ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 14, 2012 09:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส Price Movement ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดที่ 1,694.20 USDต่อออนซ์ ลดลง 5.60 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,662.10 — 1,706.20 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ COMEX บริเวณ 1,700.80 USDต่อออนซ์ ราคามีความเคลื่อนไหวผันผวน และถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงิน USD จากผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เมื่อ FED ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง และไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หรือ QE3 อีก นอกจากนี้ราคาทองคำยังถูกเทขายไปทำ low บริเวณ 1,662 เมื่อธนาคารเจพีมอร์แกน เชส ประกาศปรับเพิ่มเงินปันผลและการซื้อหุ้นคืนครั้งใหญ่ ทำให้ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับบวกขึ้นแรง ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับบวก 217.97 จุดหรือ 1.68% โดยนักลงทุนเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวบริเวณ 1,679 USDต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการ rebound ขึ้นจากการปรับลดลงแรงเมื่อคืนนี้ โดยมีแนวต้านแรกบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,680 และถัดไปบริเวณ 1,693 เส้น MA 4 วันและ 9 วัน และถัดไปบริเวณ 1,700 — 1,705 การลงไปทำ Low บริเวณ 1,662 ซึ่งต่ำกว่า low เดิมที่ 1,664 ส่งสัญญาณ bearish มากขึ้น คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,662 และถัดไปบริเวณ 1,656 แนะนำ นักลงทุนระยะยาว buy the dip เมื่อราคาปรับลดลงบริเวณแนวรับ 1,656 ส่วนนักลงทุนระยะสั้นปิด Long เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้าน หรือ Trading ในกรอบ 1,656 — 1,705 Technical Analysis ภาพกราฟในรายวัน RSI ส่งสัญญาณ divergence เมื่อราคาทำ low ใหม่บริเวณ 1,662 แต่ RSI ไม่ทำ low ใหม่ วันนี้มีแนวต้านแรกบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,680 และถัดไปบริเวณ 1,693 เส้น MA 4 วันและ 9 วัน การลงไปทำ Low บริเวณ 1,662 ซึ่งต่ำกว่า low ของเดิมที่ 1,664 ส่งสัญญาณ bearish มากขึ้น คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,662 และถัดไปบริเวณ 1,656 แนะนำ นักลงทุนระยะยาวรอเปิด Long บริเวณ 1,656/1,650 buy the dip ภาพกราฟในราย 120 นาทีมีแนวต้านแรกบริเวณ 1,685 — 1,693 และถัดไปบริเวณ 1,700 — 1,705 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นปิด Long เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้าน หรือ Trading ในกรอบ 1,656 — 1,705 Key Point in Precious Market - ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ การแข็งค่าของเงิน USD จากผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดคงไม่ส่งสัญญาณการมี QE 3 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การเปิดเผย Stress Test ของเฟดระบุว่า ธนาคารขนาดใหญ่มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง การประกาศเพิ่มเงินปันผลของ เจพี มอร์แกน เชส ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น และขายสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การเข้าซื้อของนักลงทุนระยะยาว buy the dip และราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นตามสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ - ประเด็นที่ต้องติดตาม การที่ยูโรโซนจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือถาวรของยุโรปก่อนสิ้นเดือนนี้หรือไม่ ในการประชุมวันที่ 30/31 มี.ค. การประชุมพลังงานนานาชาติ วันที่ 14 มี.ค. - การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ ข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2011 ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมี.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนม.ค. ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนมี.ค. วันศุกร์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค. - SPDR ขายทองคำออก 0.41 ตัน ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,293.27 ตัน ราคาโลหะเงินปิดเพิ่มขึ้น 0.17 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 33.58 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.00 — 33.84 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะจำนวนเท่าเดิม 9,752.67ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 33.0/32.0 แนวต้านบริเวณ 33.8/ 34.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 32.0 — 34.0

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ