็มเอฟในวงเงิน 5-6 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ไอเอ็มเอฟมีเงินทุนราว 3.85แสนล้านดอลลาร์ โดย G20 จะระดมทุนช่วยเหลือจำนวน 2 ล้านล้านUSD ภายในเดือนเม.ย.
- การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันอังคาร ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค. ราคาบ้านเดือนธ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.พ. วันพุธ ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2011 ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนก.พ. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เฟด รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รายได้ส่วนบุคคลเดือนม.ค. ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนม.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.พ. วันศุกร์ ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์คเดือนก.พ.
- ราคาโลหะเงินปิดที่ 35.52 USDต่อออนซ์เพิ่มขึ้น 0.19 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 35.05 — 35.63 ishares silver trust ซื้อโลหะเงินเพิ่มขึ้น 22.66 ตัน รวมถือโลหะเงินจำนวน 9,715.62 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 35.0/34.6 แนวต้านบริเวณ 35.7/36.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 34.6 — 36.3
- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,284.61 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวรับบริเวณ 1,764/1,756 แนวต้านบริเวณ 1,780/1,794 ภาพรายวัน เมื่อราคาทองคำชนแนวต้านบริเวณ 1,787 และ RSI ส่งสัญญาณ Divergence ส่งผลให้ราคาปรับตัวอ่อนลงมา โดยคาดว่าจะมีแนวรับแรกที่เส้น Fibonacci 61.8% บริเวณ 1,756 ซึ่งหากราคายังรับอยู่ ยังมีทิศทางเป็นขาขึ้นต่อ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,756 — 1,803 นักลงทุนระยะสั้น รอเปิด Long บริเวณ 1,756 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,803 โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,740
++ โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 35.0/34.6 แนวต้านบริเวณ 35.7/36.3 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 34.6 — 36.3