บทวิเคราะห์ SET Note ชี้บจ.ในเรียลเซกเตอร์มีกระแสเงินสดคุณภาพ พึ่งพาเงินกู้น้อยลง ระมัดระวังในการลง ทุน แต่ยังมีประสิทธิภาพ ทำรายได้จากทุนสูงต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Thursday June 9, 2005 08:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออก SET Note ฉบับไตรมาส 2/48 ประเมินพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนในเรียลเซกเตอร์ วิเคราะห์กระแสเงินสดและอัตราส่วนที่เกี่ยวข้อง พบบจ.ไทยชะลอการลงทุน แต่ยังมีประสิทธิภาพแม้ในช่วงครึ่งหลังปี 47 ที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว
ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงบทวิเคราะห์ SET Note ฉบับไตรมาส 2/48 เพื่อเชื่อมโยงประเด็นทางพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนกับประเด็นทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคว่า รายงาน SET Note ฉบับนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนซึ่งถือว่าอยู่ในภาคธุรกิจจริง (real sector) โดยการวิเคราะห์กระแสเงินสดและอัตราส่วน ROCE (Return on Capital Employed) ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่แสดงถึงความสามารถของบริษัทในการนำทรัพยากรทางการเงินมาสร้างให้เกิดรายได้พบว่า การที่เศรษฐกิจขยายตัวและบริษัทจดทะเบียนมีรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กระแสเงินสดปรับตัวดีขึ้น จึงสามารถจ่ายคืนหนี้และจ่ายเงินปันผลได้ แต่บริษัทมีความระมัดระวังในการลงทุน ส่งผลให้การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรชะลอตัวลง
“การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของบริษัทจดทะเบียน (ไม่รวมธุรกิจการเงินและบริษัทในกลุ่ม REHABCO) ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มทรัพยากร กลุ่มบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 2 ใน 3 ของการลงทุนรวมของบริษัทจดทะเบียน” ดร. เศรษฐพุฒิกล่าว
แม้การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของบริษัทจดทะเบียนจะชะลอลง แต่บริษัทยังดำเนินกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะบริษัทสามารถใช้ทุน (capital) ที่มีอยู่มาสร้างรายได้ให้กับกิจการมากขึ้น เห็นได้จากอัตราส่วนค่า ROCE เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 16.60% ในไตรมาส 3/47 เป็น 17.65% และ 18.37% ในไตรมาส 4/47 และ 1/48 ตามลำดับ แม้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะเริ่มชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี 47 ก็ตาม
“กิจการที่มีค่า ROCE เพิ่มสูงขึ้นได้แก่ กิจการในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง กลุ่มพลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยี”
“การที่บริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ถาวรลดลงและระมัดระวังรอบคอบในการขยายธุรกิจมากขึ้น” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าว
รายงานบทวิเคราะห์ SET Note จัดทำโดยฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกเป็นประจำทุกไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 1/2548 เป็นต้นมา สำหรับในครั้งต่อไปของปีนี้ กำหนดออกในวันที่ 8 ของเดือน ก.ย. และ ธ.ค. โดยใน SET Note จะมีตาราง ข้อมูลที่สะท้อนถึงภาพการลงทุน ประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไร ความเสี่ยง ของบริษัทจดทะเบียนโดยรวม ตลอดจนผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลใหม่ที่ไม่มีผู้ใดจัดทำเป็นภาพรวมมาก่อน และสามารถใช้เป็นข้อมูลระดับจุลภาคที่ใช้เสริมกับการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคได้ ผู้สนใจบทวิเคราะห์ SET Note สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.set.or.th/services/files/SET_Note_june_2005.pdf
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร :
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 —2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-222 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229 — 2797--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ