อีเอ็มซีเผยพัฒนาการเหนือชั้นสำหรับการจัดการวงจรการใช้งานข้อมูล ย้ำความเป็นผู้นำ คาดรายได้เติบโต 30% ปีนี้

ข่าวทั่วไป Thursday June 17, 2004 13:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
อีเอ็มซีเผยพัฒนาการเหนือชั้นสำหรับการจัดการวงจรการใช้งานข้อมูล ย้ำความเป็นผู้นำ คาดรายได้เติบโต 30% ปีนี้ เผยรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริง พร้อมกลยุทธ์ผลักดันการจัดการวงจรการใช้งานข้อมูล
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) ผู้นำระดับโลกด้านการจัดเก็บและการจัดการข้อมูล เปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินงานแก่นักลงทุน และนักวิเคราะห์ด้านหลักทรัพย์ โดยผู้บริหารของอีเอ็มซีย้ำถึงความสำเร็จในการนำเสนอนวัตกรรมและการดำเนินธุรกิจในฐานะผู้นำตลาด พร้อมเสนอข้อมูลคาดการณ์ใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2547 และยืนยันตัวเลขประมาณการที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้สำหรับไตรมาสปัจจุบัน ทั้งเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์สำหรับการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล (Information Lifecycle Management - ILM)
มร. โจ ทุซซี่ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของอีเอ็มซี กล่าวว่า แนวโน้มของตลาดในขณะนี้ นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปรับใช้แนวทางการจัดการวงจรการใช้งานของข้อมูล หรือ ILM เนื่องจากปริมาณข้อมูลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าหลายเท่าเมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นของงบประมาณด้านไอที ทั้งนี้เป็นผลมาจากความจำเป็นในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการเติบโตอย่างรวดเร็วของเนื้อหาข้อมูลที่ไม่มีการจัดระเบียบโครงสร้าง เช่น มัลติมีเดีย และอีเมล์ แนวทาง ILM จะช่วยให้บริษัทต่างๆ ทั่วโลกสามารถรับมือกับการเติบโตของข้อมูล และในขณะเดียวกันก็สามารถลดค่าใช้จ่ายในการแบ่งใช้ จัดการ และคุ้มครองข้อมูลซึ่งเป็นสินทรัพย์อันมีค่าของบริษัท อีเอ็มซีในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมด้วยการนำเสนอคุณประโยชน์ดังกล่าว โดยอาศัยเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรวมถึง การที่อีเอ็มซีได้เข้าซื้อกิจการ และความแข็งแกร่งของพันธมิตรของบริษัท
จากปัจจัยดังกล่าวเป็นผลทำให้ บริษัทสามารถมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำยอดรายได้ประมาณ 8,100 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิประมาณ 850 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ไม่รวมกำไรหลังหักภาษี 25 ล้านดอลลาร์ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ และค่าใช้จ่ายแบบหักครั้งเดียวของไตรมาสแรก ทั้งนี้จะทำให้บริษัทสามารถมีอัตราการเติบโตของยอดขายทั่วโลกได้ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คณะผู้บริหารของอีเอ็มซีได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทในการผลักดันแนวทาง ILM ให้เป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุง และปรับเปลี่ยนทรัพยากรด้านไอทีให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านคุณประโยชน์ของข้อมูล ดังต่อไปนี้:
กลยุทธ์ในการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 46,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2547 โดยนำเสนอระบบ ILM และโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดองค์กรขนาดใหญ่ รวมถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วโลก
ระบบโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริง (Virtual Infrastructure - VI) ซึ่ง VMware เป็นผู้บุกเบิก และนำเสนอเทคโนโลยีที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ เครือข่าย และสตอเรจในองค์กร พร้อมกันนี้
ผู้บริหารของอีเอ็มซีได้อธิบายถึงบทบาทของ VI ในโครงการด้านไอที เช่น ILM และระบบประมวลผลแบบยูทิลิตี้คอมพิวติ้ง (Utility Computing)
การจัดตั้งกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซี ซึ่งนำเสนอซอฟต์แวร์ระบบเปิด (Open Software) ที่สำคัญๆ ของอีเอ็มซี โดยผนวกรวมธุรกิจของเลกาโต้ และด็อกคิวเมนตั้ม เพื่อขยายขอบเขตความเป็นผู้นำของอีเอ็มซีในด้าน ILM และมอบคุณประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าด้วยโซลูชั่นซอฟต์แวร์แบบครบวงจรซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีระดับสุดยอด กลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์ของอีเอ็มซีอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรองประธานกรรมการบริหาร 2 ท่าน ได้แก่ มร. เดวิด เดอวัตต์ และ มร. มาร์ค ลูอิส ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าวจะมีรายได้จากการอนุญาตใช้งานซอฟต์แวร์และบริการ 1,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2547
แนวทางการเคลื่อนย้าย และการเปลี่ยนย้ายข้อมูลทั่วทั้งระบบสตอเรจ โดยไม่ทำให้ระบบการทำงานหยุดชะงัก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ซอฟต์แวร์บริหารการทำงานของเครือข่ายสตอเรจสามารถใช้ประโยชน์จากพอร์ตอันชาญฉลาดของ SAN เพื่อแบ่งแยกระบบการจัดการออกจากเส้นทางการถ่ายโอนข้อมูล โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านสตอเรจที่มีอยู่ หรือจำกัดความยืดหยุ่นและการปรับเพิ่มขนาดของโครงสร้างในอนาคต
การสาธิตฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ล้ำหน้าของซอฟต์แวร์ ซึ่งช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างและปรับใช้นโยบายด้านการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ โดยขึ้นอยู่กับระบบงานทางด้านธุรกิจ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำให้สามารถกำหนดและเคลื่อนย้ายข้อมูลประเภทต่างๆ บนสตอเรจที่แตกต่างกันออกไปตามระดับชั้น
รายละเอียดเกี่ยวกับการสร้าง ILM เพื่อรองรับการสำรองข้อมูลขั้นสูง และฟังก์ชั่นการทำงานที่เพิ่มขึ้นบนสตอเรจหลากหลายระดับ รวมถึงระบบสตอเรจระดับไฮเอนด์ และระดับกลางของอีเอ็มซี, สตอเรจแบบ CAS ซึ่งจัดเก็บข้อมูลประเภทที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง, ดิสก์ไลบรารี, ระบบสำรองข้อมูลระยะไกลแบบออฟไลน์, iSCSI และ SAN ระดับเริ่มต้น ในปัจจุบัน เกือบ 2 ใน 3 ของลูกค้ารายใหญ่ที่สุด 500 รายของอีเอ็มซีมีการคุ้มครอง และจัดการข้อมูลบนอุปกรณ์สตอเรจของบริษัทอย่างน้อย 3 ระดับชั้น
"เราได้เพิ่มคุณประโยชน์ให้แก่ลูกค้า และตลาดโดยรวม ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติมทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง" มร. ทุซซี่ กล่าวเสริม "ILM สามารถสร้างได้จากระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบเสมือนจริง ซึ่งช่วยให้องค์กรได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลที่มีอยู่โดยเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ทั้งนี้โดยอาศัยการผนวกรวมระบบสตอเรจ และระบบประมวลผลเข้าด้วยกัน และจัดการทรัพยากรไอทีทั้งหมดจากศูนย์ควบคุมเพียงจุดเดียว โดยครอบคลุมผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตหลายราย วิธีดังกล่าวนอกจากช่วยประหยัดงบประมาณให้กับองค์กรแล้ว ยังช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดการระบบที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตหลายราย และเพิ่มระดับความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ซึ่งทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังว่าจะได้รับจากระบบไอทีของตนเอง"
การพัฒนาโครงสร้างทางการเงิน
ด้าน มร. บิล เทอเบอร์ รองประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของอีเอ็มซี ยืนยันเป้าหมายที่อีเอ็มซีได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ กล่าวคือคาดว่าจะสามารถทำรายได้ในปีนี้ประมาณ 1,950 ล้าน ถึง 1,975 ล้านดอลลาร์ โดยมี
กำไรต่อหุ้น 0.08 ดอลลาร์สำหรับไตรมาสที่สอง นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2547 บริษัทฯ ได้ซื้อหุ้นประมาณ 23.5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 265 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดซื้อหุ้นในช่วงปีนี้อยู่ที่ 26.6 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 310 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ อีเอ็มซีตั้งเป้าหมายในการเพิ่มส่วนต่างกำไรในการดำเนินงานประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ภายในไตรมาสที่สี่ของปี 2547 และคาดว่าจะสามารถเพิ่มเป็นเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ภายในช่วงสิ้นปี 2548
"ฐานะทางการเงินของอีเอ็มซีเริ่มแข็งแกร่งขึ้นมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเราก็ยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะเพิ่มรายได้ ส่วนต่างกำไร กำไรจากการดำเนินงาน และเงินสดหมุนเวียน" มร. เทอเบอร์ กล่าว "ด้วยยอดรายได้และกำไรขั้นต้นที่สูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงไตรมาสแรก ทำให้เราสามารถเพิ่มการลงทุนในส่วนที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างมาก เช่น ธุรกิจซอฟต์แวร์ และตลาดใหม่ๆ รวมถึงตลาดต่างประเทศ และตลาดองค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม"
ข้อมูลเกี่ยวกับ EMC
อีเอ็มซี คือผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นระบบเครือข่ายสตอเรจ แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆทั่วโลกสามารถดึงและใช้ข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ได้ในระดับสูงสุดและใช้ต้นทุนทั้งหมดขั้นต่ำสุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.EMC.com
สำหรับสื่อมวลชน : สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
Khoo Yin
Senior Marcom Specialist
EMC South Asia
Tel: +65-6427-1741
Fax: +65-6333-6878
Email: khoo_yin@emc.com
Local PR agency contact
สุดานาฏ อิ๋วสกุล
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
โทร : 0-2971-3711โทรสาร
: 0-2521-9030Email
: sudanart@pc-a.co.th--จบ--
-นท-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ