กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--เอซุส โอพี
“เอซุส” ผู้ผลิตมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ประกาศขยายขอบข่ายการรับประกันสินค้ามาเธอร์บอร์ดทุกชนิดให้มีความครอบคลุมในทุกกรณีที่เป็น Non-CID (Non-Customer Induced Damages) หรือความเสียหายที่ไม่ใช่ความผิดพลาดของลูกค้า พร้อมเปิดตัวสุดยอดมาเธอร์บอร์ดสายพันธุ์แกร่ง “ซีรีส์ 7” ถึง 4 รุ่นลงสู่ตลาดเมืองไทย นำโดย “ROG Maximus V GENE” มาเธอร์บอร์ดประสิทธิภาพแรงเหนือชั้นสำหรับเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์โดยเฉพาะ “SABERTOOTH Z77” มาเธอร์บอร์ดสายพันธุ์อึดรับประกันความแข็งแกร่งทนทานถึง 5 ปี “P8Z77-V DELUXE” มาเธอร์บอร์ดสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป มาพร้อมฟีเจอร์ Wi-Fi GO! เอกสิทธิจากเอซุส ที่ให้การเชื่อมต่อของทุกอุปกรณ์เป็นไปอย่างง่ายดาย และ “P8H77-V” มาเธอร์บอร์ดสำหรับผู้ใช้งานที่มองหาความคุ้มค่าและการประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า
นายมนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เอซุสเป็นผู้นำตลาดระดับโลกในอุตสาหกรรมมาเธอร์บอร์ด โดยเป็นบริษัทที่ผลิตและจัดจำหน่ายมาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายอันดับ 1 และได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมากที่สุดในโลก ด้วยความทุ่มเทต่อการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ออกแบบมาให้ดีที่สุด เอซุสยังคงสานต่อภารกิจหลักในการส่งมอบประสบการณ์การใช้งานอันน่าประทับใจและสนุกสนานถึงขีดสุดให้กับผู้บริโภคตลอดมา ในส่วนของตลาดประเทศไทยในปัจจุบัน สินค้ามาเธอร์บอร์ดมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท โดยเอซุสเป็นผู้ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดถึง 55% นับจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่เอซุสเริ่มนำสินค้ามาเธอร์บอร์ดเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ ตลาด มาเธอร์บอร์ดของเอซุสมีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่ดีมาก รวมถึงการที่เอซุสมีฐานลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดของแบรนด์เอซุสอย่างกว้างขวาง ครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน เราจึงได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำไปอีกขั้น ด้วยการขยายขอบข่ายการรับประกันสินค้ามาเธอร์บอร์ดของเอซุสในกรณี Non-CID ทุกเงื่อนไข ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และเป็นเงื่อนไขการรับประกันที่เรามั่นใจว่าดีที่สุดในอุตสาหกรรมขณะนี้”
นายมนต์ธีร์ กล่าวต่อไป “พร้อมกันนี้ เรายังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดซีรีส์ 7 ถึง 4 รุ่น ได้แก่ ‘ROG Maximus V-Gene’, ‘SABERTOOTH Z77’, ‘P8Z77 V-DELUXE’ และ ‘P8H77-V’ โดยแต่ละรุ่นก็จะมีความโดดเด่น และฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ รวมถึงความเหมาะสมในการใช้งานสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป โดยเอซุสยังได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นฟีเจอร์การใช้งานเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดของเรา อาทิ Wi-Fi GO! ซึ่งเป็นเอกสิทธิเฉพาะของเอซุสที่สามารถสร้างการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายและปรับเปลี่ยนความสามารถของพีซีให้เป็นทุกอย่างตามที่ใจต้องการได้ เช่น เปลี่ยนเป็นโฮมเธียเตอร์พีซีด้วยการสตรีมมิ่งคอนเท้นต์ผ่านระบบ DLNA หรือเปลี่ยนให้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตในมือคุณกลายเป็นพีซีแบบพกพาได้ อีกทั้งยังสามารถทำงานเป็น Wi-Fi Hotspot เชื่อมต่ออุปกรณ์ไวเลส เน็ตเวิร์ค ภายในบ้านได้อย่างง่ายๆ นอกจากนี้ยังมีระบบระบายอากาศอัจฉริยะแบบใหม่ Fan Xpert 2 ที่ให้ความสะดวกง่ายดายด้วยโหมด Fan Auto Tuning ช่วยสแกนลักษณะการใช้งานพัดลมจากการวัดระดับความเร็ว และสามารถตั้งสปีดความเร็วสำหรับพัดลมแต่ละตัวได้โดยผ่านการคลิกเพียงครั้งเดียว พร้อมโหมด RPM Fixed ที่ช่วยลดเสียงรบกวนให้น้อยลงได้เกือบถึง 0 เดซิเบลล์ และที่สำคัญยังมีภาคจ่ายไฟเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด SMART DIGI+ Power Control ช่วยให้เกิดการจูนนิ่งที่แม่นยำกับซีพียู iGPU และ DRAM โดยนวัตกรรมเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผลจากความทุ่มเทในการพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำหน้าใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งของเอซุส”
“ROG Maximus V GENE”
มาเธอร์บอร์ด รุ่น ROG Maximus V GENE เป็นรุ่นที่ 5 ในซีรีส์ Maximus V Series มาพร้อมความแรงเหนือชั้นด้วยชิพเซ็ต Intel? Z77 เวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมรองรับทั้งโพรเซสเซอร์ LGA1155 ของ Intel รุ่นที่ 2 และ 3 และยังมีสล็อต PCI-Express Gen-3 สำหรับหน่วยประมวลผลกราฟฟิกทั้งแบบซิงเกิลและมัลติคอร์ คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและความสามารถรอบด้านเช่นเดียวกับมาเธอร์บอร์ดทุกรุ่นในซีรีส์ ROG ที่ออกแบบมาให้เป็น “The Choice of Champion” หรือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับแชมป์เปี้ยน โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล็อกที่เหนือกว่าด้วยระบบ Extreme Engine DIGI+ II? อัพเกรดใหม่ล่าสุด สามารถรองรับเฟส 8+4+2 (CPU iGPU และ DRAM) พร้อมภาคจ่ายไฟระบบดิจิตอลที่แม่นยำแบบ DIGI+ Controller ถึง 2 ตัวที่ควบรวมฟังก์ชั่นของ ROG UEFI BIOS ไว้ เช่น Memory IC Profiles ที่ตั้งค่าไว้แล้ว ROG Maximus V GENE ใช้ตัวเก็บประจุหรือแคพาซิเตอร์แบบ Black Metallic ขนาด 10k ที่ให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าเดิมถึง 5 เท่า สามารถใช้งานได้นานถึง 10,000 ชั่วโมงที่อุณหภูมิไม่เกิน 105 องศาเซลเซียส และทนอุณหภูมิต่ำได้ดีกว่าเดิมถึง 20 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ เหล่าคอเกมส์ฮาร์ดคอร์ทั้งหลายยังสามารถเล่นเกมส์สุดมันส์ได้อย่างเต็มอรรถรสด้วยซาวด์การ์ดระดับพรีเมี่ยม SupremeFX III? ที่สามารถลดสัญญาณเสียงรบกวนสูงสุดถึง 110 เดซิเบล ออกแบบมาเพื่อให้เกมเมอร์ได้รับสุดยอดประสบการณ์ด้านเสียงโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี SupremeFX Shielding ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงให้กระหึ่มเต็มพลัง พร้อมฝาครอบอลูมิเนียมที่ช่วยป้องกันคลื่นแม่เหล็กรบกวนการประมวลผลเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ASUS SABERTOOTH Z77”
มาเธอร์บอร์ด ASUS TUF Series ใช้ชิพประมวลผลเจนเนอเรชั่น 3 รุ่นล่าสุดของ Intel? Ivy Bridge โปรเซสเซอร์ โดยออกแบบมาตามปรัชญาของ TUF Series เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่มีเสถียรภาพแก่ยูสเซอร์ โดยตัวบอร์ดใช้วัสดุโครงสร้างที่แข็งแรงมั่นคงระดับเดียวกับที่ใช้ในอุปกรณ์สรรพาวุธทหาร (Military-Grade) SABERTOOTH Z77 ให้คุณสมบัติด้านความคงทนที่เชื่อถือได้ด้วยการรับประกันตัวบอร์ดนานถึง 5 ปี โดดเด่นด้วยโซลูชั่นระบายอากาศแบบใหม่ Thermal Armor เอกสิทธิ์จากเอซุส แรงเหนือชั้นด้วยภาคจ่ายไฟแบบ DIGI+ VRM Power Control ช่วยให้การจูนนิ่งแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี Thermal Radar ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ และฟังก์ชั่น Fan Overtime ที่ช่วยปกป้องพื้นที่สำคัญต่างๆของคอมโพเน้นต์จากความร้อนสะสมที่สูงมากเกินไป (Overheat)
“ASUS SABERTOOTH Z77” มาพร้อมระบบป้องกัน ASUS ESD Guard ช่วยสร้างการปกป้องที่เหนือชั้นให้กับส่วนประกอบต่างๆ ของมาเธอร์บอร์ดจากพลังงานไฟฟ้าสถิตย์ที่ถูกขับออกมา สร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งานยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี HyperFormance? ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะของกราฟฟิกการ์ดได้มากกว่าปกติถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญยังมาพร้อมการออกแบบที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานสำหรับมาเธอร์บอร์ด ได้แก่ เทคโนโลยี Dust Defender ช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นละอองที่จะเข้าไปรบกวนหรือส่งผลกระทบต่อจุดต่อเชื่อมต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วมาเธอร์บอร์ด
“ASUS P8Z77-V DELUXE”
มาเธอร์บอร์ดสำหรับการใช้งานทั่วไปที่มีคุณสมบัติเป็นยิ่งกว่ามาเธอร์บอร์ด มาพร้อมฟีเจอร์ Wi-Fi GO! เอกสิทธิ์จากเอซุส ที่สามารถสร้างการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายและปรับเปลี่ยนความสามารถของพีซีให้เป็นทุกอย่างตามที่ใจต้องการได้ เช่น เปลี่ยนเป็นโฮมเธียเตอร์พีซี ด้วยการสตรีมมิ่งคอนเท้นต์ผ่านระบบ DLNA หรือเปลี่ยนให้แท็บเบล็ตในมือคุณกลายเป็นพีซีแบบพกพา หรือเป็นรีโมตคอนโทรลได้ พร้อมความสามารถในการเป็น Wi-Fi Hotspot เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ไวเลสเน็ตเวิร์คภายในบ้านได้ทุกจุด โดยไม่ต้องใช้เร้าเตอร์ใดๆ เข้ามาเสริม
นอกจากนี้ ยังมีระบบระบายอากาศอัจฉริยะแบบใหม่ Fan Xpert 2 ที่ให้ความสะดวกง่ายดายด้วยโหมด Fan Auto Tuning ช่วยสแกนลักษณะการใช้งานพัดลมจากการวัดระดับความเร็ว และสามารถตั้งสปีดความเร็วของพัดลมแต่ละตัวได้เพียงการคลิกครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมี RPM Fixed Mode ที่ช่วยลดเสียงรบกวนให้น้อยลงได้เกือบถึง 0 เดซิเบลล์ และนอกจากนี้ “ASUS P8Z77-V DELUXE” ยังเอาใจคอเกมเมอร์ที่ชอบการดีไอวายด้วยตนเองด้วยการเสริมฟีเจอร์สำหรับการโอเวอร์คล็อกอันยอดเยี่ยมและยืดหยุ่นได้ตามต้องการ สามารถปรับแต่งความเร็วได้ด้วยเทคโนโลยี SMART DIGI+ ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพให้กับตัวมาเธอร์บอร์ด โดยเทคโนโลยีนี้จะทำงานร่วมกับทีพียู (TurboV Processing Unit - TPU) ที่ใช้งานได้ง่ายเพียงคลิก SMART DIGI+ key ครั้งเดียว ตามด้วยการปรับอัตราส่วนของซีพียูในทีพียูเพื่อเพิ่มความถี่ให้สูงขึ้นได้มากขึ้นถึง 85 เปอร์เซ็นต์
“ASUS P8H77-V”
มาเธอร์บอร์ดที่ให้ความคุ้มค่าและประหยัดพลังงานอย่างเหลือเชื่อ ใช้ชิพเซ็ท Intel? H77 Express ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับโปรเซสเซอร์ LGA1155 Intel? เจนเนอเรชั่น 2 และ 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกราฟฟิกให้คมชัด สวยงาม ไร้การกระตุก นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB 3.0 ได้เร็วกว่าปกติถึง 10 เท่า พร้อมเทคโนโลยี LucidLogix? Virtu MVP ช่วยเสริมประสิทธิภาพของกราฟฟิกได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ใช้ภาคจ่ายไฟระบบดิจิตอล DIGI+ VRM ให้ความเสถียรและช่วยให้เกิดการจูนนิ่งที่แม่นยำยิ่งขึ้น ASUS P8H77-V LE ช่วยมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับเกมเมอร์หรือผู้ใช้งานมัลติมีเดียด้วยระบบ Virtual Sync ที่ช่วยลดรอยแตกหรือฉีกขาดของภาพกราฟฟิกบนหน้าจอ โดยมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องใช้กราฟฟิกการ์ดใดๆ เข้ามาเสริม ช่วยให้ยูสเซอร์ประหยัดการใช้พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“มาเธอร์บอร์ดซีรีส์ 7 ทั้ง 4 รุ่นนี้ เป็นบทพิสูจน์ด้านคุณภาพและนวัตกรรมอันมีชื่อเสียงของเอซุส โดยเรามีการสร้างสรรค์และพัฒนาสินค้าไลน์อัพท์ใหม่ๆ ออกมาสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ ด้วยขอบข่ายใหม่ในการรับประกันสินค้ามาเธอร์บอร์ด ผนวกกับทีมช่างผู้เชี่ยวชาญงานซ่อม ตามศูนย์ซ่อมของผู้จัดจำหน่ายของเรา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 บริษัท ได้แก่ Synnex, D-Com และ ALC เราเชื่อว่าจะสามารถตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้าในประเทศไทยของเราได้เป็นอย่างดี โดยการรับประกันสินค้ามาเธอร์บอร์ดนี้ทุกรุ่นมีระยะเวลาอยู่ที่ 3 ปี ยกเว้นมาเธอร์บอร์ดจาก TUF Series ที่มีประกันนานถึง 5 ปี โดยสิ่งที่สำคัญคือการเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมถึงการตอบรับต่องานซ่อมอย่างรวดเร็ว ฉับไว และมีประสิทธิภาพ ตามเงื่อนไขของการรับประกันในกรณี Non-CID ทุกกรณี เพราะฉะนั้นลูกค้าของเอซุสจะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการขยายขอบข่ายการรับประกันครั้งนี้ นอกจากนี้ เรายังมีการทำซีอาร์เอ็มผ่านทางเฟซบุ๊คเพจ www.facebook.com/ASUS.DIY โดยทางเราได้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเอซุส เข้ามาพูดคุย สอบถาม และแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้สินค้าของเอซุส ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างกลุ่มลูกค้าและบริษัท อันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของเอซุสและการสร้างความผูกพันอันเหนียวแน่นในหมู่ผู้บริโภคกับแบรนด์เอซุสต่อไปในอนาคต” นายมนต์ธีร์ กล่าวสรุป
สุดยอดมาเธอร์บอร์ดจาก “ซีรีส์ 7” ทั้ง 4 รุ่นพร้อมให้คุณสัมผัสก่อนใครได้แล้ววันนี้ ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.co.th หรือพูดคุยผ่านทาง www.facebook.com/ASUS.DIY