กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เอสซีจี
เอสซีจี เปเปอร์ ร่วมทุนพันธมิตรญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทสยาม นิปปอน อินดัสเตรียล เปเปอร์ จำกัด ลงทุน 2,200 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม (High Value Added - HVA) บรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและการแพทย์ เริ่มผลิตกลางปี 2557 นายเชาวลิต เอกบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน เอสซีจี เปิดเผย ความคืบหน้าโครงการลงทุนของธุรกิจกระดาษว่า เอสซีจี เปเปอร์ ได้ร่วมทุนกับบริษัท นิปปอน เปเปอร์ อินดัสทรีส์ จำกัด (NPI) และบริษัท เอ็นพี เทรดดิ้ง จำกัด (NPT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของนิปปอน เปเปอร์ กรุ๊ป (NPG) ประเทศญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัทสยาม นิปปอน อินดัสเตรียล เปเปอร์ จำกัด เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่ม (High Value Added - HVA) มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยเอสซีจี เปเปอร์ ถือหุ้นร้อยละ 45 ขณะที่ NPI และ NPT ถือหุ้นรวมกันร้อยละ 55
“โครงการดังกล่าว เป็นการขยายการลงทุนในกลุ่มกระดาษ Machine Glazed ซึ่งมีความมันวาวและ มีความบาง 20 - 80 แกรม ส่วนใหญ่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมทางการแพทย์ (Hygienic Packaging) ถือเป็นสินค้ามูลค่าเพิ่ม ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตสู่ผู้นำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอาเซียนของเอสซีจี โดยมุ่งเน้นพัฒนาสินค้ามูลค่าเพิ่ม หรือ HVA เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบถ้วน โดยโรงงานจะตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี มีกำลังการผลิต 43,000 ตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ภายในกลางปี 2557” นายเชาวลิต กล่าว
SCG Paperหนึ่งในธุรกิจหลักของเอสซีจี มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย อาทิเช่น เยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษบรรจุภัณฑ์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูก โดยมีฐานการผลิตทั่วภูมิภาคอาเซียน
NPI และ NPT ปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยของ NPG ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ผลิตภัณฑ์หลักของ NPG ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียน และกระดาษสำหรับอุตสาหกรรม นอกจากธุรกิจการผลิตกระดาษ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มแล้ว NPG ยังมีธุรกิจการค้า (Trading) ซึ่งในปัจจุบันมีเครือข่ายกระจายไปในหลายทวีปอาทิ เช่น ยุโรป อเมริกา และเอเชีย