กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดที่ 1,647.00 USDต่อออนซ์ ลดลง 20.30 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,641.20 -1,664.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับลดลงหลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วัน เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่สดใส ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า สหรัฐจะไม่ผ่อนคลายนโยบายการเงิน หรือ QE3 นักลงทุนได้เทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ราคาทองคำปรับลดลงตั้แต่เปิดตลาดในเอเชีย เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลง ในขณะที่มีการผละงานประท้วงในอุตสาหกรรมเครื่องประดับของอินเดียที่ดำเนินมาเป็นวันที่ 4 แล้วโดยการประท้วงนี้เพื่อคัดค้านการปรับขึ้นภาษีนำเข้าทอง นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่กองทุน ETF ทองขนาดใหญ่หลายแห่งปรับลดปริมาณการถือครองทองลงเมื่อวานนี้ ซึ่งกองทุน ETF ขายทองคำออก 56,000 ออนซ์สู่ระดับ 70.843 ล้านออนซ์ ซึ่งเป็นการลดลงครั้งที่แรงที่สุดในรอบ 2 เดือน ในช่วงเช้าวันนี้ราคาทองคำ rebound ขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,654 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟในราย 120 นาที คาดว่าวันนี้โมีแนวต้านแรกบริเวณ 1,657 และถัดไปบริเวณ 1,665/1,675 ถ้าผ่านแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,684 และแนวต้านทางจิตวิทยาที่บริเวณ 1,700 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนแนวรับแรกมีที่บริเวณ 1,650 และถัดไป 1,640/1,634 แนวรับบริเวณ 1,634 ยังเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งในขณะนี้ นักลงทุนระยะสั้นอาจเปิด Long บริเวณ 1,634/1,640 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,665/1,675 หรือ Trading ในกรอบ 1,634 — 1,675
Technical Analysis
ภาพกราฟในราย 120 นาที มีแนวรับแรกบริเวณ 1,650 และถัดไป 1,640/1,634 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,657 และถัดไปบริเวณ 1,665/1,675 ภาพกราฟในรายวันมีเส้น MA กดอยู่หลายเส้นบริเวณ ทำให้กรอบการขึ้นค่อนข้างจำกัด ส่วนการปรับลดลงต่ำกว่า 1,634 จะส่งสัญญาณ bearish มากขึ้น และมีเป้าหมายการลงที่บริเวณ 1,600. ภาพกราฟในรายสัปดาห์จากการปรับลดแรงในสัปดาห์ก่อนทำให้สัญญาณทางเทคนิคแสดงทิศทางขาลง แต่ในระยะสัปดาหห์มีโอกาส rebound ขึ้นได้ที่บริเวณ 1,675/1,685 ซึ่งเป็นโอกาสที่นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ปิดสถานะทำกำไร หรือตัดขาดทุนถ้าเปิด Long ไว้ในระดับราคาที่สูง ส่วนผู้ไม่มีสถานะถ้าไม่ผ่าน 1,675/1,685 เป็นจังหวะเปิด Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวรับ 1,640 / 1,625 โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,690 ส่วนนักลงทุนที่เล่นสั้น 1 — 2 วัน Trading ในกรอบ 1,634 — 1,675
Key Point in Precious Market
- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ มีปัจจัยลบได้แก่ การขายทองคำออกของกองทุน ETF ความต้องการทองคำในอุตสาหกรรมเครื่องประดับของอินเดียลดลเนื่องจากการประท้วงหยุดงาน และจากการเพิ่มภาษีนำเข้าทองคำ การลดการถือครองทองคำเนื่องจากหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว ราคาน้ำมันร่วงลง เนื่องจากซาอุดิอารเบียเพิ่มการผลิตน้ำมัน และคาดว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยบวก ได้แก่ การอ่อนค่าของเงิน USD ในช่วงเช้าวันนี้เมื่อประธานเฟด กล่าวว่า เฟดพร้อมจะดำเนินการถ้าสถานการณ์ต่างๆย่ำแย่ลงอีกครั้ง
- ประเด็นที่ต้องติดตาม การที่ยูโรโซนจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือถาวรของยุโรปก่อนสิ้นเดือนนี้หรือไม่ ในการประชุมวันที่ 30/31 มี.ค.
- การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.พ. วันศุกร์ ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.
- SPDR ขายทองคำออก 3.02 ตัน เหลือถือทองคำจำนวน 1,290.25 ตัน
ราคาโลหะเงินปิดลดลง 1.12 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 31.83 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.75 — 32.96 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะจำนวนเท่าเดิม 9,752.67ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 31.6/ 31.3 แนวต้านบริเวณ 32.6/ 33.2แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.3 — 33.2