ซีพีเอฟไตรมาส 1 กำไร 12,113 ล้านบาทเพิ่ม 229% จากยอดขาย 73,480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% ผลจากการเข้าซื้อกิจการ CPP ในฮ่องกง

ข่าวทั่วไป Tuesday May 15, 2012 16:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ซีพีเอฟ นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 มีกำไรสุทธิ จำนวน 12,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229% จากงวดเดียวกันของปี 2554 โดยส่วนใหญ่เป็นผลกำไรจากการเข้าซื้อกิจการ CPP หรือ CP Pokphand Co., Ltd ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศฮ่องกงแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 นี้ สำหรับประเทศไทยมั่นใจภาวะราคาเนื้อสัตว์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เชื่อรัฐบาลเข้าใจปัญหา สถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ผลจากการเข้าซื้อกิจการ CPP และตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 3 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง การรวมธุรกิจ ทำให้ซีพีเอฟรับรู้ผลกำไรจำนวน 8,673 ล้านบาท ที่เกิดจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนในC.P. Vietnam Corporation (“CPV”) ที่ซีพีเอฟมีการลงทุน 29% ก่อนการเข้าซื้อ CPP ให้เป็นมูลค่ายุติธรรม เนื่องจาก CPP มีการลงทุนใน CPV อยู่ 71% สำหรับภาพรวมของธุรกิจนั้น ซีพีเอฟและบริษัทย่อยรายงานยอดขายจำนวน 73,480 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 61% โดยกิจการในประเทศไทยมีการเติบโต 11% จากปีก่อน และกิจการต่างประเทศเติบโต 205% ทำให้สัดส่วนยอดขายมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมกิจการประเทศไทยคิดเป็น 74% ลดลงเป็น 51% และกิจการต่างประเทศจากเดิม 26% เป็น 49% ของยอดขายรวม ไตรมาสที่ 1 ปี 2555 เป็นไตรมาสแรกที่ซีพีเอฟรวมผลการดำเนินงานบางส่วนของ CPP ที่ซีพีเอฟเข้าไปถือหุ้น 74% เสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 8 มีนาคม 2555 ซึ่ง CPP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในประเทศจีนและเวียดนาม ซึ่งทั้ง 2 ประเทศนี้มีโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจค่อนข้างสูง และสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีนี้ CPP ได้รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 49 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,520 ล้านบาท เติบโต 58% จากระยะเวลาเดียวกันของปี 2554 นายอดิเรก กล่าวด้วยว่า การเติบโตของซีพีเอฟในอนาคตจะเกิดจากกิจการต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากประเทศที่ซีพีเอฟลงทุนเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการขยายตัวของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในประเทศจีน เวียดนาม อินเดีย รัสเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ส่วนในประเทศไทยเห็นโอกาสของธุรกิจอาหารและการส่งออกสินค้าสัตว์น้ำเป็นหลัก ทั้งนี้ แผนในการขยายธุรกิจของบริษัท ได้รวมถึงการพิจารณาหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันได้มีการศึกษาอยู่หลายโครงการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ