ตลท. เชื่อ 15 บริษัทในRehabco มีสิทธิ์ย้ายกลับหมวดปกติปีนี้ คาดไตรมาสแรกปี 49 ไม่เหลือบริษัทใน Rehabco

ข่าวทั่วไป Wednesday April 21, 2004 08:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตลท. เชื่อมั่นบริษัทในหมวด Rehabco มีสถานการณ์ดีขึ้นมาก คาดปีนี้จะกลับเข้าสู่หมวดปกติได้ประมาณ 15 บริษัท และจะไม่
เหลือแม้แต่บริษัทเดียวใน Rehabco ภายในไตรมาสแรกปี 2549 เผยผลสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการและปรับโครงสร้างหนี้ทำให้มูลค่าตลาด
รวมบริษัทที่ย้ายไปหมวดปกติและที่เปิดซื้อขายใน Rehabco สูงกว่า 176,000 ล้านบาท ณ 2 เม.ย.47
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทจด
ทะเบียนในหมวด Rehabco ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2541 เป็นต้นมาเพื่อให้บริษัทจดทะเบียนที่ประสบกับภาวะวิกฤติ และส่งผลกระทบต่อ
สถานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนอย่างรุนแรง จนเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากตลท.ได้มีโอกาสฟื้นฟูกิจการเพื่อแก้ไขปัญหาของบริษัท
มีบริษัทที่ย้ายมาอยู่ในหมวด Rehabco รวม 95 บริษัท
ในช่วงตั้งแต่ปี 2541 - 2545 กระบวนการในการปรับโครงสร้างหนี้ในระบบมีความล่าช้า จนเป็นเหตุให้บริษัท จดทะเบียน
ในหมวด Rehabco จำนวน 29 บริษัทได้ถูกเพิกถอน และบางส่วนขอเพิกถอนโดยสมัครใจ มีเพียงจำนวน 9 บริษัทในระยะเวลา 5 ปี
ที่สามารถฟื้นฟูกิจการสำเร็จและย้ายกลับหมวดเดิมได้
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ของบริษัทในหมวด Rehabco มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา เฉพาะ
ในช่วงปี 2546 มีบริษัทย้ายกลับหมวดปกติถึง 10 บริษัท ทำให้ปัจจุบันมีบริษัทในหมวด Rehabco เหลือจำนวน 44 บริษัท
สถานการณ์ที่ดีขึ้นนับตั้งแต่ปี 2546 ดังกล่าวเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับการใช้มาตรการเชิงรุกของตลท. ตั้ง
แต่ไตรมาส 4 ของปี 2545 เพื่อช่วยบริษัทจดทะเบียนในการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูกิจการอันเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้ถือหุ้นสาธารณชน
พร้อมทั้งแสดงเจตนารมณ์และนโยบายของ ตลท. ที่ชัดเจนต่อ แนวทางฟื้นฟูกิจการของบริษัทในหมวด Rehabco โดยเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยว
ข้องเห็นประโยชน์จากการใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา
"ตลท.ได้กำหนดแนวทางดำเนินการกับบริษัทในหมวด Rehabco โดยเน้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการปรับโครง
สร้างหนี้ที่คำนึงถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของบริษัทในหมวด Rehabco ซึ่งมีอยู่กว่า 120,000 ราย ที่เคยได้รับความเสียหายจากการ
ลงทุนในบริษัทดังกล่าว ได้มีโอกาสได้มูลค่ากลับคืนตามสมควร
นอกจากนี้ยังได้กำหนดนโยบายและดำเนินการในเชิงรุกหลายประการ เช่น จัดตั้งทีมงานเข้าดูแลปัญหาและให้คำปรึกษาในการ
ปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงการประสานงานให้เกิดการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้และบริษัทจด-ทะเบียน พร้อมกับมีการทบทวนกฎเกณฑ์และแนว
ทางการดำเนินงานกับบริษัทในหมวด REHABCO เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างหนี้ และให้มั่นใจว่าบริษัทที่
ได้รับการฟื้นฟูจะสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแรงและต่อเนื่อง" นายกิตติรัตน์กล่าว
นายศรายุทธ บุญเจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลท. ดูแลงานการปรับโครงสร้างหนี้บริษัทจดทะเบียน กล่าวว่า "นับตั้งแต่เดือนเมษายน
2547 นี้ ตลท. มีเป้าหมายว่าจะมีบริษัทที่ย้ายกลับไปซื้อขายในหมวดปกติได้ประมาณ 15 บริษัท จากจำนวน 44 บริษัทในปัจจุบัน ทำให้
บริษัทในหมวด Rehabco จะเหลือ 29 บริษัท ในจำนวนนี้มีบริษัทที่จัดทำแผนฟื้นฟูที่เหมาะสมแล้ว และรอผลการดำเนินงานให้เป็นไปตาม
เกณฑ์ที่ ตลท. กำหนดเพื่อย้ายกลับหมวดเดิม 12 บริษัท และคาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณ 5-6 บริษัท ภายในไตรมาส 2 ของปี 2547
อย่างไรก็ตาม ตลท. ได้มีการติดตามบริษัทที่ยังอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการทบทวนความคืบหน้าการฟื้นฟู
กิจการทุก ๆ 6 เดือน ทั้งนี้ ตลท.จะมีการพิจารณาข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในหมวด Rehabco อีกครั้งเมื่อมีการราย
งานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ซึ่งมีเพียง 2 - 3 แห่งเท่านั้นที่น่าเป็นห่วง โดยหากบริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก และมีกำไรสุทธิ
จากการดำเนินงานติดต่อกัน 3 ไตรมาสหรือมีกำไรภายใน 1 ปี และมีการปรับโครงสร้างหนี้ที่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลท.กำหนด ก็จะ
สามารถย้ายกลับไปหมวดปกติได้ โดยคาดว่าภายในเดือนมีนาคม 2549 จะไม่มีบริษัทจดทะเบียนคงเหลือในหมวด Rehabco เลย"
นายศรายุทธกล่าวต่อว่า "ความสำเร็จในการเพิ่มทุนเพื่อฟื้นฟูกิจการและปรับโครงสร้างหนี้จะเห็นได้จากความสามารถของ
บริษัทที่อยู่ในหมวด Rehabco ที่สามารถระดมเงินทุนเพิ่มได้ถึง 116,724 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการแปลงหนี้เป็นทุนประมาณ 97,592
ล้านบาท และ การเพิ่มทุนโดยผู้ร่วมทุนใหม่และ/หรือผู้ถือหุ้นเดิม 19,132 ล้านบาท
ในส่วนของบริษัทที่ย้ายกลับไปซื้อขายในหมวดเดิมแล้วจำนวน 10 บริษัท ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2546 และบริษัทที่เปิด
ซื้อขายในหมวด Rehabco ในปัจจุบันจำนวน 15 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมเพิ่มขึ้นจาก เดิม 8,986 ล้านบาท 1 เป็น
176,064 ล้านบาท2 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เท่า"
หมายเหตุ :
1 คำนวณจากมูลค่าสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP/เข้ามาในหมวด Rehabco
2คำนวณ ณ 2 เม.ย. 47
รายชื่อบริษัทที่ย้ายกลับสู่หมวดปกติตั้งแต่ต้นปี 2546 จำนวน 10 บริษัท
หลักทรัพย์ บริษัท ย้ายกลับหมวด
1 BH บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) การแพทย์
2 DISTAR บริษัทไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์
3 EMC บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
4 GEN บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่ง
5 KMC บริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
6 MEDIAS บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) บันเทิงและสันทนาการ
7 N-PARK บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
8 PICNI บริษัท ปิคนิคแก๊ส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) พลังงาน
9 RCI บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่ง
10 SKR บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) การแพทย์
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 / รุ่งรัชนี อริยภิญโญ โทร.0-2229-2659
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037 / ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-นท-

แท็ก ตลท.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ