"เบียร์" ศิลปินเลือดใหม่ "มอนสเตอร์ มิวสิค" ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงวัยรุ่นลง "สถานีชีวิต"

ข่าวทั่วไป Friday May 28, 2004 12:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--อาร์.เอส.โปรโมชั่น
เริ่มส่งเพลงเปิดตัว "รอยกรีดที่ข้อมือ" ออกมาเรียกกระแส จนแฟนเพลงทุกคนต่างติดใจในน้ำเสียงและอยากรู้จักตัวจริงของนักร้องเจ้าของเพลงนี้ นั่นก็คือ "เบียร์ - ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" เด็กหนุ่ม วัย 21 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขานฤมิตศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 อายุเพียงแค่ 21 ปี แต่ประสบการณ์ด้านดนตรีมีมากมาย ตั้งแต่ประกวดเวทีต่างๆ ทั่วจังหวัดมหาสารคาม , มีอัลบั้มใต้ดินตั้งแต่อยู่ มัธยมศึกษาปีที่ 3 , เป็น โปรดิวเซอร์ให้กับวงใต้ดินแบบทำเองทุกอย่างตั้งแต่ ปี 1 , เป็นแบ็คอัพให้กับ "เป้ - ไฮร็อค" ฯลฯ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพจากค่าย "อาร์.เอส.ฯ" ภายใต้การดูแลของ "มอนสเตอร์ มิวสิค" นำทีมโดย "เจี๊ยบ - พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร" ซึ่งรับประกันคุณภาพแน่นอน กับงานเพลงในอัลบั้ม "สถานีชีวิต" ที่พร้อมมาเปิดเผยเรื่องราวให้ทุกคนได้ฟังกัน
และวันนี้เราก็ได้ "เบียร์ - ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" มาพูดคุยถึงงานในอัลบั้มนี้ให้ฟังว่า "ตัว "เบียร์" เริ่มเล่นดนตรีชิ้นแรกตั้งแต่อายุ 13 ปี ก็คือ กีต้าร์ แล้วก็เล่นมาเรื่อยๆ เคยออกอัลบั้มใต้ดินตอนช่วงม. 3 (ร.ร. สารคามพิทยาคม) แล้วก็หยุดเพราะกำลังจะขึ้น ม. 4 แต่เรื่องดนตรีก็ยังเล่นมาเรื่อยๆ จนเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้มีโอกาสเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับวงใต้ดินวงหนึ่ง คือทำเองหมดทุกอย่างทุกขั้นตอน ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ซึ่ง "เบียร์" ก็จะแต่งเพลงเก็บไว้เรื่อยๆ จนได้มาเสนองานกับ "พี่เจี๊ยบ - พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร" (มอนสเตอร์ มิวสิค) ที่ได้เข้ามาก็เป็นเพราะ "เบียร์" รู้จักกับ "พี่ปิญช์ มาลากุล ณ อยุธยา" ซึ่งเคยทำเพลงให้ "เบียร์" ตั้งแต่แรกๆ แนะนำเข้ามา ก็เลยได้มามีอัลบั้ม "สถานีชีวิต" นี้กับ "มอนสเตอร์ มิวสิค" ซึ่งทุกเพลงในอัลบั้มชุดนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่พร้อมเปิดเผย ที่ได้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรัก , สังคม , ครอบครัว ฯลฯ ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ เรืยกว่าเป็นเรื่องราวที่อยู่รอบๆ ตัวเราจริงๆ กับดนตรีแนว "ป็อป - ร็อค" อย่างเพลงเปิดตัวเพลงแรก "รอยกรีดที่ข้อมือ" ก็เป็นเรื่องจริงที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ บางคนก็อยากเล่า บางคนก็อยากปลอบใจ และบางคนถ้าเลือกได้ก็คงไม่อยากทำ ซึ่งงานทั้งหมดในอัลบั้มชุดนี้ก็ได้ "พี่เจี๊ยบ - พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร" เป็น "เอ็กเซ็กคิวทีฟ โปรดิวเซอร์" และ "พี่ป๋อม - มรกต แก้วปานกัน" เป็น "โปรดิวเซอร์" ก็สนุกดีครับกับการทำงานไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะพี่ ๆจะให้โอกาสเราได้เสนอความคิดเห็นกันตลอด อย่างเสียงร้องตัว "เบียร์" ก็คิดเอง แต่จะติดปัญหาเรื่องเวลาและระยะทางมากกว่า เพราะ "เบียร์" จะเรียนอยู่ที่ จ.มหาสารคาม จะเข้าห้องอัดทีต้องรอ เสาร์ - อาทิตย์ หรือไม่ก็ช่วงที่ไม่มีเรียน เลยกว่าจะเสร็จอัลบั้มชุดนี้ใช้เวลาค่อนข้างนานหน่อย แต่ "เบียร์" ก็รู้สึกชอบแล้วก็พอใจกับงานในอัลบั้มชุดนี้มากๆ ครับ ที่ได้มีโอกาสถ่ายทอดเรื่องราวปัญหาต่างๆ ของวัยรุ่น ไม่ใช่เพื่อมาสอนใครแต่อยากนำเรื่องราวที่ได้พบเห็นมาเล่าให้ฟังและเป็นกำลังใจให้กับทุกคนครับ"ติดตามฟังเรื่องราวที่เป็นชีวิตจริง บนถนนสายดนตรี "เบียร์ - ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" ผู้ชายที่กำลังก้าวเดินอย่างเข้มข้น เกี่ยวประสบการณ์ เก็บและเล่าเรื่องจริงที่ได้เจอ เพื่อสักวันจะถึงสถานีจุดหมายของดนตรีและชีวิต "3 มิ.ย. นี้" พร้อมกันทุกแผงทั่วประเทศ
เริ่มส่งเพลงเปิดตัว "รอยกรีดที่ข้อมือ" ออกมาเรียกกระแส จนแฟนเพลงทุกคนต่างติดใจในน้ำเสียงและอยากรู้จักตัวจริงของนักร้องเจ้าของเพลงนี้ นั่นก็คือ "เบียร์ - ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" เด็กหนุ่ม วัย 21 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สาขานฤมิตศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 อายุเพียงแค่ 21 ปี แต่ประสบการณ์ด้านดนตรีมีมากมาย ตั้งแต่ประกวดเวทีต่างๆ ทั่วจังหวัดมหาสารคาม , มีอัลบั้มใต้ดินตั้งแต่อยู่ มัธยมศึกษาปีที่ 3 , เป็น โปรดิวเซอร์ให้กับวงใต้ดินแบบทำเองทุกอย่างตั้งแต่ ปี 1 , เป็นแบ็คอัพให้กับ "เป้ - ไฮร็อค" ฯลฯ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินคุณภาพจากค่าย "อาร์.เอส.ฯ" ภายใต้การดูแลของ "มอนสเตอร์ มิวสิค" นำทีมโดย "เจี๊ยบ - พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร" ซึ่งรับประกันคุณภาพแน่นอน กับงานเพลงในอัลบั้ม "สถานีชีวิต" และวันนี้นอกจากจะได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้ เรายังได้ตามไปดูเบื้องหลังมิวสิกฯ เปิดตัวเพลงแรก "รอยกรีดที่ข้อมือ" มาฝากเป็นพิเศษอีกด้วย และที่สำคัญมิวสิกฯ เพลงนี้ยังได้นักแสดงรุ่นใหญ่ "สุเชาว์ พงษ์วิไล" และลูกสาว "เอ๊ะ - ณิฐา พงษ์วิไล" (อายุ 23 ปี) ที่นำเรื่องราวในชีวิตจริงของตัวเองและมาแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ซึ่งงานนี้ทีมงานได้ยกกองถ่ายไปถ่ายทำกันที่ อาคารธนาเพลส ซ.ลาดพร้าว 71 เพื่อเซ็ทเป็นห้องของ "น้องเอ๊ะ - ณิฐา พงษ์วิไล" เริ่มถ่ายกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยผู้กำกับ "สมบุญ โพธิพิทักษ์กุล" บอกถึงเรื่องราวในมิวสิกฯ ว่าเป็นเรื่องความผิดหวังของวัยรุ่นคนหนึ่งในเรื่องความรักจนคิดหาทางออกด้วยการทำร้ายตัวเอง แต่ยังได้กำลังใจที่ดีจากครอบครัวทำให้รอดพ้นปัญหามาได้ ฟังเนื้อหาแล้วอาจจะหนักหน่อย แต่ผู้กำกับก็เลือกเปิดกล้องฉากแรกด้วยการฉากกุ๊กกิ๊กของ "น้องเอ๊ะ - ณิฐา พงษ์วิไล" กับคนรัก "น้องเอ๊ะ" ออกจะเขินเล็กน้อย แต่ดีที่ได้กำลังใจจาก "คุณพ่อสุเชาว์" ที่ถึงแม้จะยังไม่มีฉากต้องแสดงแต่ก็มากองตั้งแต่เช้า งานนี้ "น้องเอ๊ะ" เลยผ่านได้สบายๆ พอช่วงบ่ายก็เป็นฉากเริ่มเศร้าบ้างแล้ว เมื่อคนรักเริ่มปันใจไปให้หญิงคนอื่น ฉากนี้เป็นซีนอารมณ์ที่ต้องสื่อถึงความสับสนต่างๆ ของตัว "น้องเอ๊ะ" ที่เสียใจมากจนถึงขนาดคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นซีนที่หนักมากสำหรับ "น้องเอ๊ะ" เพราะต้องเค้นอารมณ์อย่างหนัก กว่าจะผ่านไปได้ก็เป็นช่วงเย็นพอดี ผู้กำกับเลยให้ "น้องเอ๊ะ" ได้พักผ่อน และตัดสลับด้วยการถ่ายไลน์ซิงค์เพลง "รอยกรีดที่ข้อมือ" บทหนักเลยตกมาอยู่ที่ "เบียร์ -ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" เจ้าของเพลงแทน เพราะหลังจากยืนดูคนอื่นแสดงแล้ว ก็ต้องถึงคราวของตัวเองบ้าง แต่คงเพราะได้กำลังใจดีๆ จากคนทั้งกองถ่าย ไลน์ซิงค์ของ "เบียร์" เลยผ่านพ้นไปได้ท่ามกลางเสียงถอนหายใจแบบโล่งอกของ "เบียร์" พอมาถึงช่วงกลางคืนก็ได้เวลาถ่ายไลน์เรื่องต่อคราวนี้พ่อลูกต้องเข้าฉากร่วมกันแล้ว บทหนักขนานแท้จึงตกอยู่กับ "น้องเอ๊ะ" อีกครั้ง ที่ว่าฉากตอนบ่ายหนักแล้วพอมาเจอฉากที่ต้องแสดงร่วมกับ "คุณพ่อ" ทั้งในชีวิตจริงและในจอ "น้องเอ๊ะ" ก็ออกอาการตื่นเต้นจนเก็บไว้ไม่อยู่ แต่ด้วยความเป็นเด็กตั้งใจในการทำงานก็เลยสามารถข่มความตื่นเต้นเอาไว้ได้ สำหรับฉากที่ "น้องเอ๊ะ" กับ "คุณพ่อสุเชาว์" เข้าด้วยกันจะเป็นฉากที่ "คุณพ่อสุเชาว์" กลับจากข้างนอกแล้วเห็นพยาบาล ตำรวจ คนมุง มาที่ห้อง เลยรีบวิ่งขึ้นมาดูเลยเห็น "น้องเอ๊ะ" กรีดข้อมือตัวเองเสียชีวิตเลยวิ่งมากอดศพลูกสาว สำหรับฉากนี้เล่นเอาอึ้ง!!!ทั้งกองถ่ายขนาดรู้ว่าเป็นการแสดงแต่ก็อดสะเทือนใจกับเหตุการณ์จำลองครั้งนี้ไม่ได้เพราะเรื่องราวแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของคนทุกคน แต่บทสรุปสุดท้ายของมิวสิกฯ เพลงนี้จะเป็นอย่างไรคงต้องไปพิสูจน์กันเอาเอง แต่รับรองได้แง่คิดต่างๆ ในชีวิตแน่นอน และก่อนที่เราจะกลับจากกองถ่ายมิวสิกฯ เพลง "รอยกรีดที่ข้อมือ" ก็ได้ไปสัมภาษณ์เจ้าของเพลงนี้พร้อมทั้งนักแสดงมาฝากทุกคนด้วย
"เบียร์ -ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" นักร้องหนุ่มเปิดเผยว่า "สำหรับเพลง "รอยกรีดที่ข้อมือ" จะเป็นเพลงเปิดตัวเพลงแรกของ "เบียร์" ครับ เป็นเพลงแนว "ป็อป - ร็อค" ช้าๆ เนื้อหาของเพลงก็เหมือนอย่างชื่อเพลงเลยเป็นเรื่องจริงที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ อาจจะเป็นปัญหาต่างๆ ที่เราเคยเจอแล้วไม่สามารถลืมมันได้ เหมือนเป็นรอยแผลลึกในใจของเรา "เบียร์" เลยขอทำหน้าที่ปลอบและให้กำลังใจทุกคนผ่านเพลงนี้ครับ อย่างที่มาถ่ายมิวสิกฯ วันนี้ "เบียร์" ก็ได้เห็นการทำงานของพี่ๆ ทีมงาน นักแสดง เก่งทุกคนครับ โดยเฉพาะ "เอ๊ะ" เค้าตั้งใจมากๆ เพราะได้คุยกัน "เอ๊ะ" บอกว่าเนื้อเรื่องในมิวสิกฯ ค่อนข้างตรงกับช่วงชีวิตหนึ่งของเค้า แต่มันก็ผ่านมาได้ด้วยดีก็เพราะได้กำลังใจจากคุณพ่อ ครอบครัว และทุกวันนี้ "เอ๊ะ" ก็สามารถยืนหยัดได้ด้วยบทเรียนจากอดีตที่ผ่านมา "เบียร์" ค่อนข้างทึ่งในตัว "เอ๊ะ" และ "อาสุเชาว์" ที่พร้อมเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตช่วงหนึ่งให้กับทุกคนได้ศึกษากัน "เบียร์" ก็ต้องขอขอบคุณ "อาสุเชาว์" แล้วก็ "เอ๊ะ" มากๆ ครับ"
"คุณสุเชาว์ พงษ์วิไล" เปิดเผยถึงการร่วมงานกับลูกสาวครั้งแรกให้ฟังว่า "ร่วมงานกับ "เอ๊ะ" ครั้งแรกครับ ก็รู้สึกแปลกๆ แต่ได้บทที่เป็นตัวเราคือเป็นพ่อลูกกัน ก็เลยไม่มีปัญหาทำงานได้ง่าย อย่างเวลา "เอ๊ะ" เค้าเข้าฉากก็จะคอยดูๆ ให้กำลังใจแต่จะไม่สอน ไม่เคยสอนใคร เพราะคิดว่าเวลาแสดงทุกคนจะต้องมีความรู้สึกจริงๆ ด้วยตัวของเค้าเอง ไปสอนกันไม่ได้ ซึบซับความเป็นตัวละครตัวนั้นด้วยความรู้สึกของตัวเอง แต่เท่าที่ดู "เอ๊ะ" เค้าแสดงก็โอเคน่ะ ไม่หนักใจ อย่างเพลงนี้ มีโครงเรื่องที่น่าสนใจดี สามารถเกิดขึ้นได้จริง กับคนที่มีครอบครัว เป็นเรื่องของความคิดต่างมุมมอง ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเรื่องความรักแบบนี้เป็นเรื่องเล็กๆ แต่เด็กวัยรุ่นอาจจะใหญ่โตก็ได้สำหรับเค้า ก็อยากจะฝากถึงคนที่เป็นพ่อ แม่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับบุตรหลาน อยากให้พูกกันดีๆ ให้รับฟังเค้า พูดกันให้มากๆ แล้วปัญหาต่างๆ ก็จะทุเลาลงได้เอง และก็อยากฝากให้ช่วยดูมิวสิกฯ "รอยกรีดที่ข้อมือ" อาจจะได้แง่คิดอะไรให้กับชีวิตได้บ้าง ถ้าไม่อยากให้จุดจบของปัญหาเกิดขึ้นเหมือนอย่างในเพลงนี้ครับ"
"เอ๊ะ - ณิชา พงษ์วิไล" เปิดเผยถึงการทำงานในวันนี้ให้ฟังว่า "วันนี้ "เอ๊ะ" มารับบทเป็นผู้หญิงที่เลิกกับแฟนแล้วคิดสั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งในเรื่องจะค่อนข้างซับซ้อนให้คนดูได้คิดว่าตกลงเราได้คิดสั้นหรือเปล่าเพราะมีฉากที่เรายืนมองคุณพ่อกอดศพเราอยู่ แล้วก็ตัดมาเป็นภาพเรายังมีชีวิตอยู่ภาพที่กอดศพนั้นเป็นแค่เราคิดหรือเปล่า หรือให้คนดูได้คิดตามอีกตรงที่ถ้าเราไม่ได้กรีดข้อมือตัวเองแล้วทำไมตอนจบถึงมีรอยกรีดที่ข้อมือเราได้ อันนี้ต้องไปชมแล้วตีความกันเองค่ะ แล้วแต่ใครจะเชื่ออย่างไหน มาทำงานวันนี้ก็อุ่นใจมากค่ะเพราะได้เล่นกับคุณพ่อ (คุณสุเชาว์ พงษ์วิไล) ซึ่งเราไม่เคยเล่นคู่กันมาก่อน ก็มีตื่นเต้นตลอดเวลาค่ะแต่ก็จะพยายามทำทุกอย่างให้เต็มที่ "เอ๊ะ" กล้าพูดได้เลยว่าเรื่องราวในมิวสิกฯ เป็นเรื่องราวในชีวิตจริงที่ "เอ๊ะ" เคยผ่านมันมา การคิดสั้น กรีดข้อมือตัวเอง เป็นปัญหาของเด็กทั่วๆ ไป ตอนนั้นคือคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเรา แต่จริงๆ แล้วเปล่าเลยเราคิดมากไปเองฝ่ายเดียว คิดอยู่แต่กับตัวเองโดยที่ลืมมองความห่วงใยที่คุณพ่อ คุณแม่และ ครอบครัวมีให้ พอผ่านช่วงนั้นมาได้มองกลับไปแล้วคิดว่ายังไงชีวิตนี้จะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว เสียใจมากๆ เพราะทุกครั้งที่คุณพ่อเห็นรอยแผลที่ข้อมือ "เอ๊ะ" ก็จะรู้สึกไม่ดี รู้เลยว่าเค้าเสียใจมากกว่าเราเสียอีก ตอนนั้นถ้าเราอดทนอีกนิดหนี่งหรือปรึกษาผู้ใหญ่ก็คงไม่ต้องมาเสียใจในวันนี้ "เอ๊ะ" ว่าเด็กมีปัญหาทุกคนทำก็เพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจเท่านั้น ฉะนั้นอยากฝากบอกกับทุกคนว่าอย่าเลือกแก้ปัญหาด้วยการคิดสั้นเลยค่ะ เพราะคนที่รักเราด้วยใจจริงและหวังดีกับเราก็คือครอบครัวของเรา อย่าทำให้เค้าเสียใจด้วยการกระทำที่ผิดๆ ชั่ววูบของเราเลยค่ะ และยังไง "เอ๊ะ" ก็ขอฝากมิวสิกฯ "รอยกรีดที่ข้อมือ" ให้กับทุกคนไว้เป็นแง่คิดของชีวิตด้วยนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"ติดตามชมเรื่องราวมิวสิกวิดีโอที่เป็นชีวิตจริงของสองพ่อลูก "พงษ์วิไล" ในเพลง "รอยกรีดที่ข้อมือ" ได้วันนี้ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ผ่านเสียงร้องของตัวแทนวัยรุ่น "เบียร์ - ภานุพงศ์ จำปาเฟื่อง" ผู้ชายที่กำลังก้าวเดินอย่างเข้มข้น เกี่ยวประสบการณ์ เก็บและเล่าเรื่องจริงที่ได้เจอ เพื่อสักวันจะถึงสถานีจุดหมายของดนตรีและชีวิต "3 มิ.ย. นี้" พร้อมกันทุกแผงทั่วประเทศ--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ