"คาโอ" เผยกลยุทธ์สร้างสรรค์ล่าสุด "Close-to-Your-mind"

ข่าวทั่วไป Thursday June 10, 2004 17:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--ฮาคูโฮโด
"คาโอ" เผยกลยุทธ์สร้างสรรค์ล่าสุด "Close-to-Your-mind"
- เน้นการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างคาโอฯ และผู้บริโภคชาวไทย
- คาดกลยุทธ์ใหม่ดันธุรกิจโต 4 เปอร์เซ็นต์ ในครึ่งแรกของปีนี้
- ทุ่มเงินทุนกว่า 3,700 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่เสริมกำลังผลิตในประเทศ
บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้นำตลาดสินค้าอุปโภคในประเทศไทย เปิดเผลกลยุทธ์ธุรกิจสำหรับปี 2547 ภายใต้ชื่อ "Close-to-Your-mind" ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค และทำให้ผลิตภัณฑ์ของคาโอฯเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยหลังจากที่ได้ใช้กลยุทธ์นี้ไปแล้วในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
มร.ชินอิจิโค ฮิรามิเน่ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล(ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้คาโอฯได้ริเริ่มกลยุทธ์ทางธุรกิจขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า "Close-to-Your-mind" โดยกลยุทธ์นี้จะให้ความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสื่อสารแบบสองทาง ระหว่างคาโอฯกับผู้บริโภคชาวไทย และรวมถึงการใช้ช่องทางการสื่อสารในหลายๆ ช่องทาง เพื่อเพิ่มความสามารถในการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค และทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
"เราต้องการจะแนะนำแบรนด์และสินค้าที่นำเสนอความสะอาด ความสวยงาม และการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจหลักของบริษัทที่ว่า "Better Life" หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีกว่า" โดยภารกิจนี้มมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้คาโอฯ เติบโตขึ้นมากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา "มร.ฮิรามิเน่ กล่าว
ภายใต้กลยุทธ์ "Close-to-Your-mind" คาโอฯ ได้ทำการวิจัยที่เรียกว่า "Kao Benchmark Research" ทั่วประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการศึกษาครอบคลุมถึงสินค้าทุกยี่ห้อและทุกประเภทจากทุกแง่ทุกมุม นอกจากนั้น ในปีนี้ เรายังได้จัดทำ "Kao Consumer Panels" โดยสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคเป็นจำนวน 3,000 คน เพื่อจะได้เข้าใจถึงพฤติกรรมการซื้อและการบริโภคได้อย่างลึกซึ้ง กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้คาโอฯ ทราบได้ว่าผู้บริโภคชาวไทยต้องการอะไร และสามารถพัฒนาผลิตสินค้าให้เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคได้ ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการสื่อสารสองทางระหว่างคาโอฯกับผู้บริโภคจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นอย่างยิ่ง
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "แอทแทค" ใหม่สู่ตลาดเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ "Close-to-Your-mind" โดยผงซักฟอก "แอทแทค" สูตรใหม่นี้มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ขจัดกลิ่นอับชื้น และมาพร้อมกับแพ็คเกจใหม่ "Roll and lock Bag" ที่ใช้ได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วย
สำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าอนามัย คาโอฯ เพิ่งจะแนะนำ "ลอรีเอะ ซูเปอร์ การ์ด" ไปเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ที่มีขอบปกป้องแบตั้งเป็นตัว T ซึ่งป้องกันการรั่วซึมได้มากกว่าเดิม ให้ความมั่นใจมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในวันมามาก
นอกจากนี้ คาโอฯ ยังได้แนะนำสินค้าประเภทดูแลผิวหน้าที่เป็นนวิตกรรมล่าสุด คือ "บิโอเร อะควา บาลานซ์ ซิสเต็ม" ที่คิดค้นพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวของผู้หญิงไทยที่มักจะประสบปัญหาผิวมันแต่ขาดความชุ่มชื้น โดย "บิโอเร อะควา บาลานซ์ ซิสเต็ม" จะช่วยรักษาสภาพผิวให้สมดุล ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความมันส่วนเกินด้วย
นอกจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว คาโอฯยังเริ่มนำระบบ S.A.P. มาใช้ในการบริหารจัการข้อมูล โดยเชื่อมโยงระบบซัพพลายเชนภายในกับภายนอกเข้าด้วยกัน เพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า จากการประมวลข้อมูลสถิติเกี่ยวกับความต้องการสินค้าของลูกค้าที่คาโอเก็บไว้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ โดยเทคโนโลยีใหม่นี้ จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น มีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น และสามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น
คาโอฯยังคงเปิดให้บริการ "สายด่วนผู้บริโภค" (Kao Consumer Hotline) ซึ่งจะเป็นช่องทางที่ช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถแสดงความคิดเห็น และสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กับบริษัทได้โดยตรง
นอกจากนี้ คาโอฯ ยังได้จัดทำ "Consumer Insight Reports" ซึ่งให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่สำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่รวบรวมได้จากทำการวิจัยอย่างกว้างขวางในแต่ละผลิดตภัณฑ์ ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอนามัย
"เรามั่นใจว่ากิจกรรมต่างๆ ภายใต้กลยุทธ์ "Close-to-Your-mind" จะช่วยให้คาโอฯ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้เป็นที่พึงพอใจสูงสุดของผู้บิรโภค" มร. ฮิรามิเน่ กล่าวยืนยัน
เมื่อเร็วๆ นี้ คาโอฯ ได้เริ่มสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัด ชลบุรี ใช้เงินลงทุนประมาณ 3,700 ล้านบาท เพื่อเป็นโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคประเภทต่างๆ และเคมีภัณฑ์ โดยมีจุดประสงค์ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ฐานการผลิตในไทยและในภูมิภาคอาเซียนโรงงานแห่งใหม่จะมีพื้นที่ประมาณ 160,000 ตารางเมตร หรือใหญ่ประมาณ 3 เท่า ของโรงงานเดิม โดยคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในปี 2548 และมีกำลังการผลิตรวมแล้วประมาณ 1.5 เท่าของกำลังการผลิตในปัจจุบัน
ยอดขายของผลิตภัณฑ์คาโอฯในประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมา (2546) มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับปี 2545 การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ "บิโอเร เฮลท์ทีย์ ไวท์ ซิสเต็ม" เข้าสู่ตลาด ทำให้อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์ แชมพูแฟซ่า มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด หลังจากที่ได้ออกสูตรใหม่และปรับปรุงรูปแบบของแพ็คเกจใหม่
หลังจากที่คาโอฯ เริ่มใช้กลยุทฑ์ "Close-to-Your-mind" ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา คาดว่าจะช่วยให้คาโอมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยอดขายหลักจะได้มาจากผงซักฟอก "แอทแทคใหม่" โดยความสำเร็จนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ การจัดทำ "Consumer Insight" การคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ต่อเนื่อง
คาโอฯคาดว่าจะมียอดขายรวมในปีนี้ประมาณ 6,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมด้านการโฆษณาและส่งเสริมการขายต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ คาโอฯได้จัดสรรงบประมาณด้านการตลาดไว้เป็นเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท
มร.ฮิรามิเน่ กล่าวยืนยันว่า คาโอฯ จะมุ่งเน้นการใช้กลยุทธ์ "Close-to-Your-mind" เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ พร้อมๆ กับพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีขึ้นตลอดเวลา โดยอาศัยความรู้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการใช้วิธีการสื่อสารแบบสองทาง ซึ่งจะช่วยให้คาโอสามารถตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ฮาคูโฮโด (กรุงเทพฯ) จำกัด
รจน์นันท์ สมชิต (ต่อ 711), ณัฐ นาคะสุวรรณ (ต่อ 708),
นุชจรินทร์ องค์อรรถฉัตร (ต่อ 712) หรือ ฐิติกา จารุรัตน์ (ต่อ 709)
โทร. 0-2257-0533 โทรสาร 0-2257-0545-6--จบ--
-ขธ-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ