กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,642 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,631 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.00 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,000 บาท กับ 24,100 บาท และกลับมาปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,805 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,167 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 22 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 4% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2% GFJ12 ปิดที่ 24,110 บาท เและ GFM12 ปิดที่ 24,300 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 24,090 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,290 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,632 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 1.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 30.53 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,281.93 ตัน (ขายออก 4.2 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 77 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 103.11 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 102.09 จุด ปิดที่ระดับ 12,927.17 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นและตลาด base matels เนื่องจากสัญญาณทางระบบการเมืองของยุโรปอาจเกิดความผิดหวังในช่วงที่ไม่ถูกกาลเทศะเช่นนี้
RBC Capital Markets กล่าวว่า วันจันทร์ที่ย่ำแย่ที่เกิดขึ้นจากความกังวลในวันศุกร์ ตามที่ผู้ขายทองคำได้ติดตามในตลาดอื่นๆ โดยความกังวลในการฟื้นตัวเล็กน้อยและปัญหายูโรโซนเป็นสาเหตุให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเศรษฐกิจและตัววัดชี้ทางการเงินอย่างคอปเปอร์และซิลเวอร์
นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ได้ประกาศเตือนในช่วงสุดสัปดาห์ถึงปัญหาในยูโรโซนว่าไม่สามารถแก้ไขโดยนโยบายทางการเงินเพียงอย่างเดียว และได้ต่อต้านความกดดันจากไอเอ็มเอฟและทางการคลังของสหรัฐฯ ให้มีมาตรการที่เข้มงวดกว่านี้เพื่อปกป้องวิกฤตหนี้ไม่ให้แผ่ขยายออกไป ความเห็นดังกล่าวได้ทำให้ตลาดทองคำเกิดความผันผวน ตามที่เทรดเดอร์มีความกังวลว่าอีซีบีอาจกลายเป็นผู้ไม่ได้เตรียมอัดฉีดสภาพคล่องใหม่ในระยะอันใกล้
- ยูโรสแตท เปิดเผยว่า 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมหนี้ แม้ว่ารัฐบาลสามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณลงมาอยู่ที่ระดับ 4.1% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจในปี 2554 จากระดับ 6.2% ของจีดีพีในปี 2553 ก็ตาม ข้อมูลระบุว่า มาตรการรัดเข็มขัดที่เข็มงวดได้ส่งผลต่อยอดขาดดุลงบประมาณดังกล่าว แต่ถึงกระนั้นตัวเลขหนี้สินโดยรวมของประเทศยูโรโซนกลับเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.3% ของจีดีพี เป็น 87.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการรวมตัวกันของยูโรโซนในปี 2542
- กรีซเผยยอดขาดดุลงบประมาณลดลงแตะ 9.1% ของจีดีพีลดลงจาก 10.3% ในปี 2554 กรีซจำเป็นต้องลดยอดขาดดุลงบประมาณลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 3% ของจีดีพีภายในปี 2558 ภายใต้แผนการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและการปรับลดรายจ่ายครั้งใหญ่ผ่านการใช้ มาตรการรัดเข็มขัดที่ได้ตกลงไว้กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศเมื่อเดือน พ.ค.2553 อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวดำเนินไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศถดถอย มาก ขณะที่มีการลดเงินเดือนและขึ้นภาษีอย่างรุนแรง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิม 70.2 คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ 69.9
- New Home Sales ตัวเลขเดิม 313,000 หลัง คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ 321,000 หลัง
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นตลาด COMEX โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,623 เหรียญโดยประมาณ ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาปิดที่ปลายตลาด COMEX ที่ระดับ 1,632 เหรียญ โดยที่ค่าเงินบาทก็กลับมาอ่อนค่าขึ้น โดยยืนอยู่เหนือระดับ 31.00 บาท/ดอลลาร์ ขึ้นมาพร้อมกับค่าเงินดอลลาร์จากเมื่อวาน ณ ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 31.02 บาท/ดอลลาร์ โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาลง โดยที่เป็นลักษณะ Sideway Down มาโดยตลอด แนวรับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,620 เหรียญ แนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,640 เหรียญ เป็นการกดต่ำลงมาเรื่อยๆ ตลาดคงรอดูถ้อยแถลงของ FED ในการประชุมพรุ่งนี้ตอนกลางคืน โดยที่ผลกระทบในภาพรวมยังเป็นลักษณะของค่าเงินยูโรที่มีการแกว่งตัวในทิศทางขาลงเช่นเดียวกัน จากความวุ่นวายของด้านระบบการเงินที่ส่งผลต่อระบบการเมืองในประเทศต่างๆ
Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,270 บาท
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,480 บาท
Silver Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 960 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในทิศทางขาลง ในกรอบที่ระดับ 1,620 — 1,640 เหรียญ ให้ขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ยังแนะนำให้ลดพอร์ทลงต่อเนื่องโดยตัดขายออกไป จากการที่ราคาไม่สามารรถยืนอยู่เหนือระดับ 1,640 เหรียญได้ ให้ลดพอร์ทลงเหลือ 10%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ลดพอร์ทลงเหลือประมาณ 20% รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น
สรุปได้ว่า โดยภาพรวมราคาทองคำยังเป็นทิศทางแนวโน้มขาลง โดยยังมีทิศทางที่ถูกกดดันต่อเนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินยูโร และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คงต้องรอข่าวสำคัญในการแถลงของFEDในวันพุธ โดยส่วนใหญ่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯดีขึ้นบ้างเล็กน้อยไม่มาก Gold Future series J จะหมดอายุในอีก 4 วัน แนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนไปถือ series M ได้แล้ว โดยไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่มใน Series J และหาจังหวะปิด Series J
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง