กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมแถลงผลประชุม Top Executives' Networking Forum ที่โรงแรมดุสิต รีสอร์ต และโปโลคลับ ภายหลังการปาฐกถาเรื่อง "มุมมองสมคิด อนาคตเศรษฐกิจไทย" และการเสวนาโดยผู้บริหารระดับสูงในหัวข้อ "สถานการณ์ปัจจุบันและทิศทางในอนาคต" "กลุ่มธนาคาร: การกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเสถียรภาพทางการเงิน" "อสังหาริมทรัพย์: ภาคธุรกิจที่ยั่งยืน" และ "ตลาดทุนกับความเชื่อมั่นของประชาชน" ว่า การสัมมนาที่เกิดขึ้น มีความหมายและแสดงให้เห็นถึงความชัดเจนหลายประการเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทย ซึ่งแต่ละภาคธุรกิจได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ที่สำคัญคือ จะเป็นการรวมพลังของกิจการที่อยู่ใน SET50 เพื่อเป็นแกนนำในการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ต่อไป
"พลังซึ่งอยู่ใน SET50 นั้นไม่เคยถูกใช้มาก่อน ซึ่งการเสวนาตั้งแต่ในช่วงเช้าได้แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนของภาคธุรกิจต่างๆ ในภาคการเงินคือ ภาวะดอกเบี้ย ซึ่งทางการจะไม่เข้าไปแทรกแซง แต่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น สำหรับความชัดเจนในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในส่วนของที่อยู่อาศัยและนิคมอุตสาหกรรม ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ ช่วงที่ถือเป็นไฮไลท์คือ บรรษัทภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม
โดยรวมแล้ว เศรษฐกิจของประเทศไทยนั้น แข็งแกร่ง และแม้ว่าจะมีอุปสรรคในการพัฒนา แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ทั้งนี้ ธุรกิจที่อยู่ใน SET50 จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของภาคเศรษฐกิจรวม ซึ่งในอนาคต เราจะได้เห็นกิจกรรมที่ร่วมกันผลักดันอีกหลายประการ การสัมมนาในวันนี้ มิได้เน้นเพียงเรื่องการพัฒนาตลาดทุน แต่ยังครอบคลุมไปถึงการปฏิรูปพื้นฐานเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีความร่วมมือระหว่างบริษัทใน SET50 สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในอนาคต" รมว.คลังกล่าว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) กล่าวว่า การคุ้มครองผู้ลงทุนปัจจุบันมีกลไกการคุ้มครองที่ดี และทั้งสมาคมบริษัทจดทะเบียน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ต่างมีแผนที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
ทำให้นักลงทุนต่างประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ดังนั้น จะต้องมีการถ่ายทอดสิ่งที่ดีที่มีอยู่ให้เป็นที่รับรู้แพร่หลายออกไปยังต่างประเทศ
นายวิจิตร สุพินิจ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่า สิ่งแวดล้อมในตลาดทุนน่าจะสร้างความมั่นใจในการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจไทย และการประกอบการของแต่ละภาคธุรกิจ ต่างเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตลาดทุนไทย บริษัทใน SET50 เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น โดยตลท. พร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจ
ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวเสริมว่า การเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนสถาบันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อทำให้สัดส่วนผู้ลงทุนกลุ่มต่างๆ มีความสมดุลมากขึ้น ในการนี้ จะมีการรวมตัวกันระหว่างองค์กรตลาดทุน คือ สมาคมบริษัทจดทะเบียน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็น "สภาธุรกิจตลาดทุนไทย" เพื่อต้อนรับการลงทุนจากต่างประเทศ ร่วมกันทำงานเพื่อสร้างความแข็งแกร่งของตลาดทุนไทย
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 - 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 - 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--
-นท-