กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,608 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,620 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.60 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท และกลับมาปิดที่ 24,000 บาท กับ 24,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,105 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,938 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 132 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3% แบบ 10 บาท ลดลง 0.2 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 1.6 % GFM12 ปิดที่ 24,290 บาท และ GFQ12 ปิดที่ 24,390 บาท และ GF10M12 ปิดที่ 24,290 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,380 บาท SVM12 ปิดที่ 915 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,619 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 0.8 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 28.94 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,274.37 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมันNYMEX ปิดลดลง 70 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 82.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดลดลง 77.42 จุด ปิดที่ระดับ 12,496.38 จุด
Ratio Gold / Silver 56 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk ตลาดลอนดอน
- ราคาทองคำยังคงปิดตลาดอยู่ในระดับ intraday high บริเวณ 1,625 เหรียญเมื่อคืนนี้ในตลาดลอนดอนด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบางและเต็มไปด้วยความกังวล โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาน่าผิดหวัง
- สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อคืนนี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีก หรือ Retail Sales ประจำเดือนพฤษภาคมลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.1% Core Retail Sales ออกมาลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น 0.1% ในขณะที่ PPI ในเดือนพฤษภาคมลดลง 1% มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.6% ส่วน Core PPI ออกมาตรงตามคาดการณ์คือเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นเดียวกันกับ Business Inventories ที่ออกมาตรงตามคาดการณ์คือเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้ยกระดับโอกาสที่เฟดอาจออกมาตรการ QE3 เพิ่มมากขึ้น
- ตลาดยังคงมีความกังวลถึงการเลือกตั้งของกรีซที่จะมาถึงในช่วงสุดสัปดาห์ จากการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ไม่มีพรรคการเมืองใดสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยพรรคที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดได้รับเสียงส่วนใหญ่ สิ่งนี้เองบังคับให้ประเทศมีแผนกำหนดการเลือกตั้งใหม่ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้หากมีความล้มเหลวในการได้มาซึ่งผู้ชนะที่ชัดเจนที่สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขในการผ่อนคลายหนี้ต่อไป กรีซก็อาจจะถูกบังคับให้ออกจากสกุลเงินยูโรและนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ในท้ายที่สุด
- ณ ขณะนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองในวงกว้างๆ และเศรษฐกิจมหัพภาคกำลังขับเคลื่อนตลาดทางการเงินในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นทางด้านเสถียรภาพของยูโรโซน ท่าทีทางนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และย่างก้าวในการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้
- นอกจากนี้ในข่าวอื่นๆ ที่สนับสนุนราคาทองคำ ประเทศคาซัคสถานวางแผนที่จะเพิ่มปริมาณทองคำ ตามที่เป็นส่วนหนึ่งของการสำรองทองคำระหว่างประเทศสู่ระดับ 20% จาก 15% ซึ่งรองประธานธนาคารกลางของคาซัคสถานกล่าวว่า ทางธนาคารกลางจะเข้าซื้อทองคำจำนวน 24.5 ตันในปีนี้ เมื่ออ้างอิงข้อมูลจาก World Gold Council ระบุว่า เมื่อช่วงสิ้นเดือนเมษายนคาซัคสถานถือครองทองคำที่ระดับ 98.2 ตัน ทำให้ประเทศคาซัคสถานถือครองทองคำอยู่ในอันดับ 35
Reuter
ตลาดนิวยอร์ก
- ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ จากการที่นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำเนื่องจากความไม่แน่นอนในยุโรปเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งกรีซ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองคำยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านสำคัญที่อาจกระตุ้นให้เกิดการเทขายทางเทคนิคได้
- โดยราคาทองคำที่มักจะเคลื่อนตัวไปกับสินทรัพย์เสี่ยงมาตลอดในปีนี้ ภายหลังมีการปรับตัวลดลงแม้ว่าสกุลเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นก็ตาม โดยราคาทองคำล้มเหลวที่จะขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 1,640 เหรียญซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นมาหลายครั้งก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ราคาทองคำลงไปที่ระดับ 1,580 เหรียญ มีการฟื้นตัวขึ้นมา 4% ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมาจากแรงเข้าซื้อที่มากขึ้นและกองทุนเข้าซื้อในสัญญา call options ตามที่มีสัญญาณทางวิกฤตหนี้ยุโรปที่เลวร้ายลงส่งผลให้เกิดความคาดหวังในมาตรการผ่อนคลายการเงินจากกลุ่มธนาคารกลางต่างๆ
ตลาดสิงคโปร์
- ราคาทองคำทรงตัวในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ในเช้าวันนี้ โดยราคา spot gold เกือบจะไม่ขยับไปไหนอยู่บริเวณ 1,617 เหรียญ ณ เวลา 7.19 น.
- ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายฟรังซัวร์ ออลลองด์ ประกาศเตือนเมื่อวานนี้ว่า บางประเทศในยุโรปอาจต้องการให้กรีซออกจากยูโรโซนหากไม่รักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศหลังการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน
- ในวันนี้นักลงทุนจะจับตามองการประมูลพันธบัตรอิตาลี หลังจากที่ต้นทุนการกู้ยืมพุ่งสูงขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือนในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้จากความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการจัดการภาระหนี้ของตนเอง
Infoquest
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 3 ขั้น สู่ระดับ Baa3 จากระดับ A3 พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การที่รัฐบาลสเปนเตรียมขอความช่วยเหลือด้านการเงินนั้น จะส่งผลให้ตัวเลขหนี้สินของสเปนปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ มูดีส์ยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทุนปรับโครงสร้างธนาคาร (FOBR) ซึ่งเป็นกองทุนที่รัฐบาลสเปนจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการรับเงินกู้จากสหภาพยุโรป (อียู) ให้กับธนาคารที่ประสบปัญหาด้านการเงินนั้น ลงมาอยู่ที่ระดับ Baa3 จากระดับ A3
- อีแกน-โจนส์ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลงสู่ระดับ CCC+ จากเดิมที่ B โดยให้แนวโน้มเชิงลบ การปรับลดอันดับดังกล่าวนับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบกว่า 1 เดือน และมีขึ้นเพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่อีแกน-โจนส์ได้หั่นเครดิตสเปนลงสู่ระดับ B จากเดิมที่ BB- เมื่อเดือนพ.ค.
อีแกน-โจนส์เปิดเผยว่าเศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะอ่อนแอจากหนี้สินของรัฐบาล โดยเสริมว่าอัตราว่างงานที่ 24.4% ของสเปนก็ยังเป็นปัจจัยที่น่าวิตก ขณะที่การขาดทุนเพิ่มขึ้นในภาคธนาคารและการถอนเงินฝากจากระบบการธนาคารที่อาจจะมีขึ้นก็ยิ่งฉุดฐานะทางการคลังของประเทศที่อยู่ในภาวะอ่อนแอยู่แล้ว
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Core Retail Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ -0.4%
- PPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% ตัวเลขจริงออกมาดีขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ -0.1%
- Retail Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2%
- Core PPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2%
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.1M ตัวเลขจริงออกมาลดลงที่ -0.2M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Core CPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2%ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2%
- CPI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0%ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.2%
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 377K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 377K
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นในตลาด COMEX เช่นเดิม โดยช่วงของตลาดเอเชียมีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเป็นลักษณะ Sideway Trading โดยที่ราคาทองคำค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้นจนทะลุระดับ 1,610 เหรียญขึ้นไปในตลาด COMEX เมื่อตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ออกเมื่อวาน 4 ตัวอันได้แก่ Retail Sales, Core Retail Sales, PPI และ Core PPI ซึ่งตัวเลขทั้ง 4 ออกมาอยู่ในเกณฑ์แย่ลงโดยสภาพรวมของเศรษฐกิจ ก็เลยทำให้ตลาดเริ่มหันมาสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจกับสหรัฐอเมริกาที่แย่ลงและคาดหวังว่าการประชุม FOMC ในวันที่ 19 — 20 มิถุนายนนี้อาจจะมีมาตรการ QE3 ก็เป็นได้ ฉะนั้นจึงยังเป็นการเก็งกำไรในทิศทางแกว่งตัวขาขึ้นในระยะสั้นๆ โดยทองคำจะมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,625 เหรียญ และ 1,635 เหรียญตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นแนวต้านสำคัญในเชิงเทคนิคสำหรับกราฟรายวัน ส่วนแนวรับทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,610 เหรียญในระยะสั้นแบบรายวันรายชั่วโมง
Gold Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400 บาท
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,500 บาท
Silver Futures M12 จะมีแนวรับที่ระดับ 900 บาท และแนวต้านที่ระดับ 930 บาท
คำแนะนำ
- สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัว ซึ่งคาดว่ายังแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นในกรอบ 1,610 — 1,625 เหรียญ ถ้าทะลุระดับ 1,625 เหรียญ ขึ้นไปได้ราคาอาจจะค่อยๆ ปรับสู่ระดับ 1,635 เหรียญได้ อย่างไรก็ดีตลาดยังมีความกังวลกับการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ที่จะเกิดขึ้นอย่างมาก และจะเป็นตัวตัดสินชะตาของทั้งยูโรดอลลาร์และทองคำด้วยเช่นเดียวกัน
- นักลงทุนระยะสั้นรายสัปดาห์ 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ยังแนะนำให้อยู่เฉยๆ เป็นลักษณะ Wait and See สำหรับ Portfolio ที่เป็น Short Position ให้ทำ Hedging หรือปิดสถานะ Short ไปก่อน
- นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังรอความชัดเจนของทิศทางตลาดมากกว่าที่จะทำอะไร
สรุปได้ว่า ราคาทองคำเป็นช่วงของการแกว่งตัวเป็น Sideway ในทิศทางขาขึ้นในระยะสั้นๆ กรอบแนวโน้มหลักใหญ่ยังเป็นแนวโน้มขาลงจากกราฟรายวัน จนกว่าราคาจะทะลุระดับ 1,640 เหรียญขึ้นไปได้
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง