เผยผลวิจัย ‘สหกิจศึกษา เพื่อพัฒนาบัณฑิต’ ชี้ ‘การนิเทศฯ-ศักยภาพบัณฑิต’ สำคัญสูงสุด

ข่าวทั่วไป Wednesday March 28, 2012 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เผยผลวิจัยกระบวนการศึกษารูปแนวสหกิจศึกษา เพื่อการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 2554 แจง “การนิเทศงานสหกิจ-ศักยภาพของบัณฑิต” ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญที่สุด ตามด้วยด้านการประเมินผล ด้านการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมและด้านการจัดประสบการวิชาชีพ รวมถึงด้านทัศนคติ พฤติกรรมและด้านการปฏิบัติงาน รายงานบทสรุปผลงานวิจัยกระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษา เพื่อการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ปี 2554 ของนายชนณพรรดิ์ ดารายน มหาบัณฑิตหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการบริหารการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระบุว่า จากการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษาในภาพรวมและรายด้าน พบว่า ด้านการนิเทศงานสหกิจศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมา คือ ด้านการประเมินผลและด้านการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมและด้านการจัดประสบการณ์วิชาชีพ ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานในภาพรวมและรายด้าน พบว่าด้านความรู้มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมา คือ ด้านทัศนคติและพฤติกรรม และด้านผลการปฏิบัติงานสำหรับการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษา กับการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานในภาพรวม ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษามีความสัมพันธ์กับการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และจากผลการวิเคราะห์ปัจจัยของการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษา เพื่อการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานมาพัฒนาในการจัดการศึกษาในการพัฒนาประสิทธิภาพของบัณฑิตให้ยั่งยืน พบว่าปัจจัยของกระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษาที่มีค่าความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง กับศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงาน ได้แก่ (1) ด้านการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อม (2) ด้านการจัดประสบการณ์วิชาชีพ (3) ด้านการนิเทศงานสหกิจศึกษา และ (4) ด้านการประเมินผล ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาประสิทธิภาพของบัณฑิตให้ยั่งยืนเพราะมีระดับความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง นับว่ามีผล ต่อการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิต ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างกระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษา กับการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตที่มีระดับความสัมพันธ์ในระดับต่ำ ได้แก่ (1) ด้านการจัดหลักสูตรและ (2) ด้านการจัดภาคปฏิบัติงานสหกิจศึกษา นับว่าเป็นข้อมูลที่จะต้องนำมาปรับปรุงแก้ไขปัจจัยดังกล่าว เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพของบัณฑิตให้ยั่งยืน อนึ่ง การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับกระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษา ที่มีผลต่อการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และศึกษาความสัมพันธ์กระบวนการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษา กับการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิตในการปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และเพื่อนำปัจจัยของการจัดการศึกษารูปแบบสหกิจศึกษาเพื่อการพัฒนาศักยภาพของบัณฑิต มาพัฒนาในการจัดการศึกษาในการพัฒนาประสิทธิภาพของบัณฑิตให้ยั่งยืน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นอาจารย์ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่มีการจัดหลักสูตรสหกิจศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจำนวน 338 คน ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบความสัมพันธ์ด้วยวิธีการของสเปียร์แมนแรงค์ (Spearman Rank correlation coefficient)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ