นวัตกรรมรากฟันเทียมช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิต[1] พร้อมคืนความมั่นใจ

ข่าวทั่วไป Sunday June 3, 2012 10:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ผู้มีปัญหาการสูญเสียฟันเพียงแค่หนึ่งหรือสองซี่ นอกจากจะไม่ปลอดภัย และรู้สึกไม่มั่นใจแล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุของการสูญเสียฟันแต่ละซี่ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ยีนในร่างกายผิดปกติ ฟันผุ โรคปริทันต์ แต่ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุใด ผู้สูญเสียฟันต่างก็ต้องการที่จะได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อที่จะกลับมาเคี้ยวอาหารได้เหมือนเดิม สามารถไว้วางใจในความคงทนของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรักษา มีสุขภาพฟันที่ดี รวมถึงรู้สึกมั่นใจ เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่การทำรากฟันเทียมได้เกิดขึ้น เพื่อแทนที่รากฟันธรรมชาติ โดยรากฟันเทียมนั้น ทำจากไทเทเนียม ซึ่งจะถูกฝังในกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติที่เสียไป ซึ่งไทเทเนียมสามารถเข้ากับร่างกายของมนุษย์และกระดูกได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เข้ารับการรักษารากฟันเทียมจะทำหน้าที่เสมือนฐานรากสำหรับการเชื่อมฟันปลอมแต่ละซี่ สะพานฟัน หรือเป็นตัวยึดของฟันปลอมทั้งหมด รากฟันเทียมยังเป็นวิธีการรักษาในระยะยาวที่ให้ความสวยงาม โดยได้รับการพัฒนาขึ้นให้มีคุณภาพและ ความคงทนที่มั่นใจได้ นอกจากนี้ รากฟันเทียมใหม่ๆ ยังมีความสวยงามเหมือนธรรมชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย รากฟันเทียมยังช่วยถ่ายเทน้ำหนักในการเคี้ยวอาหารให้ถ่ายเทไปยังขากรรไกร จึงช่วยรักษากระดูกให้มีสภาพเหมือนเดิม หากไม่มีรากฟันเทียมหรือใช้สะพานฟันแบบเดิมหรือการใช้ฟันปลอมบางส่วน กระดูกอาจจะยุบและทำให้รูปร่างของใบหน้าเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน สตรอแมนน์ (Straumann) ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมรากฟันเทียม ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ จึงได้จัดงานแถลงข่าวพร้อมการเสวนาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างคุณภาพชีวิตด้วยรากฟันเทียม” เพื่อให้คนไทยได้มีความรู้ ความเข้าใจในรากฟันเทียมดียิ่งขึ้น นายบีท สแปลิงเจอร์ ประธานบริหารและซีอีโอ สตรอแมนน์ กล่าวว่า “สตรอแมนน์ได้ร่วมมือกับคลินิก สถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในการวิจัย พัฒนาและสร้างสรรค์รากฟันเทียมและผลิตภัณฑ์ในการสร้างเนื้อเยื่อในช่องปาก เรานำเสนอทางเลือกในการรักษาที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การรักษาฟันเพียงซี่เดียวไปจนถึงไม่มีฟันเลย สตรอแมนน์ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมรากฟันเทียมที่จำหน่ายรากฟันเทียมมากกว่าเก้าล้านชิ้นทั่วโลก โดยมีอัตราความสำเร็จในการรักษาที่สูง โดยผลิตภัณฑ์และการให้บริการของเรามีอยู่ในกว่า 70 ประเทศผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและพาร์ทเนอร์ต่างๆ สตรอแมนน์ยังได้ร่วมมือเป็นระยะเวลายาวนานกับสมาคมทันตกรรมรากเทียมนานาชาติ (International Team for Implantology หรือ ITI) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่รวบรวมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมระดับโลก และเพิ่งเริ่มดำเนินการในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่ผ่านมา สตรอแมนน์ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมดังกล่าวมากว่าสามทศวรรษ ในการพัฒนาเทคโนโลยีรากฟันเทียมที่ผ่านการวิจัยและการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่ามีประสิทธิภาพสูงในการรักษา และคุณภาพที่ไว้วางใจได้ ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองของเราทั้งปัจจุบันและในอนาคต” ทันตแพทย์ชัชชัย คุณาวิศรุต จากคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้ชำนาญการ รากเทียมและสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมทันตกรรมรากเทียมนานาชาติ (The International Team for Implantology) กล่าวว่า “ทันตกรรมรากเทียมได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในเอเชียรวมถึงประเทศไทย โดยมีอัตราความสำเร็จสูงถึงกว่า 90% สามารถใช้ได้กับคนในทุกวัยที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป เทคโนโลยีรากฟันเทียมยังได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดสิบปีที่ผ่านมา โดยรากฟันเทียมที่มีพื้นผิวพิเศษจะช่วยให้ระยะเวลาในการรักษาเร็วขึ้นมาก จาก 3 เดือนเหลือเพียง 4 สัปดาห์ในคนไข้ที่มีกระดูกแข็งแรง อย่างไรก็ตาม การรักษาโดยทันตแพทย์พร้อมด้วยการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมยังเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อช่วยให้รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน” ศาสตราจารย์เกียรติคุณ และศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ แพทย์หญิงสุจิตรา ประสานสุข ประธานองค์กรเพื่อการได้ยินนานาชาติของประเทศไทยและผู้อำนวยการศูนย์การได้ยิน การพูด การทรงตัว เสียงในหู โรงพยาบาลกรุงเทพ ผู้มีประสบการณ์ในการทำทันตกรรมรากเทียม เปิดเผยว่า “สาเหตุที่เลือกใช้รากฟันเทียมไทเทเนียม เพราะพบว่าเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดหลังจากได้ค้นคว้าข้อมูลอย่างละเอียด ซึ่งทันตแพทย์ที่ทำการรักษาได้ออกแบบให้มีสี ขนาดและรูปทรงเหมาะกับเรามากที่สุด นอกจากจะใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ เศษอาหารไม่ติดขณะรับประทานอาหาร ทำความสะอาดและดูแลได้ง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายและเวลาที่เสียไป เพราะไม่ต้องทำการรักษาบ่อยๆ และยังมีอายุการใช้งานที่นานมาก” นายฟิลิปป์ เนิชช์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำเอเชียแปซิฟิค สตรอแมนน์ กล่าวว่า “รากฟันเทียมของ สตรอแมนน์มีประสิทธิภาพสูง หลังจากการใช้งานที่ยาวนาน โดยสามารถพิสูจน์ได้จากการตามผลย้อนหลังไปได้ถึงสิบปี รากฟันเทียมของเราได้มาตรฐานคุณภาพระดับสากล การร่วมมือกับสมาคมทันตกรรม รากเทียมนานาชาติยังมีวัตถุประสงค์สำคัญในการพัฒนาการรักษาและเพื่อผลอันเป็นเลิศแก่ผู้เข้ารับ การรักษา โดยนวัตกรรมล่าสุดของเราซึ่งเข้าสู่ตลาดไทยแล้วเช่นกัน ประกอบด้วย รากฟันเทียมชนิดใหม่ที่มีผิวพิเศษซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการรักษา หลังจากใส่รากฟันเทียมแล้ว จาก 6-8 สัปดาห์เหลือเพียง 3-4 สัปดาห์เท่านั้น โดยเราได้จำหน่ายรากฟันเทียมชนิดนี้แล้วกว่าหนึ่งล้านชิ้นทั่วโลก และเรายังมีอีก หนึ่งนวัตกรรมคือวัสดุใหม่ของรากฟันเทียมซึ่งผสมผสานระหว่างไทเทเนียมและเซอร์โคเนียม โดยผ่าน การทดสอบแล้วว่ามีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นได้สูงกว่ารากฟันเทียมไทเทเนียมบริสุทธิ์ ซึ่งวัสดุพิเศษนี้ ทำให้รากฟันเทียมที่มีขนาดเล็กลงยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนเอเชียซึ่งมีรากฟันที่เล็กกว่าคนในทวีปอื่นๆ นอกจากนี้ สตรอแมนน์ยังได้รับการยอมรับจากทันตแพทย์ไทยกว่า 230 คนในการใช้งาน” “ภายในปี พ.ศ. 2558 จะมีผู้ทำรากฟันเทียมทั่วโลกประมาณ 50 ล้านคน ที่ได้รับการทำรากฟันเทียมมานานกว่าห้าปีแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการรักษาที่สูง และสตรอแมนน์ก็จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีรากฟันเทียม ครอบคลุมทั้งวัสดุ เทคนิคต่างๆ เพื่อให้การรักษาทันตกรรมรากเทียมมีประสิทธิภาพสูงยิ่งขึ้น โดยยังคงตามปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราที่ว่า Simply doing more” นายบีท สแปลิงเจอร์กล่าว นายฟิลิปป์ เนิชช์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำเอเชียแปซิฟิค นงลักษณ์ กิจเจริญการกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเพื่อสุขภาพ และบีท สแปลิงเจอร์ ประธานบริหารและซีอีโอ สตรอแมนน์
แท็ก นวัตกรรม  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ