รมว.ทส.ชี้ทางออกแก้ปัญหาบุกรุกป่า เสนอ ปปง.ยึดทรัพย์ผู้มีอิทธิพล

ข่าวทั่วไป Monday May 24, 2004 17:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่และตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยและโคลนถล่ม ที่ตำบลแม่ระมาด อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตากว่า สาเหตุสำคัญของความเสียหายที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากการบุกรุกทำลายป่า และอีกส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากภัยธรรมชาติอันเนื่องจากการเกิดพายุไซโคลนพัดผ่าน ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากกว่าปกติ
สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่านั้น นายสุวิทย์กล่าวว่า จำเป็นต้องเข้มงวดและเอาจริงกับผู้ที่บุกรุกทำลายป่าอย่างไม่ละเว้นแม้ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล นายทุน ตลอดจนชาวบ้านหรือชาวเขาที่ถูกผู้มีอิทธิพลว่าจ้างมาอีกต่อหนึ่งก็ตาม โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะร่วมมือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ทหาร และผู้ว่าราชการจังหวัด
ในการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำผิดที่บุกรุกทำลายป่า ซึ่งจะต้องส่งดำเนินคดีและให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทำการตรวจสอบทรัพย์สิน และอาจถึงขั้นยึดทรัพย์หากมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นผู้บุกรุกทำลายป่าจริง “ที่ผ่านมาการจับกุมดำเนินคดีกับผู้บุกรุกและลักลอบตัดไม้ทำลายป่านั้น เป็นการกระทำแบบลูบหน้าปะจมูก มีการจับกุมแต่ไม่ดำเนินคดี และไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ ซึ่งในเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าต้องหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการลงโทษให้ได้” นายสุวิทย์กล่าว
ด้านนายสวัสดิ์ ศรีสุวรรณดี ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้รายงานสรุปความเสียหายจากอุทกภัยและโคลนถล่ม ของอำเภอแม่ระมาด จ.ตาก ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2547 ว่า ใน 3 ตำบล ของอำเภอแม่ระมาด ซึ่งได้แก่ ต.แม่ระมาด ต.แม่ตื่น และ ต.คะเนจื้อ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 382 หลังคาเรือน คิดเป็นทั้งหมด 2,134 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งทางส่วนราชการจะได้เข้าไปให้เงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังหลังละ 30,000 บาท ส่วนครอบครัวที่บ้านเรือนเสียหายเป็นบางส่วนจะให้เงินช่วยเหลือหลังละ 20,000 บาท นอกจากนี้จะให้การช่วยเหลือในส่วนของเครื่องครัวแยกต่างหากอีกอีก 3,500 บาท--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ