กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,702 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,699 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.64บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท และกลับมาปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 3,173 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 8,853 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 11 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.3% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2% GFJ12 ปิดที่ 24,860 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 25,030บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,840 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 25,040บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 12.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,711.50 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 38.10 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.21 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,293.67 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ระดับ 107.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 14.80จุด ปิดที่ระดับ 12,922.02 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 50 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
- สหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นอีกครั้งทางตอนใต้ของอิสราเอล ขณะที่กลุ่มกองกำลังในบริเวณฉนวนกาซ่าได้ยิงจรวดไปยังอิสราเอล และอิสราเอลก็ทำการตอบโต้กลับมาโดยนาย วิคตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวผ่านทางแถลงการณ์ว่า เราเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นทางตอนใต้ของอิสราเอล และขอประณามการยิงจรวดโดยกลุ่มก่อการร้ายจากทางกาซ่าไปยังพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงมากยิ่งขึ้น
- นายฌอง-คล็อด ยุงค์เกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปกล่าวเมื่อวานนี้ว่า กรีซได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทุกประการสำหรับการได้รับเงินกู้งวดที่ 2 และยูโรโซนพร้อมที่จะเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับกรีซ นายยุงค์เกอร์ระบุถึงการประเมินล่าสุดของกลุ่ม ว่า "กรีซได้ดำเนินการตามเงื่อนไขทั้งหมดอย่างน่าพอใจ "ยูโรกรุ๊ปพอใจในการเข้าร่วมของภาคเอกชนในระดับสูงในข้อเสนอแลกเปลี่ยนตราสารหนี้ของกรีซ ซึ่งจะมีผลอย่างมากในการปรับปรุงความสามารถในการจัดการหนี้สินของกรีซ"
- นางคริสเตียน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กล่าวว่า เธอจะเสนอให้ไอเอ็มเอฟจ่ายเงินสมทบ 2.8 หมื่นล้านยูโร ในแผนความช่วยเหลือกรีซรอบ 2"โดยนางลาการ์ดได้หารือกับคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟและรัฐบาลกรีซเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยนางลาการ์ดตั้งใจที่จะเสนอการจัดการเงินทุน 2.8 หมื่นล้านยูโร ภายใต้วงเงินกองทุนส่วนขยาย (EFF) ของไอเอ็มเอฟ เพื่อสนับสนุนแผนเศรษฐกิจของกรีซในช่วง 4 ปีข้างหน้า
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยเมื่อเย็นวันศุกร์ว่า มูดีส์พิจารณาว่ากรีซผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่กรีซและยูโรโซนยืนยันว่า ข้อตกลงสว็อปหนี้กรีซจะดำเนินต่อไป การตัดสินใจด้านเครดิตดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นักลงทุนเอกชนที่ถือครองพันธบัตรกรีซ 85.8% ได้ตกลงที่จะเข้าร่วมในข้อตกลงแลกเปลี่ยนตราสารหนี้กรีซมูลค่า 2.06 แสนล้านยูโร จะทำให้หนี้สินของกรีซลดลงอย่างมาก "ตามคำจำกัดความของมูดีส์ การแลกเปลี่ยนนี้แสดงถึง"การแลกเปลี่ยนตราสารหนี้ที่มีปัญหา" และดังนั้น จึงเป็นการผิดนัดชำระหนี้" มูดี้สระบุในแถลงการณ์ในเว็บไซท์
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรทติ้งส์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงชั่วคราวสู่ระดับ"การผิดนัดชำระหนี้ในวงจำกัด" หลังการยืนยันจากรัฐบาลกรีซและเจ้าหน้าที่ยูโรโซนว่า การลดหนี้สินของกรีซจะดำเนินต่อไป การปรับลดเครดิตดังกล่าว ทำให้อันดับเครดิตของกรีซที่ฟิทช์จัดให้นั้นอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ขณะที่ฟิทช์มีแนวโน้มปรับเพิ่มอันดับเครดิตกรีซทันทีที่ขั้นตอนการลดหนี้สินเสร็จสิ้นลง
- รัฐมนตรีคลังยุโรปอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซ 3.55 หมื่นล้านยูโร พร้อมสนับสนุนโครงการสว็อปพันธบัตรกับเจ้าหนี้ภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงการนำกฎ collective action clauses (CAC) มาบังคับใช้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงการคลังกรีซได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า เจ้าหนี้ในภาคเอกชนจำนวน 85.8% ได้ยอมรับข้อเสนอสว็อปพันธบัตรแล้ว และสัดส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 95.7%แถลงการณ์ของกระทรวงการคลังกรีซระบุว่า มุลค่าพันธบัตรของกรีซในโครงการดังกล่าวอยู่ที่ 1.72 แสนล้านยูโร โดยเงื่อนไขของข้อตกลงระบุว่านักลงทุนจะต้องยอมรับการขาดทุนราว 74% ของพันธบัตรที่ถือครองทั้งนี้ กรีซได้แจ้งให้หุ้นส่วนในต่างประเทศได้รับทราบแล้วว่า กรีซตั้งใจจะบังคับใช้กฎ CAC ต่อเจ้าหนี้ทุกรายที่ถือครองพันธบัตรภายในวงเงิน 1.77 แสนล้านยูโร ตามกฎหมายกรีซ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส กล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และเป็นข่าวดี โดยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ทั้งหมดที่ได้มีการตั้งเอาไว้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ของกรีซ และธนาคารในยุโรปกว่า 30 แห่ง รวมถึงธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศส และคอมเมิร์ซแบงก์ เอจี ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ธนาคารจะตกลงเข้าร่วมในแผนการปรับโครงสร้างหนี้กรีซ
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้จะทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้วยังคงอ่อนแอ โดยโอเปคระบุในรายงานคาดการณ์ตบาดน้ำมันประจำเดือนล่าสุดว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเท่ากับรายงานในเดือนก่อนหน้านี้ โดยอ้างถึงอัตราการขยายตัวที่อ่อนแอในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุปสงค์น้ำมันนอกจากนี้ โอเปคยังคาดการณ์ด้วยว่า ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น แต่วิกฤตหนี้ยุโรปที่เกิดขึ้นควบคู่กับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่ออุปสงค์น้ำมันในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ลงคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นต่อร่างกฎหมายกระตุ้นธุรกิจใหม่ (Jumpstart Our Business Startups หรือ JOBS) โดยร่างกฎหมายดังกล่าว จะอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กในการระดมทุน และการจ้างพนักงาน และการที่ร่างกฎหมายนี้ ได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญคืนวันศุกร์
- Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 284,000 คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 209,000 ตัวเลขจริงออกมาที่ 227,000
- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -50.4B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวสู่ระดับ-48.9B ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ -52.6B
-Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 8.3% คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ระดับ 8.3% ตัวเลขจริงเท่าเดิมที่ระดับ 8.3%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญวันนี้
- Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 27.4B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 229.2B
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำแกว่งตัวอย่างมากในคืนวันศุกร์หลังจากที่ตกลงไปช่วงหัวค่ำ โดยที่รับข่าวอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ Non-Farm Employment ดีขึ้น ราคาลงไปทำต่ำสุดที่ประมาณ 1678 เหรียญ ก่อนที่จะมี Technical Roboundกลับมายืนที่ระดับ 1700 เหรียญได้อีกคริ้ง โดยไปทำจุดสูงสุดที่ประมาณ 1713 เหรียญ ในเช้าวันนี้ภาพรวมโดยทั่วไปเป็นการกังวลเรื่องสวอปหนี้ของกรีซ และยังมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ โดย ฟิทช์ เรทติ้ง ภาพรวมจึงมีแรงเทขายค่ายูโรออกมาเช้านี้ค่าเงินยูโรอยู่ที่ประมาณ 1.3090 ดอลลาร์/ยูโร ราคาทองคำและsilver เองถูก Take Profit ลงมาอยู่ที่ระดับ 1708 เหรียญ ภาพรวมวิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำกำลังเข้าสู่ทิศทางขาขึ้น เป็นลักษณะสะสมพลังอย่างช้าๆซึ่งจะเป็นการเคลื่อนตัวแบบทิศทาง Sideway ไปสักระยะก่อน ระหว่าง 1700-1720 เหรียญ แนะนำให้ช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับและขายบริเวณแนวต้าน โดยค่าเงินบาทเป็นตัวแปรสำคัญ โดยเงินบาทแกว่งอย่างมาก ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.55 บาท/ดอลลาร์ และในเช้าวันนี้มาอยู่ที่ระดับ 30.64 บาท/ดอลลาร์ สรุปได้ว่าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1720 เหรียญได้ จึงจะเป็นภาวะกระทิง หรือหากเป็นทองคำแท่ง ราคาทองคำแท่งต้องยืนเหนือระดับ 24900 บาท/บาททองคำ
Silver —มีทิศทางเช่นเดียวกับทองคำ โดยมีแนวต้านที่ระดับ 34.25 เหรียญ และสามารถขึ้นไปทดสอบเมื่อคืนวันศุกร์ได้ ถ้า Silver สามารถยืนเหนือระดับ 34.25 เหรียญได้ จะเข้าสู่ภาวะกระทิง
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,050 บาท
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,200บาท
Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,030 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในกรอบ 1700-1720 เหรียญ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวและขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
แนะนำให้ขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้าน และปรับพอร์ตเพิ่มขึ้นเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ โดยคาดว่าคงขายทำกำไรในวันศุกร์ไปแล้วบางส่วน ถือครองพอร์ตประมาณ 40 %
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
หาจังหวะเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ทประมาณ 50 %
สรุปได้ว่า ราคาทองคำยังคงเป็นทิศทาง Sideway ต่อไป
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง