กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--GHC Asia
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และกาแล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป แถลงเรื่องโครงการโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตันและโรงแรมเจดับบลิว แมริออทในมาเก๊าพร้อมเปิดโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ห้องสวีทล้วนแห่งแรก และโรงแรมเจดับบลิว แมริออทขนาดใหญ่กว่า 1,000 ห้องในปีพ.ศ. 2558
บริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (NYSE: MAR) และกาแล็กซี่ เอนเตอร์ เทนเมนท์ กรุ๊ป (GEG) ประกาศเซ็นสัญญาการบริหารจัดการระยะยาวสำหรับห้องพัก 1,300 ห้อง ห้องสวีทและวิลล่าลอยน้ำ ณ โรงแรมหรู 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน มาเก๊า และโรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาเก๊า ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล สำหรับการก่อสร้างโครงการกาแล็กซี่ มาเก๊า ระยะที่ 2
ทั้งนี้ โรงแรมใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้จะเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลแห่งแรกในมาเก๊า ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเปิดโรงแรมใหม่ในประเทศจีนเดือนละ 1 แห่งภายในระยะเวลา 3 ปี โดยเมื่อสิ้นสุดไตรมาสแรกของปีนี้ แมริออทมีแผนการเปิดโรงแรมในประเทศจีนทั้งที่กำลังก่อสร้างอยู่และที่เตรียมการก่อสร้าง รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 54 แห่ง และมีจำนวนห้องพักรวมกันถึง 17,000 ห้อง
โครงการกาแล็กซี่ มาเก๊า สร้างชื่อเสียงในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักตากอากาศหลักในมาเก๊า โดยรวมเอา 3 โรงแรมระดับโลก ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์และเลานจ์ต่างๆ กว่า 55 แห่งไว้ในส่วนของโครงการระยะแรกที่พัฒนาขึ้นในมาเก๊า การเพิ่มโรงแรมเดอะริทซ์-คาร์ลตัน ที่ให้บริการห้องสวีทล้วนแห่งแรก และโรงแรมเจดับบลิว แมริออท ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในโครงการระยะที่ 2 ของกาแล็กซี่ มาเก๊านี้ จะช่วยสร้างฐานทางธุรกิจที่มั่นคงยิ่งขึ้นให้กับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลในเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้
“เรารู้สึกตื่นเต้นมากสำหรับการเปิดตัวแบรนด์ของเราในมาเก๊า” มร. ไซมอน คูเปอร์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอชีย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “มาเก๊าเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเราใช้เวลาอย่างมากในการค้นหาหุ้นส่วนและทำเลที่เหมาะสมสำหรับโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน และโรงแรม เจดับบลิว แมริออท ซึ่งกาแล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปและตระกูลหลิวเป็นผู้นำทางธุรกิจที่เข้าใจตลาดและลูกค้าของตนอย่างถ่องแท้ จึงทำให้พวกเขาเป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา”
“เราสนับสนุนปรัชญาในการทำธุรกิจของกาแล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป ที่ว่า ‘World Class, Asian Heart’ ซึ่งสอดคล้องรับกับหลักปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และหลักการบริการ ‘โกลด์สแตนดาร์ด’ (Gold Standards) ของเดอะริทซ์-คาร์ลตัน ทั้งนี้ ประเทศจีนเป็นตลาดนอกภูมิภาคอเมริกาเหนือที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของเรา และการเปิดตัวแบรนด์หลักของเราทั้ง 2 แบรนด์พร้อมกันในตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นนี้ นับเป็นความมุ่งมั่นครั้งยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความมั่นใจของเราที่มีต่อมาเก๊าและกาแล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป”
"เพื่อเติมเต็มการบริการด้านที่พักในโครงการกาแล็กซี่ มาเก๊า ระยะที่ 1 เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเปิดตัวแบรนด์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ได้แก่ โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ที่มีห้องพักเป็นแบบห้องสวีททั้งหมดเป็นแห่งแรก และโรงแรมเจดับบลิว แมริออท ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะสร้างแล้วเสร็จในปีพ.ศ. 2558” ดร. เจวู หลิว ประธานกาแล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป กล่าว “หลักปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล และหลักการบริการ ‘โกลด์สแตนดาร์ด’ ของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในรสนิยมและความต้องการของลูกค้าชาวเอเชียอย่างแท้จริง ซึ่งเข้ากับปรัชญาการดำเนินธุรกิจ ‘World Class, Asian Heart’ ของกาแล็กซี่ฯ ได้เป็นอย่างดี”
โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน มาเก๊า จะเปิดให้บริการห้องสวีท 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน จำนวน 250 ห้อง ที่หรูหราและมีสไตล์ โรงแรมได้รับการออกแบบตามสไตล์ดั้งเดิมของเดอะริทซ์-คาร์ลตัน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราและทันสมัย ผนวกกับความเป็นส่วนตัวและการบริการอย่างใกล้ชิดแบบที่ไม่มีใครเทียบเท่า โรงแรมแห่งนี้จะพร้อมมอบบริการที่สมบูรณ์แบบตามแบบฉบับของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และจะตั้งอยู่บนชั้นบนของโครงการกาแล็กซี่ มาเก๊า
ส่วนห้องอาหารของโรงแรมจะมีทั้งห้องอาหารจีนแบบส่วนตัวสุดหรู ล็อบบี้เลานจ์และบาร์ บาร์ริมสระว่ายน้ำ และเดอะริทซ์ บาร์ ที่แขกสามารถชื่นชมวิวอันงดงาม ณ เส้นขอบฟ้าของเกาะโคไท
โรงแรมแห่งนี้ยังให้บริการสระว่ายน้ำดาดฟ้ากลางแจ้ง พร้อมอ่างจากุซซี่ และห้องอาบน้ำส่วนตัว 8 ห้อง ทำให้แขกได้หลีกหนีจากความวุ่นวายต่างๆ อย่างแท้จริง ในบรรยากาศหรูหราที่เน้นการผ่อนคลายและความเป็นส่วนตัว และบริการสปาของโรงแรมที่จะให้บริการนวดผ่อนคลายและทรีทเมนท์ในบรรยากาศและการตกแต่งที่หรูหราอย่างมีสไตล์
โรงแรมเจดับบลิว แมริออท มาเก๊า จะให้บริการห้องพักและห้องสวีทกว่า 1,100 ห้อง ซึ่งรวมถึงห้องพักแบบเพรสซิเดนเชียล สวีท (Presidential Suite) อันตระการตา ห้องอาหารหลักของโรงแรมจะเป็นห้องอาหารจีนที่ภายในมีห้องอาหารส่วนตัวให้แขกผู้เข้าพักได้เลือกใช้บริการ นอกจากนี้ โรงแรมแห่งนี้ยังให้บริการห้องอาหารที่บริการทุกมื้ออาหาร พร้อมทั้งให้แขกสามารถเข้าถึงการบริการห้องอาหารที่หลากหลายของโครงการกาแล็กซี่ มาเก๊า
สระว่ายน้ำที่สวยงามที่พร้อมมอบประสบการณ์ให้แขกได้ผ่อนคลายในบรรยากาศที่เงียบสงบ ในขณะที่บริการสปาของโรงแรมจะทำให้แขกผ่อนคลายในบรรยากาศหรูหราและมีสไตล์ในแบบฉบับของแบนด์เจดับบลิว แมริออท ทั้งนี้ โรงแรมยังให้บริการฟิตเนสครบวงจรและร้านทำผม
นอกจากนี้ โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน และโรงแรมเจดับบลิว แมริออท มีบริการพื้นที่สำหรับจัดประชุม งานเลี้ยง และงานอื่นๆ รวมไปถึงห้องบอลรูมบนชั้นล่างของโรงแรมทั้ง 2 แห่ง ซึ่งสามารถรองรับแขกได้ถึง 2,000 คนโดยประมาณ ที่มักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษในตลาดการจัดงานประชุมสัมมนาและนิทรรศการ (MICE) และโรงแรมยังสามารถรับรองความต้องการของการจองห้องพักเป็นหมู่คณะได้โดยตรง ณ โรงแรมแห่งใดทั้งหนึ่งหรือทั้ง 2 แห่ง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการเข้าพักและเปิดโอกาสให้แขกได้ใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมทั้ง 2 แห่งได้อย่างทั่วถึง
การเปิดตัวโรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน และเจดับบลิว แมริออท ในปีพ.ศ. 2558 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการกาแล็กซี่ มาเก๊า ระยะที่ 2 ในการพัฒนามาเก๊าภายใต้ปรัชญา “World Class, Asian Heart” ของกาเล็กซี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป
หมายเหตุ: ข้อความเกี่ยวกับวันเปิดทำการโรงแรมแห่งใหม่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต ตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง มิใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับปัจจัยและความไม่แน่นอนต่างๆ ซึ่งรวมถึงความเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์และอุปทานของจำนวนห้องพัก สภาพการแข่งขันของอุตสากรรมการบริการ ความสัมพันธ์กับลูกค้าและเจ้าของโรงแรม ความเพียงพอของเงินลงทุนเพื่อบริหารงานโรงแรม และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ดังที่ระบุไว้ในรายงานประจำไตรมาสล่าสุดของบริษัท แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ ในแบบฟอร์ม 10-Q ซึ่งสามารถทำให้มีผลที่ต่างไปอย่างมากจากสิ่งที่กล่าวและแฝงไว้ในข้อความนี้ ข้อความเหล่านี้ประกาศ ณ วันที่ออกข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ บริษัทไม่มีข้อผูกพันในการปรับปรุงข้อมูลที่มีลักษณะคาดการณ์ดังกล่าว ที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ หรือในประกาศอื่นใดที่ระบุในที่นี้
เกี่ยวกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล
แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ (NYSE: MAR) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมชั้นนำของโลก บริหารกิจการมากกว่า 3,700 แห่ง ใน 73 ประเทศและเขตปกครองพิเศษ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเบเธสดา มลรัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รายงานผลประกอบการประจำปี 2554 บริษัทฯ ทำรายได้เป็นจำนวนเงินมากกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนลดำเนินงานและบริหารจัดการโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้แบรนด์ทั้งหมด 18 แบรนด์ ได้แก่ ‘แมริออท โฮเต็ลส์ แอนด์ รีสอร์ท’ ‘ริทซ์ คาร์ลตัน’ ‘เจดับบลิว แมริออท’ ‘บุลการี’ ‘เอดิชั่น’ ‘เรเนซองส์’ ‘ออโตกราฟ คอลเลคชั่น’ ‘เอซี โฮเต็ลส์ โดย แมริออท’ ‘คอร์ทยาร์ด’ ‘แฟร์ฟิลด์ อินน์ แอนด์ สวีท’ ‘สปริงฮิลล์ สวีท’ ‘เรซิเดนซ์ อินน์’ ‘ทาวน์เพลส สวีท’ ‘เอ็กซ์ซิคิวท์ สเตย์’ ‘แมริออท เอ็กซ์เซ็คคิวทีฟ อพาร์ทเมนท์’ ‘แมริออท วาเคชั่น คลับ’ ‘แกรนด์ เรสซิเดนท์ โดย แมริออท’ และ ‘ริทซ์ คาร์ลตัน เดสทิเนชั่น คลับ’ ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานประมาณ 300,000 คน ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดและในการดำเนินธุรกิจยอดเยี่ยมซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานค่านิยมหลัก 5 ประการ คือ 1.) ทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ 2.) มุ่งสู่ความเป็นเลิศ 3.) ยอมรับการเปลี่ยนแปลง 4.) ดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม และ 5.) รักษ์โลก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือจองห้องพักได้ที่เว็บไซต์ www.marriott.com และค้นหาข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.marriottnewscenter.com