กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--ฐิติกร
- เพื่อความคล่องตัวในการขยายสินเชื่อและบริหารต้นทุน
- ใช้โอกาสดอกเบี้ยระยะสั้นต่ำ ลดต้นทุนทางการเงิน
บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เตรียมเข็นเครื่องมือทางการเงินตั๋วเงินระยะสั้นมูลค่า 1.5 พันล้านบาท เสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่และผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งนี้เพื่อสร้างความคล่องตัวในการบริหารเงินทุน ซึ่งปัจจุบันกว่า 80% เป็นเงินกู้ระยะยาวอัตราดอกเบี้ยคงที่
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายตั๋วเงินระยะสั้น เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ มูลค่าการเสนอขาย ณ ขณะใดขณะหนึ่ง รวมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท โดยตั๋วเงินแต่ละฉบับกำหนดอายุไม่เกิน 270 วัน เพื่อเสนอขายให้ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ พร้อมทั้งมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหาร เป็นผู้มีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการออกตั๋วเงินดังกล่าวในแต่ละครั้ง เช่น อัตราดอกเบี้ย, ระยะเวลาในการเสนอขาย, อายุของตั๋วเงิน และจำนวนเงินที่เสนอขาย เป็นต้น
“สาเหตุที่ TK เตรียมความพร้อมในการออกเครื่องมือทางการเงินที่เป็นตั๋วเงินระยะสั้นออกมาในช่วงนี้เพราะเราเห็นว่าอัตราดอกเบี้ย ณ ขณะนี้อยู่ในระดับที่ต่ำ และเปิดโอกาสให้ TK สามารถใช้เงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ” นางสาวปฐมา กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้ต่อทุน (Debt Equity Ratio) เพียง 1.3 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม 9.4 เท่า ขณะนี้เงินกู้ของบริษัทฯ กว่า 80% เป็นเงินกู้ระยะยาวอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ยที่ 4% เศษ ๆ
ทางด้านนายประพล พรประภา รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมว่าการเตรียมพร้อมออกตั๋วเงินระยะสั้นในวงเงิน 1,500 ล้านบาทนี้เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวในการบริหารต้นทุนทางการเงินเพื่อให้สามารถแข่งขันในท้องตลาดได้ อีกทั้งยังเพื่อให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเพื่อรองรับกับภาวะการแข่งขันในตลาด และพร้อมที่จะขยายสินเชื่อในปีนี้
นายประพลกล่าวว่าแม้ว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งล่าสุดมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3% ก็ตาม แต่ตนเชื่อมั่นว่าแนวโน้มดอกเบี้ยในระยะยาวนั้น ยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ดังนั้นการออกตั๋วเงินระยะสั้นออกมาครั้งนี้เพื่อบริหารโอกาสของอัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วงระยะนี้เท่านั้น เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของ TK
“นอกจากนี้ เรายังวิเคราะห์ถึงสภาพตลาดด้วยว่าตลาดรถมอเตอร์ไซค์จะฟื้นกลับมานับจากนี้เป็นต้นไปเพราะผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ทุกราย เข้าสู่ภาคการผลิตเต็มรูปแบบและเต็มกำลังการผลิตเพื่อรองรับกับความต้องการที่อั้นมาจากปีที่แล้วที่โรงงานต้องปิดไปในช่วงน้ำท่วมใหญ่ เราจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะรับกับการเติบโตในอีก 2 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้” นายประพลกล่าว
นายประพลกล่าวว่าตลาดรถจักรยายนต์เมื่อปีที่แล้ว ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่แล้ว จึงทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์มียอดขายเพียง 2 ล้านคัน จากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตที่ 2.1 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดจะอยู่ที่ 2 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว ยังถือว่าตลาดรถจักรยานยนต์เติบโตอยู่ที่ 8.4%
สำหรับปีนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยน่าจะสร้างสถิติใหม่โดยจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2.2 ล้านคันในปีนี้ ซึ่ง TK คาดว่า Port สินเชื่อของบริษัทฯ จะทำลายสถิติเดิมและเติบโตอย่างน้อย 10%