คอลเลคชั่นนาฬิกาของสวารอฟสกี้ ปี 2012

ข่าวทั่วไป Monday June 25, 2012 17:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--ซิลเลเบิล สวารอฟสกี้ภูมิใจนำเสนอนาฬิกาข้อมือคอลเลคชั่นที่สี่ของบริษัท ซึ่งเป็นผลงานล่าสุด ที่จัดแสดงอย่างน่าประทับใจในงานแสดงนาฬิกาและเครื่องประดับ Baselworld 2012 ในปีนี้บริษัทเปิดตัว Lake of Shimmer ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ Avant Time รุ่นที่สาม Lovely Crystals และ Crystalline เป็นผลิตภัณฑ์สองไลน์ใหม่ที่มีกำหนดเปิดตัวพร้อมกับรุ่นหลักอย่าง Octea ที่จะมาพร้อมกับสีสันใหม่เพื่อเสริมทัพให้กับไลน์ Octea Sport และ Octea Chrono ใน คอลเลคชั่นใหม่นี้จะสามารถพบเห็น Crystal Mesh ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์ของสวารอฟสกี้ได้ในไลน์ Elis Mini, Elis Lady, Piazza และ Elis Bangle ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วง นาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นเก้าไลน์ที่นำเสนอ 16 รุ่นล่าสุด โดยส่วนใหญ่วางจำหน่ายทั่วโลกแล้วในบูติกหลายแห่งของสวารอฟสกี้และในร้านจำหน่ายนาฬิกาข้อมือที่ได้รับการคัดสรร LAKE OF SHIMMER Avant Time N? 3 โดย Tokujin Yoshiokaดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นผู้มีชื่อเสียงระดับโลก Tokujin Yoshioka ได้สร้างสรรค์นาฬิกาสุดพิเศษขึ้นสำหรับสวารอฟสกี้ดีไซน์เนอร์ท่านนี้ คือผู้ออกแบบสถานที่จัดแสดงสินค้าของสวารอฟสกี้ ที่ได้รับรางวัล ในงาน Baselworld ในปี 2009 ภายใต้ชื่อ “Lake of Shimmer” ผนังกำแพงอันงดงามของสถานที่แห่งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับดีไซน์เนอร์ในการรังสรรค์นาฬิกาเรือนงามที่แสดงถึงความเป็นสวารอฟสกี้ได้อย่างโดดเด่น สายรัดข้อมือที่งดงามของนาฬิกา "Lake of Shimmer" ประดับด้วยแผ่นสเตนเลสสตีลขนาดเล็กรูปหกเหลี่ยมสะท้อนแสง ในรูปแบบเดียวกันกับผนังกำแพงของสถานที่จัดแสดงสินค้า ชื่อเดียวกันนี้ ที่สร้างจากแผ่นอะลูมิเนียม 16,000 แผ่นและสามารถเคลื่อนไหวได้ 40 รูปแบบ! หน้าปัดนาฬิกาทำจากคริสตัลใสเจียระไนเพียงชิ้นเดียว ปกป้องด้วยกระจกแซฟ ไฟร์ ผิวเรียบซึ่งจะเรียกความสนใจได้อย่างไม่ต้องสงสัย นาฬิกามีเฉพาะเข็มชั่วโมงและนาที คอยบอกเวลาที่เคลื่อนผ่านโลโก้ของบริษัทที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา Tokujin Yoshioka กล่าวว่า "ผมต้องการให้ความสุกสว่างจากเหลี่ยมเจียระไนของคริสตัลเป็นตัวบอกเวลาที่เคลื่อนคล้อย" ขอบหน้าปัดสเตนเลสสตีลอันงดงามในรูปวงกลมสมบูรณ์แบบ ล้อมเป็นกรอบให้กับหน้าปัดและเม็ดมะยมที่เรียบง่ายซึ่งประดับคริสตัลหลังเบี้ยและโลโก้ของบริษัท ที่ด้านหลังตัวเรือนสลักสัญลักษณ์ Swanflower? ซ่อนกลไก Swiss ที่สมบูรณ์แบบไว้ภายใน นาฬิกาเรือนนี้ทำจากสเตนเลสสตีลทั้งเรือนและกันน้ำลึก 30 เมตร โดยเริ่มวางจำหน่าย ในเดือนกันยายน นาฬิการุ่น “Lake of Shimmer” นำเสนอเฉพาะในร้านค้าปลีกบางแห่ง รวมถึงร้านที่ตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ “Crystal Forest” ที่ออกแบบโดย Tokujin Yoshioka เท่านั้น ตัวเรือน: ตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 32 มม. กันน้ำลึก 30 เมตร หน้าปัด: หน้าปัดทำจากคริสตัลใสเจียระไน เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา สาย: สายนาฬิกาสเตนเลสสตีล กลไก: ควอตซ์, Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? ที่ด้านหลังตัวเรือน เม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยมีเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ OCTEA CHRONO นาฬิกาข้อมือ “Octea Chrono” เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นสำคัญที่เปิดตัวในปี 2011 และ จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ด้วยสองสีสันที่กำลังได้รับความนิยม นาฬิกาไลน์นี้ยังคงเน้นที่การผสมผสานระหว่างคริสตัล และสายนาฬิกาอย่างเป็นเอกลักษณ์ โดยนาฬิกาโครโนกราฟสีม่วงที่ออกวางจำหน่ายในครั้งแรก จะกลับมาอีกครั้งภายใต้ชื่อ “Octea Chrono Anthracite” ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ในทิศทางเดียว รังสรรค์ขึ้นจากคริสตัลชิ้นเดียวในสี Crystal Silver Night ที่สวยงามจับตา แสดงการไล่ระดับสีเทาเพื่อบ่งบอกถึงนาที หน้าปัดแอนทราไซต์มีตัวจับเวลา 3 ช่องที่ระบุนาที วินาที และ 1/10 วินาที นาฬิกาเรือนงามแต่งเติมความหวาน และเก๋ไก๋แบบอิสตรีด้วยวงกลมประดับคริสตัลฝังแบบพาเว่ที่ล้อมกรอบช่องวินาทีขนาดเล็ก ตัวอักษร Swarovski ประดับอยู่เหนือช่องวันที่ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา รับกับโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งเป็นชิ้นงานโลหะที่ประดับด้วยมือ รายล้อมด้วยเครื่องหมายบอกเวลาทรงกลมเรืองแสงที่ประดับอยู่เป็นระยะ เข็มนาฬิกาเจียระไนยังคงเรืองแสงเช่นในรุ่นก่อน เข็มวินาทีเตรียมพร้อมนับเวลา ทุกวินาที ที่เคลื่อนผ่าน เม็ดมะยมเซาะร่องประดับด้วยโลโก้ใต้คริสตัลเจียระไนหลังเบี้ย ขนาบข้างอย่างงดงาม ด้วยปุ่มกดสองปุ่มที่ใช้สำหรับควบคุมกลไกโครโนกราฟของ ETA นาฬิกา Octea Chrono มีส่วนประกอบ ของสเตนเลสสตีลและได้รับการปิดผิวอย่างมิดชิด มีคุณสมบัติกันน้ำลึก 50 เมตร สายนาฬิกายางสีเทาเข้มช่วยเสริมรูปลักษณ์แบบสปอร์ตอันเปี่ยมด้วยรสนิยมของนาฬิการุ่นนี้ มีการประดับคริสตัลสีไล่โทน Crystal Silver Night หกเม็ดด้วยมือ ช่วยแต่งเติมความสง่างามและความเป็นอิสตรีที่มีหลายด้านดุจดังเหลี่ยมเจียระไนให้แก่ผลิตภัณฑ์นี้ “Octea Chrono Anthracite” สีเทาคลาสสิก หรือ “Octea Chrono Fuchsia” ที่ดูทันสมัย ต่างผลิตขึ้นจากความเชี่ยวชาญของสวารอฟสกี้และทักษะของช่างประดิษฐ์นาฬิกาสวิสขั้นสูง โดยผสมผสานดีไซน์แบบสปอร์ตและความงามสง่าเข้ากับความเที่ยงตรงและความเป็นของแท้ดั้งเดิม ตัวเรือน: ตัวเรือนทรงกลมเคลือบสีเทาแอนทราไซต์ด้วยเทคนิค PVD หรือสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. ขอบหน้าปัดคริสตัลแบบหมุนได้ในทิศทางเดียวพร้อมไล่โทนสีอย่างอ่อน- บางในสีดำแอนทราไซต์หรือสีชมพูฟิวเซีย กันน้ำลึก 50 เมตร กระจกแซฟไฟร์ป้องกันรอย ขีดข่วน เคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อน หน้าปัด: หน้าปัดมีลวดลายแสงอาทิตย์สีเทาเข้มหรือสีขาวเงิน พร้อมวงแหวนสีเทาเข้มหรือสีขาวและมีการตกแต่งภายนอก เครื่องหมายบอกเวลาเรืองแสง มีตัวจับเวลา 3 ช่องสำหรับแสดงนาที วินาที และ 1/10 วินาที ช่องวินาทีขนาดเล็กตกแต่งด้วยวงคริสตัลที่ฝังแบบพาเว่ เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา บอกวันที่ที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา สาย: สายนาฬิกายางสีดำหรือสีชมพูฟิวเซีย ประดับด้วยคริสตัล Crystal Silver Night หรือ Fuchsia Diamond Touch Light 6 เม็ด ตัวล็อคสายแบบหัวเข็มขัดเคลือบผิวสีเทาเข้มด้วยเทคนิค PVD หรือสเตนเลสสตีล กลไก: โครโนกราฟของ ETA, Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? ที่ด้านหลังตัวเรือน เม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยมีเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ OCTEA SPORT นาฬิกาเซรามิก “Octea Sport” ผลงานที่ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิคที่สร้างสรรค์ขึ้นในปี 2011 ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมตกแต่งรายละเอียดด้วยโรสโกลด์ภายใต้ชื่อ “Octea Sport White Rose-Gold” โดยไลน์ผลิตภัณฑ์นี้ยังเสริมทัพด้วยสีสันใหม่ๆ ของคริสตัลที่น่าตื่นตาด้วยรุ่น “Octea Sport Ocean Blue” และ “Octea Sport Lilac” ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ในทิศทางเดียวสร้างสรรค์จากชิ้นงานชิ้นเดี่ยวที่เป็นเซรามิกสีขาวเจียระไน หรือคริสตัลเจียระไนสีฟ้าเข้มหรือสีม่วงอ่อน หน้าปัดแบบสีไล่โทนหรือแบบเคลือบเงาสีขาว ประดับเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ล้อมกรอบด้วยเครื่องหมายบอกเวลาและตัวเลขอารบิกสีโรสโกลด์ หน้าปัดได้รับการปกป้องด้วยกระจกแซฟไฟร์กันรอยขีดข่วนและเคลือบผิวป้องกันแสงสะท้อน ตรงกลางคือ เข็มวินาที รวมทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีที่เรืองแสงเดินผ่านช่องวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เม็ดมะยมเซาะร่องที่งดงามพร้อมคริสตัลเจียระไนหลังเบี้ยตกแต่งด้วยเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ ทำจากโลหะ ที่ด้านหลังตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาด 39 มม. ประดับสัญลักษณ์ Swanflower? ที่ตำแหน่งนี้ยังมีการสลักรายละเอียดที่สำคัญทั้งหมดไว้ เช่น ชื่อแบรนด์ Swiss made และคุณสมบัติกันน้ำลึก 50 เมตร ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่บ่งบอกถึงคุณภาพของนาฬิกาเรือนนี้ สายนาฬิกายางสีขาวประดับเซรามิกสีขาวเจียระไนจำนวน 6 ชิ้นด้วยมือ ผสมผสานเส้นโค้งและเส้นตรงได้ อย่างลงตัว สร้างมนต์สะกดแห่งความงามและความสบายในการสวมใส่ สำหรับรุ่นสีฟ้าน้ำทะเลและสีม่วงไลแลค สายนาฬิกาทำจากยางสมบูรณ์แบบด้วยคริสตัลหกชิ้นในสี Blue Zircon หรือสี Light Amethyst Intensive Diamond Touch Light นี่คือผลงานที่จะสร้างความตื่นตาให้แก่ผู้ชื่นชอบนาฬิกา และผู้ชื่นชอบในเทรนด์แฟชั่นแบบ Color Block รวมทั้งเป็นการฉลองการกลับมาของเซรามิกโดยการตกแต่งด้วยโรสโกลด์ที่งามหรู! ตัวเรือน: ตัวเรือนทรงกลมทำจากอะลูมิเนียม หรือสเตนเลสสตีลเคลือบโรสโกลด์ด้วยเทคนิค PVD เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 39 มม. ขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ในทิศทางเดียวเป็นเซรามิกสีขาว คริสตัลสี Blue Zircon หรือคริสตัลสี Light Amethyst Intensive Diamond Touch Light และคุณสมบัติกันน้ำลึก 50 เมตร หน้าปัด: หน้าปัดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงิน เครื่องหมายบอกเวลาและตัวเลขอารบิกเป็นโรสโกลด์ PVD หรือ สีฟ้าน้ำทะเลหรือสีม่วงไลแลค เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา บอกวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา สาย: สายนาฬิกายางสีขาว สีฟ้าน้ำทะเล หรือสีม่วงไลแลค ประดับด้วยชิ้นงานหกชิ้นทำจาก เซรามิกสีขาว หรือทำจากคริสตัลสี Blue Zircon หรือสี Light Amethyst Intensive Diamond Touch Light ตัวล็อคสายแบบหัวเข็มขัดเป็นสเตนเลสสตีล แบบเคลือบโรสโกลด์ PVD หรืออะลูมิเนียมแบบด้าน กลไก: ควอตซ์, Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? ที่ด้านหลังตัวเรือน เม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยมีเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ CRYSTALLINE “Crystalline” เผยรูปลักษณ์ในตัวเรือนทรงกลมที่สง่างาม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. ตกแต่งด้วยคริสตัลกว่า 800 เม็ดด้วยการฝังประดับแบบพาเว่อย่างสวยงาม นาฬิกาเรือนนี้มีความงดงามโดดเด่นที่ตัวเรือน ซึ่งประดับคั่นอย่างเรียบง่ายด้วยเครื่องหมายโลโก้ รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาและเครื่องหมายบอกเวลาสามตำแหน่งล้วนทำจากโลหะประดับอยู่บนกระจกแซฟไฟร์ หน้าปัดนาฬิกาเผยเสน่ห์แห่งความเคร่งขรึม ประดับชื่อบริษัทไว้อย่างเรียบง่าย สำหรับรุ่น “Crystalline White” เข็มชั่วโมงและนาทีที่เจียระไนอย่างงดงามเคลื่อนอยู่ตรงกลางหน้าปัดที่มีลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงิน สายนาฬิกาเป็นสายหนังลูกวัวสีขาวและตัวล็อคสายเป็นแบบหัวเข็มขัด รุ่น “Crystalline Silver” นำเสนอสายนาฬิกาทำจากผ้าลายสีเงิน โดดเด่นด้วยกระจกเคลือบโรเดียมที่ส่วนตรงกลางของหน้าปัด ในขณะที่รุ่น “Crystalline Black” นำเสนอสายหนังลูกวัวสีดำที่เข้าคู่กับหน้าปัดเคลือบเงาสีดำ นาฬิกาทั้งสามรุ่นมีจำหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2012 นอกจากนี้ยังมี “Crystalline Red” อีกหนึ่งรุ่นที่ดูงามสง่าและเหมาะสำหรับเทศกาลเฉลิมฉลองเช่นเดียวกัน อวดโฉมด้วยหน้าปัดและสายสีแดง โดยจะจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่เดือนกันยายน นาฬิกา “Crystalline” ที่อ่อนหวานผสานแฟชั่นที่กำลังเป็นที่นิยมสูงสุดเข้ากับประโยชน์ ใช้สอยของนาฬิกาสุดคลาสสิก ซึ่งจะเป็นที่ต้องตาต้องใจสำหรับหญิงสาวผู้คล่องแคล่วและงามสง่าได้อย่างแน่นอน ตัวเรือน: ตัวเรือนสเตนเลสสตีลทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. บรรจุคริสตัลใสประมาณ 800 เม็ด พร้อมคุณสมบัติกันน้ำลึก 30 เมตร หน้าปัด: หน้าปัดลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงิน หรือหน้าปัดกระจกเคลือบโรเดียม หรือหน้าปัดเคลือบเงาสีดำ เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเจียระไน เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา สาย: สายผ้าสีเทา หรือสายหนังลูกวัวสีขาวหรือสีดำ ตัวล็อคสายแบบหัวเข็มขัดทำจาก สเตนเลสสตีล กลไก: ควอตซ์, Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? และเม็ดมะยมบนด้านหลังตัวเรือน LOVELY CRYSTALS “Lovely Crystals” ไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากสวารอฟสกี้ และจะมีจำหน่ายในช่วงกลางปี 2012 นาฬิกาทั้งห้าเรือนเปิดตัวด้วยสีสันอันโดดเด่นเพื่อแสดงออกถึงความร่าเริงและอ่อนหวาน ตัวเรือน กว้าง 35 มม. เปล่งประกายด้วย Swarovski Zirconia 16 เม็ด เมื่อผู้สวมใส่เคลื่อนไหวข้อมือ Zirconia เหล่านี้จะเคลื่อนที่เป็นวงกลมรอบๆ ขอบหน้าปัดซึ่งตัดขอบด้วยสเตนเลสสตีล สายนาฬิกาทำจากหนังแท้สีขาว สีดำ หรือสีม่วงแดงแล้วแต่รุ่น พร้อมตัวล็อคสาย แบบหัวเข็มขัดทำจากสเตนเลสสตีล สำหรับรุ่นสีม่วงแดง Zirconia จะไล่โทนตั้งแต่สีขาวไปจนถึง สีแดงเข้ม ส่วนสายนาฬิกาสเตนเลสสตีลสามารถนำไปเคียงคู่กับหน้าปัดสีมุก Mother of Pearl หรือหน้าปัดที่มีลวดลายแสงอาทิตย์สีดำเงิน นาฬิกาทั้งห้ารุ่นมีเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ประดับที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา พร้อมเครื่องหมายบอกเวลาเคลือบโรเดียมที่เก๋ไก๋และเรียบหรู ณ ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกา เม็ดมะยมดูเรียบหรูเช่นเดียวกันด้วยคริสตัลหลังเบี้ยที่ประดับโลโก้รูปหงส์ทำจากโลหะ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลสลักข้อความที่บ่งบอกกลไกนาฬิกาแบบ Swiss made และคุณสมบัติกันน้ำลึก 30 เมตร ตัวเรือน: ตัวเรือนทรงกลมทำจากสเตนเลสสตีลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มม. บรรจุพลอย Zirconia สีขาว หรือสำหรับรุ่นสีม่วงแดงบรรจุพลอยสังเคราะห์สีขาว สี Salmon Pink Zirconia สี Ruby Medium และสี Ruby Dark ที่สามารถเคลื่อนไหวได้จำนวน 16 เม็ด และคุณสมบัติกันน้ำลึก 30 เมตร หน้าปัด: หน้าปัดสีมุก Mother of Pearl หรือหน้าปัดลวดลายแสงอาทิตย์สีดำเงิน ประดับเครื่องหมายบอกเวลาเคลือบโรเดียมที่ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกาเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา สาย: สายหนังลูกวัวแท้สีขาว สีดำ หรือสีม่วงแดง พร้อมตัวล็อคสายแบบหัวเข็มขัดทำจาก สเตนเลสสตีล หรือสายสเตนเลสสตีล กลไก: ควอตซ์, Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? ที่ด้านหลังตัวเรือน เม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยมีเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ ELIS LADY และ ELIS MINI กลุ่มผลิตภัณฑ์ “Elis Mini” ซึ่งมียอดจำหน่ายสูงได้เปิดตัวขึ้นในปี 2009 และนับตั้งแต่นั้น “Elis Mini” ก็ได้เพิ่มไลน์ใหม่ๆ เข้ามาอันได้แก่ “Elis Lady” และ “Elis Bangle” ในปี 2012 ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้เพิ่มสีสันใหม่ของ Crystal Mesh อีกสองรุ่นคือ “Elis Mini Silk Diamond Touch Light” และ “Elis Lady Provence Lavender Diamond Touch Light” นาฬิกา “Elis”ทั้งในรูปแบบขนาดใหญ่และเล็กนี้ต่างได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอลเลคชั่นเครื่องประดับและแอคเซสเซอรี่ของสวารอฟสกี้ และอวดความน่าหลงใหลด้วยสายนาฬิกา Crystal Mesh สีทองหรือสีม่วงลาเวนเดอร์ หน้าปัดลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงินประดับคริสตัลที่ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกา และรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสในรูปแบบพีระมิดขับเน้นประกายเจิดจรัสได้อย่างแท้จริง ตัวเรือนเคลือบโรสโกลด์ PVD หรือสเตนเลสสตีล และมีจำหน่ายทั้งในขนาดใหญ่และเล็ก นาฬิการุ่นนี้คือเครื่องประดับชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับงานปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงค็อกเทล ลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงินตรงกลางหน้าปัดช่วยแต่งเติมความมีระดับให้แก่ชิ้นงาน หน้าปัดแบบสองระดับทำให้เครื่องหมายบอกเวลาทั้ง 4 ตำแหน่งดูโดดเด่น ได้แก่ เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และคริสตัล chaton ใสที่ประดับด้วยมือในสามตำแหน่ง เข็มนาฬิกาเจียระไนเคลือบโรเดียมหรือโรสโกลด์ PVD อันประณีต ทำหน้าที่บอกเวลาอย่างสุขุม ในรูปแบบที่แสนอ่อนหวานและหรูหรานี้ มีเพียงเม็ดมะยมเซาะร่องพร้อมคริสตัล หลังเบี้ยกลมมนที่จะมาตัดกับลายเส้นสถาปัตยกรรมของนาฬิกาเรือนนี้อย่างแยบยล สัญลักษณ์ อันสำคัญของนาฬิกาสำหรับออกงานเรือนนี้ คือเครื่องหมาย Swanflower? ที่สลักอยู่ด้านหลัง ของตัวเรือน พร้อมระบุคุณสมบัติกันน้ำลึก 30 เมตร และเครื่องหมาย Swiss made บ่งบอกระบบกลไกนาฬิกาที่มีชื่อเสียงระดับโลก สายนาฬิกาประดับด้วยคริสตัลจำนวนมากในเฉดสีทองหรือสีม่วงลาเวนเดอร์ ฝังในตัวเรือนเคลือบโรเดียมหรือโรสโกลด์บนแผ่นหนังแท้ ผลลัพธ์ที่ได้คือแถบริบบิ้นคริสตัลที่พลิ้วไหวราวกับผืนผ้า แอคเซสเซอรี่ชิ้นนี้คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความงามและประโยชน์ใช้สอย นาฬิกาประดับเรียวข้อมือที่ทันสมัยทั้งสองเรือนนี้จะแต่งเติมความมีรสนิยม ความหรูหรา และความสง่างามให้แก่หญิงสาวสมัยใหม่เมื่อสวมใส่ในงานราตรี ตัวเรือน: ตัวเรือนสี่เหลี่ยมจัตุรัสทรงพีระมิดทำจากสเตนเลสสตีลหรือโรสโกลด์ PVD พร้อมคุณสม- บัติกันน้ำลึก 30 เมตร หน้าปัด: หน้าปัดสีเงินขาว ตรงกลางมีลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงิน มีเครื่องหมายบอกเวลาทำจากคริสตัล chaton ใสที่ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกา เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา สาย: สายนาฬิกา Crystal Mesh ในสี Silk Diamond Touch Light หรือ Provence Lavender Diamond Touch Light บุด้วยหนังลูกวัวแท้สีขาวที่อ่อนนุ่ม พร้อมตัวล็อคแม่เหล็กที่เป็น สเตนเลสสตีลหรือเคลือบผิวโรสโกลด์ PVD กลไก: ควอตซ์ Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? ที่ด้านหลังตัวเรือน เม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยมีเครื่อง- หมายโลโก้รูปหงส์ PIAZZA กลุ่มผลิตภัณฑ์ “Piazza” เปิดตัวนาฬิกาสองรุ่นใหม่ในปี 2012 ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 มม.มอบความสมดุลระหว่างความงามและรูปแบบทางสถาปัตยกรรม นาฬิกาเรือนนี้จึงชนะใจลูกค้าสตรีมากมายอย่างต่อเนื่อง โรสโกลด์จะปรากฏโฉมอย่างโดดเด่นอยู่ในรุ่น “Piazza Rose-Gold” เช่นกัน นาฬิกา “Piazza” ยังคงเฉิดฉายอยู่บนสาย Crystal Mesh อันเป็นวัสดุที่โดดเด่นของ สวารอฟสกี้ โดยในปีนี้จะมาในคริสตัลใสหรือคริสตัลสี Jet Hematite สำหรับรุ่น “Piazza Jet Hematite” การตกแต่งด้วย สเตนเลสสตีลช่วยเสริมความสมบูรณ์แบบให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่งดงามเหนือกาลเวลาชิ้นนี้ นาฬิกา “Piazza” มีหน้าปัดขนาดใหญ่ในลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงินหรือหน้าปัด สีเทาเข้ม ช่วยเน้นรูปลักษณ์อันทันสมัยให้โดดเด่น วงหน้าปัดรอบนอกของทั้งสองรุ่นประดับด้วยเครื่องหมายบอกเวลา โดยเครื่องหมายแต่ละขีดรังสรรค์จากคริสตัลขนาดเล็กเจียระไนแบบ Xilion สี่เม็ดซึ่งเป็นเหลี่ยมเจียระไนแบบพิเศษเฉพาะของสวารอฟสกี้ ชั่วโมงและนาทีต่างเคลื่อนผ่านตามจังหวะของเข็มนาฬิกาที่เจียระไนเคลือบด้วยโรสโกลด์ PVD หรือโรเดียมอยู่ภายใต้ประดิษฐกรรมที่เร้าอารมณ์ชิ้นนี้ เครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ทำจากโลหะได้รับการประดับด้วยมืออย่างโดดเด่นที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และยังปรากฏอยู่บนเม็ดมะยมเซาะร่องภายใต้คริสตัลเจียระไนหลังเบี้ยอีกเช่นกัน สายนาฬิกา Crystal Mesh ทั้งที่เป็นคริสตัลใสและคริสตัลสีงดงามสมบูรณ์ด้วยตัวล็อคแม่เหล็กทำจากสเตนเลสสตีลหรือโลหะเคลือบโรสโกลด์ PVD นาฬิกา “Piazza” ผนวกทักษะความเชี่ยวชาญของบริษัทเข้ากับความเที่ยงตรงของ การผลิตนาฬิกาสวิสได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยกลไกนาฬิกาคุณภาพสวิส ตัวเรือน: ตัวเรือนทรงกลมเคลือบโรสโกลด์ PVD หรือสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 มม. คุณสมบัติกันน้ำลึก 30 เมตร หน้าปัด: หน้าปัดมีลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงินหรือหน้าปัดสีเทาเข้ม วงแหวนรอบนอกประดับเครื่องหมายบอกเวลา โดยแต่ละขีดประดับคริสตัล chaton ใส 4 เม็ด สาย: สายนาฬิกา Crystal Mesh ทำจากคริสตัลใสหรือคริสตัลสี Jet Hematite บุด้วยหนัง พร้อมตัวล็อคแม่เหล็กทำจากโรสโกลด์ PVD หรือสเตนเลสสตีล กลไก: ควอตซ์ Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? ที่ด้านหลังตัวเรือน เม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยมีเครื่อง- หมายโลโก้รูปหงส์ ELIS BANGLE MINI นาฬิกากำไลข้อมือเรือนนี้คือความลงตัวอย่างไร้ที่ติของแฟชั่นและการผลิตนาฬิกาที่เที่ยงตรง นาฬิการุ่น “Elis Bangle Mini” ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่นหนึ่งในคอลเลคชั่นแรกของสวารอฟสกี้ที่เปิดตัวในปี 2009 และยังคงเฉิดฉายในรูปทรงกำไลที่งามจับตา โดยในปีนี้จะมา ในสีสันใหม่ คือ Silk Diamond Touch Light นาฬิการุ่นใหม่นี้จะเผยโฉมในโรสโกลด์ PVD โดยยังคงไว้ซึ่งขอบหน้าปัดเจียระไนรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสแบบพีระมิดเช่นเดียวกับ “Elis” และจะมีจำหน่ายตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2012 เป็นต้นไป กำไลทั้งชิ้นผลิตจาก Crystal Mesh ในเอฟเฟ็กต์ Silk Diamond Touch Light ที่ดูงดงามราวผ้าไหม สร้างสรรค์จากคริสตัลขนาดเล็กจำนวน 744 เม็ด เพื่อให้นาฬิกาเรือนนี้เป็นเสมือนกำไลที่กระชับบนเรียวข้อมือได้อย่างเหมาะเจาะ หน้าปัดสองระดับสีขาวเงินอวดโฉมอยู่บนสายนาฬิกา Crystal Mesh ส่วนตรงกลางของหน้าปัดมีลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงินและมีส่วนวงแหวนรอบนอกสีขาวเงินแบบด้านช่วยขับเน้นความโดดเด่น ให้กับเครื่องหมายบอกเวลาที่ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกา ซึ่งประดับคริสตัลขนาดเล็กมีเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ประดับอยู่ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ส่วนด้านหลังตัวเรือนสลักสัญลักษณ์ Swanflower? ซ่อนกลไก Swiss made ไว้ภายในพร้อมปุ่มกด นาฬิการุ่น “Elis Bangle Mini” เป็นแฟชั่นแอคเซสเซอรี่อันสมบูรณ์แบบที่ผสมผสาน สร้อยข้อมือเข้ากับนาฬิกาอย่างลงตัวพร้อมตกแต่งอย่างหรูหราในสีโรสโกลด์ นี่คือนาฬิกาที่ต้องมีไว้ครอบครอบในฤดูใบไม้ร่วงปี 2012 นี้ ตัวเรือน: ตัวเรือนสี่เหลี่ยมจัตุรัสทรงพีระมิดเคลือบโรสโกลด์ PVD มีคุณสมบัติกันน้ำลึก 30 เมตร หน้าปัด: วงแหวนรอบนอกสีเงินขาวแบบด้าน มีพื้นที่ตรงกลางเป็นลวดลายแสงอาทิตย์สีขาวเงิน พร้อมเครื่องหมายบอกเวลาที่ตำแหน่ง 3 6 และ 9 นาฬิกาเป็นคริสตัล chaton ใสเครื่องหมายโลโก้รูปหงส์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา สาย: กำไล Crystal Mesh ประดับด้วยคริสตัลสี Silk Diamond Touch Light จำนวน 744 เม็ด บุด้วยหนัง Alcantara กลไก: ควอตซ์ Swiss made รายละเอียด: สัญลักษณ์ Swanflower? บนด้านหลังตัวเรือน “D:LIGHT” — SWAROVSKI’S AVANT TIME No. 1 BY ERIC GIROUD แนวคิดของ Advant Time ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในปี 2009 พร้อมกับการเปิดตัวคอลเลคชั่นนาฬิกาเป็นครั้งแรกของสวารอฟสกี้ที่ Baselworld นั้นสร้างความประทับใจ ให้ผู้คนมากมาย D:Light จึงกลายเป็นความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างความสำเร็จอย่างท่วมท้นในด้านการออกแบบ และกลไกที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย สวารอฟสกี้ นอกจากนั้นในปี 2010 D:Light ยังได้รับรางวัลออกแบบยอดยี่ยมแห่งปีจาก Red Dot Award อีกด้วย ในปี 2011 D:Light จึงนำเสนออีก 3 รูปแบบ คือแบบสเตนเลสสตีล แบบ PVD สีทอง และแบบยางด้วยความกล้าหาญในด้านเทคโนโลยีที่เปี่ยมล้น หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจึงถูกประดับประดาด้วยคริสตัลเจียระไนแบบ “Xilion” รวม 171 เม็ด มอบความประทับใจในแบบกำไลข้อมือคริสตัลให้ผู้พบเห็น แต่เมื่อสีของพื้นหลังที่ทำจากสเตนเลสสตีลเนื้อดีหรือ PVD นั้นจางหายไป กลับทำให้เวทมนต์แห่งชิ้นงานประกาศตัวตนอย่างเต็มภาคภูมิ ในห้วงเวลานั้นเองที่เส้นแบ่งระหว่างเครื่องบอกเวลาและชิ้นงานประดับตกแต่งนั้นมลายหายไปสิ้น เพียงสัมผัสบนปุ่มเม็ดมะยมรูปหงส์ หน้าปัดคริสตัลจะเปล่งแสงขึ้นด้วยเทคนิคอันซับซ้อน ส่วนฝาด้านหลังตัวเรือนสลักลาย Swanflower ในขณะที่กำไลข้อมือแบบสเตนเลสสตีลหรือ PVD สีทองนั้นบรรจบด้วยตัวพับล็อคแบบผีเสื้อ ส่วนแบบยางมีให้เลือกทั้งสีดำหรือขาว และยังมีโทนใหม่ที่เจิดจ้าล้ำสมัย สีแดง ส้ม และม่วง สำหรับสายนาฬิกาถูกออกแบบให้กลมมนไร้ที่ติ และสามารถปรับให้เข้ากับข้อมือได้ อย่างง่ายดาย ทั้งยังเหมาะเจาะสำหรับวางบนแท่นชาร์ตที่ถูกออกแบบไว้อย่างแยบยล เพื่อให้เส้นสายทันสมัยสะอาดตาเปลี่ยนนาฬิกาข้อมือให้กลายเป็นนาฬิกาประดับบ้านได้ในบัดดล D:Light ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการทำงานร่วมกันระหว่างการออกแบบแห่งอนาคตและความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีที่โดดเด่น จึงแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งความล้ำยุคของสวารอฟสกี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตัวเรือน: ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำด้วยสเตนเลสสตีลหรือเคลือบ PVD สีทอง หน้าปัด: พื้นหน้าปัดฝังคริสตัลเจียระไนแบบ Xilion รวม 171 เม็ด สาย: กำไลข้อมือแบบสเตนเลสสตีลขัดเงา แบบเคลือบ PVD สีทอง หรือแบบยางในสีขาว ดำ แดง ส้ม หรือ ม่วง กลไก: ทำงานด้วยกลไกควอตซ์ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์สำหรับสวารอฟสกี้โดยเฉพาะ รายละเอียดพิเศษ: ฝาหลังตัวเรือนประทับเครื่องหมาย Sunflower? และเม็ดมะยมประดับคริสตัลหลังเบี้ยพร้อมตราสัญลักษณ์รูปหงส์ของสวารอฟสกี้ ผลิตภัณฑ์สวารอฟสกี้มีจำหน่ายที่ร้านสวารอฟสกี้ สาขาสยามพารากอน เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซ่า พระราม 9 เซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซ่า เชียงใหม่ รอยัลการ์เด้น พลาซ่า พัทยา เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช เซ็นทรัล เฟสติวัลภูเก็ต และเคาน์เตอร์สวารอฟสกี้ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป แผนกลูกค้าสัมพันธ์ ติดต่อ โทร. 0 2635 0690 ค.ศ. 1895 มร. แดเนียล สวารอฟสกี้ นักประดิษฐ์ชาวโบฮีเมีย ผู้เปี่ยมไปด้วยวิสัยทัศน์ได้ย้ายมาตั้งถิ่นฐาน ณ วัตเทนส์ แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย พร้อมกับการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องจักรใหม่เพื่อการตัดและเจียระไนเม็ดคริสตัลเพื่องานจิวเวลรี่ ด้วยจุดเริ่มต้นดังกล่าวก่อให้เกิดการปฏิวัติขึ้นในโลกแห่งแฟชั่น บริษัทสวารอฟสกี้ ก้าวเข้าสู่ฐานะผู้ผลิตคริสตัลเจียระไนอันเที่ยงตรงพิถีพิถันชั้นนำระดับโลกให้กับวงการแฟชั่น จิวเวลรี่ รวมทั้งความมีชื่อเสียงในด้านอุปกรณ์ไฟแสงสว่าง งานสถาปัตยกรรมและงานออกแบบตกแต่งภายใน ปัจจุบันบริษัทยังคงดำเนินกิจการโดยสมาชิกครอบครัวสวารอฟสกี้ รุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ด้วยจำนวนพนักงาน 23,000 คน ที่ปฏิบัติงานในประเทศต่างๆทั่วโลกกว่า 120 ประเทศ และมีผลประกอบการ 2.06 พันล้านยูโรในปี ค.ศ. 2010 บริษัทสวารอฟสกี้ประกอบด้วย 2 ธุรกิจหลักคือ ธุรกิจผลิตและขายเม็ดคริสตัลให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม และธุรกิจผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป คริสตัลสวารอฟสกี้ถือเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นของงานออกแบบสร้างสรรค์ ในระดับนานาชาติ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 บริษัทฯได้ก้าวเข้าสู่งานอุตสาหกรรมจิวเวลรี่ชั้นสูงด้วยเม็ดพลอยเจียระไนที่รังสรรค์อย่างประณีต และด้วยความสามารถในการแสดงออกถึงความริเริ่มสร้างสรรค์อันเป็นหัวใจสำคัญของบริษัท ทำให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปภายใต้แบรนด์สวารอฟกี้ทั้งเครื่องประดับตกแต่งกาย จิวเวลรี่ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่จัดจำหน่ายโดยร้านสวารอฟสกี้และร้านตัวแทนจำหน่ายในเมืองศูนย์กลางแห่งแฟชั่นทั้งหมดกว่า 1,900 สาขาทั่วโลก ชมรมคริสตัลสวารอฟสกี้ มีจำนวนสมาชิกที่ชื่นชอบการสะสมชิ้นงานคริสตัลร่วม 325,000 คน ทั่วโลก สวารอฟสกี้ คริสตัลเวลเทน์ (Swarovski Kristallwelten) ที่เมืองวัตเทนส์เป็นพิพิธภัณฑ์คริสตัลมัลติมีเดียที่เปิดตัวขึ้นในปี 1995 เพื่อเฉลิมฉลองอาณาจักรแห่งนวัตกรรมและแรงบันดาลใจของสวารอฟสกี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ