สายการบินเอมิเรตส์เผยโฉมภาพลักษณ์ใหม่ ในบทบาทผู้จุดประกายความฝัน ความหวัง และสร้างแรงบันดาลใจของคนทั่วโลก ภายใต้สโลแกน “Hello Tomorrow”

ข่าวท่องเที่ยว Sunday April 29, 2012 17:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ สายการบินเอมิเรตส์ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ภายใต้สโลแกน “Hello Tomorrow” ในฐานะศูนย์กลางแห่งการเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับประสบการณ์อันน่าประทับใจในสถานที่ต่างๆทั่วโลก ทั้งนี้สายการบินเอมิเรตส์ได้เตรียมแคมเปญการตลาดแบบครบวงจรเพื่อการโปรโมทภาพลักษณ์ใหม่ในครั้งนี้จากการเป็นแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวกลายเป็นแบรนด์แห่งไลฟ์สไตล์ “Hello Tomorrow” คอนเซ็ปต์ใหม่ที่ตอบรับกับยุคสมัยปัจจุบันที่ผู้บริโภคต่างมีความคาดหวังในแบรนด์สูงขึ้น และเลือกที่จะให้ความสนใจกับแบรนด์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตนได้เท่านั้น โดยสายการบินเอมิเรตส์ต้องการจะสื่อให้ผู้บริโภครู้ว่า วันพรุ่งนี้มีอะไรมากมายรอเราอยู่ “Hello” สื่อถึงคำทักทาย ที่ถือเป็นการเชิญชวนให้ไปพบเจอผู้คน รวมถึงสัมผัสกับสถานที่และประสบการณ์ ส่วน“Tomorrow” สื่อถึงช่วงเวลา ถึงส่วนหนึ่งของความคิด และถึงความเป็นไปได้อันไร้ขอบเขตของอนาคต สายการบินเอมิเรตส์ขอเชิญชวนคุณไปเปิดโลกเพื่อพบกับสิ่งใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ไอเดียและมุมมองใหม่ๆอย่างที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน สโลแกนนี้ต้องการสื่อให้คุณได้มองชีวิตเสมือนความเป็นไปได้ที่ไม่มีจุดสิ้นสุดและใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความหมาย “สายการบินเอมิเรตส์ไม่ได้มีหน้าที่แค่การพาผู้คนไปยังสถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทางของเขา แต่เรายังเป็นแรงผลักดันของการเชื่อมโยงความหวัง ความฝันและแรงบันดาลใจของผู้คนเข้าด้วยกัน” “เอมิเรตส์ทำหน้าที่นำพาผู้คนและวัฒนธรรมต่างๆมาพบกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำจากทุกๆแห่งหน” เซอร์มอริส ฟลานากัน รองประธานกรรมการบริหาร สายการบินเอมิเรตส์และเอมิเรตส์กรุ๊ป กล่าว สายการบินเอมิเรตส์ได้เติบโตมาถึงวันนี้จากจุดเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2528 เมื่อครั้งที่สายการบินเพิ่งก่อตั้ง โดยเริ่มจากเครื่องบินเพียงสองลำ จนกระทั่งวันนี้ที่เราได้รับตำแหน่งหนึ่งในสายการบินที่มีการเจริญเติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยฝูงเครื่องบินขนาดใหญ่จำนวนกว่า 171 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 777 และ A380 สายการบินเอมิเรตส์ได้รักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เชื่อมโยงความหรูหราและความล้ำสมัยในเทคโนโลยีเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ด้วยการเป็นผู้ริเริ่มการให้บริการโทรศัพท์บนเครื่องบินในทุกชั้นที่นั่ง เป็นสายการบินแรกที่ติดตั้งจอโทรทัศน์ส่วนตัวสำหรับทุกที่นั่ง เป็นสายการบินแรกที่ให้บริการที่นั่งชั้นหนึ่งและห้องอาบน้ำบนเครื่องบินรุ่นA380ก่อนใครอีกด้วย “การปรับภาพลักษณ์ใหม่ของสายการบินเอมิเรตส์เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นทั้งสำหรับเราและผู้บริโภค การที่ตัวตนของแบรนด์เอมิเรตส์จะเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้นนั้น ทำให้เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถเข้าถึงความต้องการของคนไทยได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันเป็นอย่างดี” มร. คาหลิด บาร์ดาน ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีนของสายการบินเอมิเรตส์ กล่าว เมื่อโลกใบนี้ดูจะเล็กลงในทุกขณะ กรอบของอาณาเขตเลือนรางขึ้นทุกวัน รวมถึงการเดินทางของผู้คนที่มีมากขึ้นและอยู่เป็นหลักแหล่งน้อยลง จึงทำให้การผสมผสานกันระหว่างความคิดและจินตนาการของผู้คนการหลากหลายเชื้อชาติและภาษากลายเป็นแรงผลักดันให้โลกพัฒนาได้อย่างทุกวันนี้ สายการบินเอมิเรตส์ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นสายการบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกภายในปีพ.ศ.2558[[1]] เปรียบเสมือนตัวแทนของกลุ่มคนเหล่านี้ที่มีคำจำกัดความว่า ‘globalistas’ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของสายการบิน รวมทั้งพนักงานของเอมิเรตส์ที่ประกอบด้วยคนจากหลากหลายเชื้อชาติกว่า 45,000รายจาก 165 ประเทศทั่วโลก เอมิเรตส์ไม่ได้ปรับเพียงแค่ภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังแนวความคิดและการปฏิบัติภายในองค์กรโดยเน้นในเรื่องการกระชับความสัมพันธ์กับผู้บริโภคด้วยการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ นวัตกรรม และไอเดียต่างๆที่น่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนออกเดินทางค้นหาสิ่งที่ตนสนใจและใช้ทุกวันที่มีอย่างมีคุณค่า ด้วยกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นคนรุ่นใหม่ เอมิเรตส์จึงได้ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊คในการโปรโมทแคมเปญ “Hello Tomorrow” เพื่อเป็นช่องทางที่จะถ่ายทอดชิ้นงานโฆษณาของเราที่ได้เผยแพร่ทางโทรทัศน์ และทางสื่อโฆษณาต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้วในทุกประเทศ สามารถเยี่ยมชมโฆษณาชิ้นล่าสุดของเอมิเรตส์นี้ได้ที่ http://www.youtube.com/emirates

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ