แรงงานป่วน ตลาดรับสร้างบ้านเสี่ยงถดถอย

ข่าวอสังหา Thursday March 1, 2012 13:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--ส.ไทยรับสร้างบ้าน ส.ไทยรับสร้างบ้าน (THCA) แจงสองเดือนแรกผลสำรวจกำลังซื้อผู้บริโภคยังซึมๆ ฝากผู้ประกอบการไม่มั่นใจตลาดปี 55 ฟื้นจริง ชี้ปัญหาแรงงานขาดแคลนอยู่ในระดับวิกฤติ อาจฉุดมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านปีนี้ถดถอย แนะเร่งปรับตัวเรียกความเชื่อมั่นผู้บริโภค ชูสถาบันสอนอาชีพสร้างบ้าน ฝึกบุคลากรป้อนผู้ประกอบการแก้ปัญหาแรงงานระยะยาว สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) ชี้ตลาดรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแม้จะยังซึมต่อเนื่องจากไตรมาสสี่ปีที่แล้ว แต่ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงท้ายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากการสำรวจความเห็นของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ พบว่ากลุ่มผู้บริโภคที่เคยชะลอการตัดสินใจเริ่มกลับเข้ามาพูดคุยเรื่องสร้างบ้านมากขึ้น รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่มีแผนจะสร้างบ้านภายในปีนี้ก็เข้ามาติดต่อเพิ่มขึ้นเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่เริ่มคลายกังวลบ้างแล้ว สำหรับในแง่ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2555 นี้ สมาคมฯ ได้ทำการสอบถามความเห็นสมาชิกและผู้ประกอบการทั่วไป โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 52% เชื่อว่าความต้องการหรือกำลังซื้อมีแนวโน้มเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 32% เชื่อว่ากำลังซื้อใกล้เคียงกับปีก่อน และผู้ตอบจำนวน 16% เชื่อว่ากำลังซื้อลดลง (ดูกราฟประกอบ) จากผลสำรวจดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังมีความกังวลและไม่มั่นใจว่าภาวะตลาดจะกลับมาเติบโตได้จริง โดยชี้ว่าปัจจัยทีมีผลกระทบสำคัญๆ 3 อันดับแรกได้แก่ 1.ความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อปัญหาน้ำท่วม 2.ปัญหาแรงงานขาดแคลน และ 3.ต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นจากค่าแรงและราคาน้ำมัน "อย่างไรก็ดี สมาคมฯ ประเมินว่าแนวโน้มกำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลแม้จะฟื้นตัวกลับมา แต่อาจไม่ช่วยให้มูลค่าแท้จริงตลาดรับสร้างบ้านเติบโตได้มากนัก ทั้งนี้เป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถเร่งรัดการก่อสร้างบ้านได้เป็นปกติ ด้วยเหตุที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ซึ่งปีนี้สถานการณ์รุนแรงกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังใช้ระบบหล่อโครงสร้างแบบเดิมๆ ส่งผลให้การรับรู้รายได้และจำนวนบ้านที่สร้างเสร็จไม่เติบโต" ทั้งนี้ จากสถานการณ์และแนวโน้มที่กล่าวข้างต้น สมาคมฯประเมินว่าปริมาณและมูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรกน่าจะอยู่ในภาวะทรงตัว ฉะนั้นจำเป็นที่ผู้ประกอบการในธุรกิจนี้จะต้องเร่งวางกลยุทธ์ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและกำลังซื้อกลับคืนมาโดยเร็ว ทั้งในแง่การพัฒนาสินค้าและบริการ เช่น ออกแบบบ้านน้ำไม่ท่วม การเลือกใช้วัสดุทนน้ำ ฯลฯ เป็นต้น รวมถึงควรหันมาใช้ระบบก่อสร้างสำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูป แทนการก่อสร้างระบบเดิมมากขึ้น เพื่อลดการใช้แรงงานและแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลน นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจก่อสร้างและรับสร้างบ้าน ทั้งแรงงานระดับวิชาชีพและช่างฝีมือจัดอยู่ในขั้นวิกฤติแล้ว โดยแนวทางแก้ไขทั้งระยะสั้นและระยะยาว สมาคมฯ มองว่าผู้ประกอบการจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ที่จะผลิตบุคลากรหรือพัฒนาแรงงานฝีมือขึ้นมาป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจของตัวเอง อาจจะเป็นรูปแบบการเปิดโรงเรียนหรือสถาบันสอนอาชีพสร้างบ้าน โดยมีหลักสูตรการสอนในสาขาอาชีพที่ผู้ประกอบการมีความต้องการบุคลากรสาขานั้นๆ เช่น ช่างเขียนแบบ นักประเมินราคา ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง เจ้าหน้าที่ขาย ช่างฉาบปูน ช่างปูกระเบื้อง ฯลฯ เป็นต้น โดยวางกรอบไว้สำหรับผู้ที่เรียนจบหลักสูตร ผู้ประกอบการพร้อมรับเข้าปฏิบัติงานทันที ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างมีระบบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็เป็นโครงการหนึ่ง ที่สมาคมฯ กำหนดไว้ในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านประเทศไทย โดยจะเริ่มขับเคลื่อนตั้งแต่ปี 2555 นี้เป็นต้นไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ