ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เดิม "พฤกษา เรียลเอสเตท" และจัดอันดับหุ้นกู้ใหม่และตั๋วแลกเงินที่ระดับ "BBB"

ข่าวทั่วไป Thursday April 29, 2004 14:09 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด และหุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท (PS069A) ที่ระดับ "BBB" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาทและตั๋วแลกเงินระยะยาว 100 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "BBB" โดยสะท้อนความสำเร็จของบริษัทในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรสำหรับผู้มีรายได้น้อย ต้นทุนการก่อสร้างที่ต่ำ และสถานะทางการเงินที่ยังแข็งแกร่ง ทว่าปัจจัยบวกดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนด้วยโครงสร้างการบริหารงานที่ยังพึ่งพิงตัวบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของกิจการ และความเสี่ยงของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความผันผวนและการแข่งขันค่อนข้างสูง ตามความเห็นในทางกฎหมาย ตั๋วแลกเงินให้สิทธิแก่ผู้ถือเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีประกันอื่นๆ ของบริษัททั้งหนี้ในปัจจุบันและอนาคต อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีข้อผูกพันจากผู้ออกตั๋วแลกเงินในการทำหน้าที่ต่างๆ โดยทั่วไปเหมือนกับที่ระบุในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ ดังนั้น ผู้ถือตั๋วแลกเงินจึงต้องติดตามสถานะของผู้ออกตั๋วแลกเงินอย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของตน
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท ก่อตั้งในปี 2536 โดยนายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ บริษัทเป็นผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจนมีตราสัญลักษณ์ที่เข้มแข็งในตลาดที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์สำหรับลูกค้ารายได้น้อยภายใต้ชื่อโครงการ "บ้านพฤกษา" ในปี 2545 บริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวซึ่งสามารถทำรายได้ในสัดส่วนถึง 19% ของรายได้ของบริษัทในปี 2546 ตระกูลวิจิตรพงศ์พันธุ์ถือหุ้นในบริษัท 100% มาโดยตลอดตั้งแต่ก่อตั้ง โดยมีนายทองมา ซึ่งถือหุ้น 85% ดำรงตำแหน่งทั้งกรรมการผู้จัดการและผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของบริษัท หลังจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงานในปี 2546 ทำให้บริษัทมีการกระจายอำนาจในการบริหารงานและมีบุคลากรที่มีประสบการณ์มาร่วมในทีมบริหารมากขึ้น
ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทมาจากกลยุทธ์บ้านราคาถูกซึ่งเป็นผลมาจากการมีประสบการณ์ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และทำให้บริษัทมีความสามารถในการบริหารงานก่อสร้างในเกือบทุกขั้นตอน วิธีการก่อสร้างบ้านแบบกึ่งสำเร็จรูปของบริษัทโดยใช้ระบบโครงสร้างผนังรับน้ำหนักแทนเสาและคานที่ใช้ในการสร้างทาวน์เฮ้าส์และระบบที่ใช้ในการสร้างบ้านเดี่ยวช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการก่อสร้าง นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 5 ปีสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนซึ่งช่วยให้บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์สร้างบ้านราคาถูก ในปี 2545 บริษัทได้กระจายความเสี่ยงของสินค้าโดยพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้ชื่อโครงการ "บ้านภัสสร" ในระดับราคา 2-3 ล้านบาทต่อหลัง หลังจากที่บ้านเดี่ยวโครงการแรกประสบความสำเร็จอย่างสูง บริษัทได้เริ่มพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวที่มีราคาสูงขึ้นในระดับ 3-10 ล้านบาทต่อหลังเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าบ้านเดี่ยว โดยที่บริษัทจะต้องเผชิญกับการแข่งขันในระดับที่สูงกับคู่แข่งที่มีชื่อเสียงแข็งแกร่งอยู่แล้วในตลาดบ้านเดี่ยว
บริษัทได้ลงทุนในโรงงานก่อสร้างผนังสำเร็จรูป 2 แห่ง โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อรองรับการขยายตัวของโครงการทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว และคาดว่าโรงงานแห่งแรกจะสามารถดำเนินการเต็มกำลังการผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2547 โรงงานดังกล่าวจะช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้างลงจาก 75 วันให้เหลือ 45 วัน และจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้แก่บริษัทได้อีกปีละประมาณ 3,600 หลังโดยบริษัทจะเริ่มใช้ผนังสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงานทดแทนผนังสำเร็จรูปซึ่งผลิตอยู่ในที่ตั้งโครงการบ้านเดี่ยวในปัจจุบัน ในปี 2546 บริษัทมีรายได้ 3,667 ล้านบาท เพิ่มจาก 2,528 ล้านบาทในปี 2545 สำหรับปี 2546 นั้น บริษัทยังคงมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งแม้จะมีความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2545 โดยมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้จากการขายลดลงจาก 34.9% ในปี 2545 เป็น 29.2% ในปี 2546 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและค่าที่ดินที่สูงขึ้น อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมลดลงจาก 179.1% ในปี 2545 เป็น 52.7% ในปี 2546 หนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 473 ล้านบาทในปี 2545 เป็น 1,872 ล้านบาท การที่บริษัทมีความต้องการเงินทุนจากภายนอกมากขึ้นเพื่อใช้ลงทุนในโรงงานก่อสร้างผนังสำเร็จรูปจะทำให้บริษัทมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนเพิ่มสูงขึ้น ทริสเรทติ้งกล่าว--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ