กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--ตรีอรรถบูรณ์
บริษัท ตรีอรรถบูรณ์ จำกัด เริ่มต้นในเส้นทางอุตสาหกรรมพลาสติกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว จากการเป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์เล็กๆ ที่มีการดำเนินงานด้วยระบบครอบครัว อาศัยประสบการณ์และเก็บเกี่ยวความรู้ จนสามารถผันตัวเองเข้าสู่ธุรกิจฉีดพลาสติก ควบคู่กับการผลิตแม่พิมพ์ หลังจากนั้น 10 ปีต่อมา ด้วยทิศทางการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป บริษัทจึงหันมาผลิตสินค้าพลาสติกที่ทดแทนไม้ เช่น ลังผลไม้ ลังน้ำดื่ม ลังสินค้าประมง และได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์มาสู่สินค้าประเภทพาเลท ถังขยะเมื่อปี 2529 จากความมุ่งมั่นและไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตนเอง โดยการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และการมองการณ์ไกลของผู้บริหาร ทำให้ ณ วันนี้พาเลทพลาสติกภายใต้แบรนด์ T.A.Bสามารถครองยอดขายอันดับ 1 ในประเทศมากกว่า 10 ปี
คุณฉัตรรัตน์ หิรัญเชาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีอรรถบูรณ์ จำกัด กล่าวถึงปัจจัยแห่งการนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จว่า ลูกค้ามีส่วนสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มธุรกิจนี้ ช่วยพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในการกำหนดคุณสมบัติทำให้มีการพัฒนาตนเองมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทถือว่าได้คุณภาพมากเกินมาตรฐานและข้อกำหนดของสินค้าส่งออก เช่น JIS Z0602 ที่เป็นมาตรฐานการทดสอบพาเลทระดับโลก ซึ่งการพัฒนาพาเลทของบริษัทก็ก้าวสู่One Way Pallet ที่มีน้ำหนักเบา ปริมาณเม็ดพลาสติกที่ใช้ลดลง แต่ในแง่การใช้งานยังเหมือนเดิม ทั้งการรับน้ำหนัก การทนแรงกระแทก และค่าการรับน้ำหนักขณะเคลื่อนย้าย (Dynamic Load)
อนาคตการแข่งขันของธุรกิจจะไม่แข่งกันเฉพาะในเรื่องของต้นทุนในการผลิตสินค้าเท่านั้น แต่จะสู้กันเรื่องต้นทุนค่าขนส่ง ซึ่งนับวันต้นทุนนี้จะสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ตามราคาของน้ำมัน ถ้าเราช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งของลูกค้าได้ ก็จะเกิดมูลค่าทั้งห่วงโซธุรกิจ สำหรับพาเลทภายใต้แบรนด์ T.A.B มีหลากหลายให้ลูกค้าเลือก ไม่ว่าจะเป็นพาเลทพลาสติกสำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น อุตสาหกรรมน้ำดื่ม อุตสาหกรรมรถยนตร์ พาเลทพลาสติกสำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนักปานกลาง เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ พาเลทพลาสติกสำหรับงานรับน้ำหนักเบา เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสุดท้ายพาเลทพลาสติกสำหรับการส่งออกที่มีคุณสมบัติในการรับน้ำหนักบรรทุกได้ดีแต่น้ำหนักของพาเลทจะเบา ทำให้ประหยัดทั้งค่าขนส่ง เช่น พาเลทอุตสากรรมส่งออกอาหาร อุตสาหกรรมส่งออกเครื่องประดับและอัญมณี ทั้งนี้ พาเลทของบริษัทยังเป็นกรีนพาเลท เพราะ 100 เปอร์เซ็นต์สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ลูกค้าสามารถนำพาเลทที่ไม่ใช้งานแล้วมาขายต่อคืนให้บริษัทเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ถึงเดือนละ 1,500 ตันเพื่อนำไปผลิตใช้ใหม่ลดการใช้ทรัพยากรลง
ด้านกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลักของบริษัทประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เช่น เสริมสุข (แป๊บซี่),ไทยน้ำทิพย์ (โค้ก), ไทยเบฟเวอร์เรจ (เบียร์ช้าง) กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์, TUF, เนสเล่ย์, FF ,อายิโนะโมโต๊ะ, เบทราโกร กลุ่มอุตสาหกรรมยา เช่น Zurich Phama กลุ่ม FMCG เช่น โอสถสภา, ยูนิลิเวอร์ กลุ่มค้าปลีก เช่น Lotus, Big C, Makro, Carefour รวมทั้ง กลุ่มปิโตเคมีชั้นนำและกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ๆที่จะเข้าไปขยายฐานเพิ่มในปีนี้คือกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและอาหารแปรรูปและอุตสาหกรรมยา คาดว่าแนวโน้มน่าจะไปได้ดี
“การดำเนินธุรกิจพลาสติก สิ่งที่สำคัญที่สุดมีอยู่ 2 ประการ คือการออกแบบสินค้าให้มีความหลากหลาย การคำนวณเชิงวิศวกรรมจะต้องแม่นยำถูกต้องมีคุณภาพ ถูกใจลูกค้า แต่ได้ในต้นทุนที่ถูกลง และฝ่ายขายต่อไปจะกลายเป็นวิศวกรฝ่ายขาย ความสำคัญของวิศวกรรมจะเข้ามามากขึ้น และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบริการหลังการขาย ต้องมีการพัฒนาร่วมกับลูกค้าให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ขายได้แล้วก็จบ และทิศทางการแข่งขันต่อไปจะมาถึงจุดที่ผู้ประกอบการจะอยู่ได้ต้องแข็งทุกด้าน ไม่ใช่แข็งด้านใดด้านเดียว ทั้งในเรื่องของต้นทุนสินค้า และต้นทุนในเรื่องค่าขนส่งที่อนาคตอันใกล้นี้จะมีบทบาทมากขึ้น ถ้าลดต้นทุนนี้ได้การแข่งขันก็จะง่ายขึ้น ดังนั้นพาเลทในยุคต่อไปจึงไม่ใช่แค่ขนถ่ายสินค้าไปยังที่หนึ่งเท่านั้นแต่ต้องช่วยผู้ประกอบการในเรื่องประหยัดต้นทุนโลจิสติกส์ด้วย” คุณฉัตรรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อ:
บริษัท ตรีอรรถบูรณ์ จำกัด
สำนักงานใหญ่ : 69/2 ม.11 ถ.พุทธมณฑลสาย 5 ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
สาขาระยอง : 99/9 หมู่ 6 ตำบลมะขามคู่ กิ่ง อ.นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง 21180
โทรศัพท์: 02 811 8118 โทรสาร: 02 811 8115 อีเมล์: marketing@tre-atthaboon.com