กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานนี้ปิดที่ 1,722.20 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.90 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,695.10 — 1,727.30 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,721 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ rebound ขึ้นเมื่อวานนี้หลังการปรับลดลงแรง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและการเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมัน และแรงเข้าช้อนซื้อของนักลงทุนในช่วงที่ราคาปรับลดลงแรง คาดว่า กรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้อยู่ระหว่าง 1,600 — 1,800 USDต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อราคาทองคำ ถ้าหากราคายังยืนเหนือบริเวณ 1,700 USDต่อออนซ์ได้ ส่วนการปรับลดลงต่ำกว่าเส้น MA 200 วัน และเส้น MA 75 วัน บริเวณ 1,675 — 1,685 จะแสดงสัญญาณ bearish มากขึ้น และอาจลงไปที่บริเวณ 1,650/1,600 USDต่อออนซ์ได้ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ถือต่อ โดยในระยะสั้น (1 สัปดาห์) มีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,760 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,688 ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ( 3 เดือน) คาดว่าอยู่ในกรอบ 1,650 — 1,850 ที่เปิด Long ไว้บริเวณ 1,700 ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,800/1,850 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,680 USDต่อออนซ์ นักลงทุนระยะยาว (12 เดือน) คาดว่าอยู่ในกรอบ 1,600 — 2,000 USDต่อออนซ์ แนะนำ ถือ Long ต่อถ้าไม่หลุดต่ำกว่า 1,700 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,920/ 2,000 USDต่อออนซ์ นักลงทุนที่มีสถานะ Long ที่ระดับราคา 1,700 USDต่อออนซ์ หรือสูงกว่ามีจุด Stop Loss ถ้าหลุดบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,675 USDต่อออนซ์
Technical Analysis
ภาพกราฟในรายวันมีแนวต้านแรกบริเวณเส้น MA 4 วัน 1,730 และถัดไปบริเวณเส้น MA 9 วัน 1,753 ส่วนแนวรับมีที่บริเวณ 1,707/1,688 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้ราคามีโอกาส rebound ขึ้นมาที่บริเวณแนวต้าน 1,730 ภาพกราฟในราย 4 ช.ม. มีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,760 ที่เส้น MA 50 ในราย 4 ช.ม. การลดลงอย่างแรงและรวดเร็ว ทำให้อาจมีการ rebound ขึ้นได้แรงเช่นกัน โดยนักลงทุนยังมีความต้องการซื้อในช่วงราคาปรับลดลง หรือ buy the dip
Key Point in Precious Market
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงนี้ ได้แก่ ปัจจัยบวกการเข้าซื้อของนักลงทุนระยะกลาง — ยาว ที่จะมีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น เมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงแรง ( Buy the dip) เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ (จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลงต่อเนื่อง และจีนประกาศออกมาดี (ภาคการผลิตของจีนขยายตัวเกินคาด) การปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและการเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมัน จากความตึงเครียดระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก ปัจจัยลบ เช่น การร่วงลงของค่าเงินยูโร เมื่อเทียบกับเงิน USD เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดี และมีรายงานว่า ธนาคารกลางในเอเชียและกลุ่มกองทุนได้มีการเทขายยูโรออกมา หลังจากธนาคารกลางยุโรปได้อัดฉีดเงิน 5.30 แสนล้านยูโรเข้าระบบการเงิน
- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,293.68 ตัน
Spot Silver
ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 1.02 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 35.66 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 34.46 — 35.71 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ซื้อโลหะเงินจำนวน 24.2 ตัน รวมถือทั้งสิ้นจำนวน 9,767.00 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 34.3/33.83 แนวต้านบริเวณ 35.7/ 36.2 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 33.8 — 36.2