รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวคิดจะในการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล

ข่าวบันเทิง Wednesday June 16, 2004 14:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
จากกรณีที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) มีแนวคิดจะสานต่อการซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล โดยได้เข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งท่านเห็นชอบในหลักการเบื้องต้น และหากอยากจะทราบข้อมูลก็ควรสอบถามนายไพบูลย์ โดยตรงจะดีกว่า ซึ่งกรณีดังกล่าว นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
* ทำไมจึงอยากซื้อหุ้นสโมสรลิเวอร์พูล
ครั้งแรกที่ผมได้ยินข่าวช่วงแรก ผมเข้าใจว่าประชาชนยินดี ทุกคนดีใจ ชื่อของประเทศไทยก็ดังไปทั่วโลก แต่ก็มีคำถามตามมามากมายว่า ทำไมไม่ให้โอกาสประชาชน ท่านนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ก็เลยหาวิธีการให้ประชาชนเข้ามาร่วม ทีแรกจะใช้วิธีขายหุ้น ต่อมาก็เป็นการออกหวยหุ้น ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง จากเรื่องที่ดีกลายเป็นเรื่องไม่ดี ซึ่งผมมองว่าการซื้อหุ้นลิเวอร์พูลยังเป็นเรื่องที่ดีอยู่ ผมมองว่าเป็นเรื่องธุรกิจ มีโอกาสทางการตลาด ผมจึงลองไปศึกษาดูว่าตัวเลขงบดุลเป็นอย่างไร โอกาสเป็นอย่างไร น่าทำธุรกิจหรือไม่ ผมว่าเรื่องนี้น่าจะให้เอกชนเข้าไปลงทุน ไม่ควรใช้เงินของรัฐในการลงทุน ขณะเดียวกันผมสนใจก็จะนำพาเอาผู้ที่อยากจะลงทุนมาซื้อในนามเอกชนคนไทยกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ในเบื้องต้นผมเพียงแค่ศึกษา ยังไม่ได้ซื้อ และขอย้ำว่าผมไม่ได้ซื้อในนามประเทศไทย ผมซื้อในนามเอกชนคนไทย ถ้าผมวิเคราะห์ว่าธุรกิจดีเราก็ซื้อ ถ้าไม่ดีก็ไม่ซื้อ และประชาชนก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ ซื้อได้หรือไม่ได้ไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่เอกชนควรเข้าไปซื้อมากกว่า ซื้อแล้วจะกำไรขาดทุนก็เป็นเรื่องของเรา
* อะไรเป็นเหตุจูงใจ
แกรมมี่ สนใจธุรกิจกีฬามานานแล้ว เราเคยตั้งบริษัทแกรมมี่ สปอร์ต เมื่อ 10 ปีก่อน ผมเห็นว่ากีฬาเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับงานที่ผมถนัด คือ ธุรกิจบันเทิง เมื่อปีที่ผ่านมาผมได้ชวนเพื่อน คือ คุณธวัชชัย วิไลลักษณ์ ผู้บริหาร บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คุณระวิ โหลทอง เจ้าของสยามสปอร์ต มาปรึกษากัน 3 คนว่า เมืองไทยน่าจะมีฟุตบอลลีคอาชีพจริงๆ ผมเห็นว่าคำว่า ฟุตบอลอาชีพ จะต้องมีเงิน หมายความว่านักเตะจะต้องได้เงินที่คุ้มค่า สโมสรที่ชนะการแข่งขัน ต้องได้รางวัลระดับ 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ใช่แค่หลักแสน ธุรกิจนี้ต้องเป็นอาชีพจริงๆ ถึงจะอยู่ได้ เหมือนกับที่ผมทำธุรกิจเพลงผมทำให้นักร้อง นักแต่งเพลง หรือดีเจ กลายเป็นอาชีพ ทุกวันนี้ผมเห็นว่านักเตะฟุตบอลสโมสรยังไม่ใช่อาชีพ มันต้องมีการตลาดที่ครบถ้วน
การเอาธุรกิจเข้ามาในการกีฬา ไม่ทำให้การกีฬาเสื่อมเสีย แต่เป็นการส่งเสริมกีฬา ให้เยาวชนเกิดความสนใจและอยากเข้ามามีส่วนร่วม อย่างเช่น ฟุตบอลเป็นการบันเทิงแขนงที่ใหญ่มาก ผมสามารถเข้าไปทำธุรกิจนี้ได้โดยเอาธุรกิจเดิมคือธุรกิจบันเทิง มาสร้างสีสัน มาส่งเสริมธุรกิจกีฬาได้
เมื่อผมเกิดแนวคิดที่จะทำกีฬาให้เป็นธุรกิจ ผมได้ขอความร่วมมือกับทางราชการ ผมปรึกษากับรมช.พงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล อยากจัดฟุตบอลลีก ก็อยากจะทราบว่ารัฐบาลจะช่วยอย่างไรได้บ้าง เช่น การให้หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ สนับสนุนเรื่องสปอนเซอร์ , การขอยกเว้นภาษีสำหรับสปอนเซอร์ , การขอความอนุเคราะห์ในการตั้งสโมสรในสนามกีฬา รวมทั้งการขอจ่ายค่าเช่าสนามกีฬา ในอัตราพิเศษ เป็นต้น ผมยังได้ปรึกษากับท่านพล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ. ในการขอเช่าสนามกีฬาของกองทัพบกที่มีอยู่ประมาณ 180 สนาม เพื่อจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งท่านก็ได้ส่งพันเอกวีรศักดิ์ มณีอินทร์มาร่วมประชุมด้วย ผมปรึกษากับท่านสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะให้การสนับสนุน
* เหตุจูงใจในการซื้อหุ้นหงส์แดง
เมื่อผมอยากทำฟุตบอลไทยลีก ก็เห็นว่าการซื้อหุ้นหงส์แดงเป็นการต่อยอดกับธุรกิจที่ผมอยากจะทำอยู่ เพราะถ้าเราซื้อได้เราก็จะได้ความรู้ได้กลยุทธ์ ได้วิธีโปรโมท วิธีการจัดการทำสโมสรจากลิเวอร์พูล การเมอร์ชั่นไดซิ่ง การบริหารการตลาด การหาสปอนเซอร์ การจัดตั้งโรงเรียนการกีฬา ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นความรู้ที่สำคัญ เป็นสูตรสำเร็จที่เราได้มาอย่างคุ้มค่าที่จะนำมาใช้ในการทำฟุตบอลไทยลีก ผมจึงได้ปรึกษากับรมช.พงษ์ศักดิ์ ว่าจะขอดูงบดุลของลิเวอร์พูล ปรากฎว่าตัวเลขก็สวยงามดี สิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็สามารถนำมาหาประโยชน์ได้ทั่วทั้งเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในตลาดจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ที่เราสามารถทำการตลาดได้ดี อีกทั้งโรงเรียนสอนฟุตบอลของลิเวอร์พูล เขาก็ยินดีให้ไลเซ่นเรา เราก็หานักลงทุนมาร่วมใช้ลิขสิทธิ์ตรงนี้ได้ แต่มีเงื่อนไข 3 ข้อตอนนี้ที่ยังตกลงกันไม่ได้ แต่ทั้งหมดผมมองว่าเงื่อนไขต่างๆ ยังน่าสนใจ น่าสนใจนะครับ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าจะซื้อไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าผมซื้อได้ ทำแล้วขาดทุน ก็เป็นปัญหาของผม ถือว่าเป็นเรื่องของเอกชนกลุ่มหนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับประเทศไทย
* ถ้าซื้อได้แล้วจะมีการลงทุนในรูปแบบใด
ถ้าสมมุติว่าผมซื้อหุ้นลิเวอร์พูลได้ ผมวางแผนการลงทุนไว้ดังนี้
ผมจะตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้นมา และมีบริษัทอยู่ข้างล่าง 4 บริษัท ประกอบด้วย
1. บริษัทที่จะเข้าไปซื้อหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ของลิเวอร์พูล ซึ่งเงินลงทุนนี้ก็จะเป็นเงินที่นำไปลงทุนในสโมสรลิเวอร์พูล
2. ตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารสิทธิประโยชน์ เมอร์ชันไดซิ่ง ไลเซนซิ่ง เพื่อทำตลาดไปทั่วทั้งเอเชีย
3. ตั้งโรงเรียนสอนฟุตบอลที่เรามีแผนจะขยายไปทั่วเอเชียเช่นกัน
4. ตั้งบริษัทขึ้นมาทำหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีค และสร้างสโมสรฟุตบอลลีค
ทั้งหมดนี้จะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท ผมคิดในใจว่าจะชวนเพื่อนฝูงลง ทุนธุรกิจกีฬา ซึ่งคิดว่าคงหาไม่ยาก เพราะดูจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร มีคนเอาเงินมาสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์รายละเป็น 10 ล้าน ถ้าผมชวนมาถือหุ้น 10 คนๆละ 300 ล้านบาท คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก ผมคิดว่าคงมีบริษัทเอกชนหลายบริษัทที่สนใจ เช่น เอไอเอส เบียร์ช้าง ไทยประกันชีวิต โอสถสภา คิงส์ เพาเวอร์ ก็เป็นเงิน 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 2,000 ล้านบาท ผมจะเปิดขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจอยากลงทุนในสโมสรลิเวอร์พูล หุ้นละ 100 บาท ขายได้เท่าไหร่ส่วนที่เหลือก็กู้เงินจากธนาคารมาให้ครบ ถ้าเราทำแล้วได้ผลดี ก็เอาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผมเชื่อว่าจะทำให้เกิดการกีฬาที่เป็นฟุตบอลอาชีพได้
* จะลงทุนในนามแกรมมี่ หรือส่วนตัว
ผมตอบง่ายๆ ว่า ถ้าแกรมมี่จะลงทุน ผมก็ต้องถามผู้ถือหุ้น และถามนักวิเคราะห์ว่าจะเห็นชอบหรือไม่ในการที่เราจะขยายเข้าสู่ธุรกิจกีฬาอีกแขนงหนึ่ง ถ้าไม่มีใครเห็นด้วยหรือจะทำให้หุ้นตกผมก็ถือในนามส่วนตัวดีกว่า เพราะผมมีแรงบันดาลใจว่าการซื้อหุ้นลิเวอร์พูลเป็นประโยชน์ที่จะต่อยอดธุรกิจกีฬาของผมได้ ผมยืนยันว่างานนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือมีลับลมคมใน เป็นธุรกิจปกติธรรมดา กำไรขาดทุนก็เป็นเรื่องของผม ผมจึงปรึกษากับรัฐมนตรีช่วยพงษ์ศักดิ์ว่า อยากเข้าไปเรียนปรึกษาท่านนายก เพราะท่านเป็นคนจุดประกายเรื่องนี้ขึ้นมา จึงได้ไปพบท่านเมื่อวันเสาร์ที่ท่านไปเตะฟุตบอลกับคณะทูตที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน
* ประเด็นที่ปรึกษาท่านนายกรัฐมนตรี มีอะไรบ้าง ?
ประเด็นที่ผมเข้าไปปรึกษา คือ
1.การซื้อหุ้นลิเวอร์พูล ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีและที่ผมศึกษาข้อมูลมาแล้วทั้งสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขต่าง ๆ น่าสนใจ ไม่อยากให้พลาดโอกาสนี้ไป ผมขออนุญาตเข้าไปสานต่อโดยตั้งประเด็นว่า ไม่อยากให้รัฐบาลหรือราชการเข้ามามีส่วนร่วม เพราะจะถูกตีความว่าเอาเงินภาษีประชาชนมาลงทุน ผมเรียนถามท่านนายกว่า ถ้าผมรวมกันเฉพาะเอกชนคนไทย แล้วไปซื้อ ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร โดยผมอยากบริหารงานแบบเอกชน ซึ่งมีความคล่องตัว ท่านยังคิดว่าเป็นเรื่องดีอยู่ ท่านบอกว่าเห็นด้วยถ้าผมสนใจเรื่องนี้ เพราะท่านต้องการจุดประกายความคิดนี้ เพื่อวงการกีฬาของเมืองไทย ท่านบอกว่าทางโกลด์แมน แซก เสนอตัวเข้ามาตรวจสอบข้อมูล (Deal Deligence) ให้เราฟรีๆ ซึ่งถ้านับเป็นมูลค่าแล้วก็หลายสิบล้านบาท
2.ผมขอสนับสนุนจากรัฐบาล อยากเห็นฟุตบอลไทยลีคเป็นฟุตบอลอาชีพ ผมจึงขอสนับสนุนจากรัฐบาล คือ เราจะขอใช้สนามกีฬาของราชการในการฝึก ซ้อม และแข่งขัน โดยยินดีจ่ายค่าเช่า ซึ่งท่านนายกบอกว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะท่านสนับสนุนในการให้เอกชนเข้ามาใช้ทรัพยากรที่เป็นของชาติ เพียงแต่ขออย่าไปทำกำไรมาก ๆ ให้ถือว่าต่างคนต่างช่วยกัน
3.ขอให้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจเข้ามาสนับสนุนในการเป็นสปอนเซอร์ชิพ
4.ผมอยากให้รัฐบาลสนับสนุนด้านกีฬาอย่างจริงจัง โดยขอให้รัฐบาลสนับสนุนบริษัทที่เป็นผู้สนับสนุนทางด้านกีฬา เช่น ควรมีนโยบายการลดภาษีให้กับบริษัทเหล่านั้น เหมือนอย่างประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นที่มีนโยบาลชัดเจนเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งท่านนายกเองก็เคยรับทราบว่าเกาหลีและญี่ปุ่นให้การสนับสนุนกับบริษัทเช่นนั้นและล่าสุดเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจว่าประเทศญี่ปุ่นสามารถแข่งฟุตบอลโดยได้แต้มเท่ากับอังกฤษ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ท่านจึงให้ผมเอาข้อทูลนโยบายของเกาหลีและญี่ปุ่นมาศึกษาว่าเป็นอย่างไรแล้วนำเสนอท่านต่อไปซึ่งท่านยินดีพิจารณา
* คุณบุญคลี ปลั่งศิริ เห็นว่าโครงการนี้เป็นการลงทุนที่เสี่ยง ประเมินค่าไม่ได้
ไม่เป็นไร คุณบุญคลี มองในประเด็นของการเงิน แต่ผมมองในเรื่องการตลาด ผมคิดว่าถ้าผมได้สิทธิประโยชน์ทั้งเอเชีย ทั้งเรื่องโรงเรียน เรื่องไลเซ่น ที่ผมสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกลับมาได้ เมื่อผมเดินทางไปคุยกับประเทศต่างๆ ผมหาลูกค้าได้ มีพันธมิตรเพิ่มถือเป็นมูลค่ามหาศาล ผมคิดว่าคุณบุญคลีก็อาจมาร่วมทุนกับผมอีกก็ได้ ตอนนี้ยังถือว่าเป็นกรณีศึกษาอยู่
สุดท้ายนี้ ผมขอยืนยันว่าการซื้อหุ้นครั้งนี้ผมมีความสนใจ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆทั้งสิน อยู่ในระหว่างการศึกษาหาข้อมูล ผมยินดีไปหาข้อมูลมา และยินดีนำมาตีแผ่ให้วิพากษ์วิจารณ์กัน ขอร้องว่าอย่าเพิ่งโจมตีกัน เพราะจะเกิดความเสียหายทั้งเราและเขา ขอให้ฟังเหตุผลกัน เราเสนอตัวเข้ามาเพื่อความกระจ่างของทุกเรื่อง ไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมืองใดๆทั้งสิ้น อยากให้ทุกฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทย อย่างที่พี่ระวิ โหลทอง บอกผมว่า ถ้าผมทำฟุตบอลไทย ลีกได้สำเร็จ เหมือนเป็นการตอบแทนบุญคุณของแผ่นดินไทย--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ