กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดันเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัด ประชุมองค์การการท่องเที่ยวโลก พ.ค.นี้ มุ่งหน้าจัด ๓ เส้นทาง Green Products พาผู้นำเที่ยวชม อวดความสมบูรณ์และความพร้อมในสินค้าและบริการของไทย งานนี้มีผู้นำระดับรัฐมนตรีของหลายประเทศ สนใจที่จะเดินทางมาร่วมงานด้วยตัวเอง
นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าได้มอบหมายให้นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการในการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในฐานะได้รับคัดเลือกจากองค์การการท่องเที่ยวโลก หรือ UNWTO (United Nations - The World Tourism Organization) ให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับภูมิภาคขององค์การการท่องเที่ยวโลก โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้หารือกับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐและเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด หอการค้า ตำรวจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงใหม่ ตัวแทนจากสวนสัตว์เปิด ไนท์ซาฟารี เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน “การประชุมร่วมคณะกรรมาธิการภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และคณะกรรมาธิการภูมิภาคเอเชียใต้ ครั้งที่ ๒๔ และ “การประชุมทางวิชาการด้านการท่องเที่ยวสีเขียวขององค์การการท่องเที่ยวโลก”(24th Joint Meeting UNWTO Commission for East Asia and the Pacific and UNWTO Commission for South Asia and UNWTO High — Level Regional Conference on Green Tourism)” ตั้งแต่วันที่ ๓ — ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ด้วยงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ในปีงบประมาณ ๒๕๕๕ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมร่วมของ ๒ ภูมิภาค คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แลภูมิภาคเอเชียใต้ โดยในการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่ประเทศศรีลังกา มีประเทศที่เสนอตัวเข้าชิงเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ ๒ ประเทศ คือ อินโดนีเซีย และ ไทย ซึ่งในที่ประชุมสมาชิกกว่า ๓๐ ประเทศ ร่วมโหวตให้ประเทศไทย ชนะเป็นเจ้าภาพจัดงานปีนี้ อีกทั้งยังมีผู้นำระดับรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยว มากกว่า ๕ ประเทศแสดงความสนใจ ที่จะเข้าร่วมประชุมในปีนี้
สำหรับประเทศไทยนั้น “นับเป็นครั้งแรกที่ไทยได้จัดงานนี้ เพราะช่วงเกิดสึนามิ UNWTO ก็มาจัดประชุมที่ประเทศไทย แต่เป็นการประชุมเฉพาะกิจ ไม่ได้ตามวาระ ซึ่งหากครั้งนี้มีรัฐมนตรีเดินทางเข้าร่วมประชุมได้ ๕ ประเทศขึ้นไป ถือว่าไทยประสบความสำเร็จ เป็น Destination ที่ระดับผู้นำก็สนใจที่จะเดินทางเข้ามา โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ท่องเที่ยวสีเขียว หรือ Green Tourism ตามที่ UNWTO เป็นผู้กำหนด ไทยจึงได้เสนอพื้นที่จัดงานที่เชียงใหม่ ซึ่งเหมาะสมกว่าที่อื่น”
การจัดงานทั้ง ๓ วัน จะมีขึ้นระหว่างวันที่ ๓ — ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ภายใต้แนวคิด การท่องเที่ยวเที่ยวสีเขียว หรือ Green Tourism
? วันแรกของการจัดงานเป็นการประชุมทางวิชาการ เรื่อง การท่องเที่ยวโลก ซึ่ง UNWTO ได้เรียนเชิญวิทยากรผู้มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านนี้มาบรรยายให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้รับฟัง และในช่วงบ่ายจะเป็นการแลกเปลี่ยนกรณีศึกษาของสมาชิกในแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงฯ ได้เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากมูลนิธิใบไม้เขียวเป็นผู้แทนของประเทศไทย
? วันที่สองของการจัดงานเป็นการประชุมของประเทศสมาชิก ซึ่งจะมีการรายงานผลการดำเนินการด้านท่องเที่ยวของสมาชิก รวมทั้งผลการดำเนินการของ UNWTO ต่อภูมิภาคทั้งสอง นอกจากนี้ที่ประชุมจะมีเลือกตั้งคณะกรรมการด้านโครงการและงบประมาณประจำภูมิภาค
? วันสุดท้ายประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจะจัดกิจกรรมทัศนศึกษาให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม โดยเตรียมไว้ ๒ เส้นทาง คือ
๑. เส้นทางโครงการพระราชดำริห้วยฮ่องไคร้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
๒. ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง
นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยการสนับสนุนจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้จัดเส้นทางทัศนศึกษาสำหรับสื่อมวลชนเพิ่มเติมอีก ๑ เส้นทาง
การจัดงานประชุมสัมมนาในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้นำระดับรัฐมนตรีและ ผู้บริหารองค์กร พร้อมผู้ติดตาม มาร่วมประชุมประมาณ ๑๕๐ — ๒๐๐ คน ทุกคนล้วนมาจากหน่วยงานด้านท่องเที่ยวซึ่ง มีมุมมองและความคิดด้านการท่องเที่ยว ตลอดจน มีศักยภาพด้านการจับจ่าย และมีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบายการผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยตรง
ประโยชน์ที่ ประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่จะได้รับจากการจัดประชุมในครั้งนี้ ที่เด่นชัด คือ การแสดงความสามารถและศักยภาพของประเทศในการจัดประชุมด้านการท่องเที่ยวในเวทีระดับโลก ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๑-๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ผู้แทนขององค์การการท่องเที่ยวโลกได้เดินทางมาสำรวจสถานที่จัดการประชุม รวมทั้งเส้นทางทัศนศึกษา หลังสรุปผลการเดินทางผู้แทนฯ ได้แสดงความประทับใจที่กระทรวงฯ เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานที่จัดการประชุม ซึ่งนอกจากสถานที่และความ
ปลอดภัยในการประชุมแล้ว เชียงใหม่ยังเป็นศูนย์รวมของศิลปวัฒนธรรมล้านนา รวมทั้งสินค้าด้านการท่องเที่ยวที่หลายหลาย ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยวสีเขียวและวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จัก
นอกจากนี้ ไทยจะได้ใช้โอกาสจากการจัดประชุมเชิงวิชาการ เป็นเวทีให้นักวิชาการด้านท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งภาคเอกชน แลกเปลี่ยนทัศนคติและความคิดเห็นกับผู้เข้าร่วมประชุมจากภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมทั้งสร้างเครือข่ายการบูรณาการระหว่างกัน
ข้อมูล : สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กองการต่างประเทศ ๐๒-๓๕๖-๐๖๘๔
กลุ่มประชาสัมพันธ์ ๐๒-๓๕๖-๐๖๕๐ / ๐๒-๓๕๖-๐๗๒๓