กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะเจ้าของโรงเรียนวิชาควรจัดสภาพแวดล้อมให้อยู่ในสภาพปลอดภัย จัดให้มีระบบเตือนภัย ระบบตรวจจับควันไฟ และสามารถใช้บันไดหนีไฟได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากอัคคีภัย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สถาบันกวดวิชาส่วนใหญ่ใช้อาคารพาณิชย์ ๓ ชั้นสำหรับที่อยู่อาศัย ดัดแปลงเป็นที่สอนพิเศษ ซึ่งแต่ละแห่งมีคนเป็นจำนวนมาก เมื่อเกิดเพลิงไหม้จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินสูง เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขอความร่วมมือให้เจ้าของสถานประกอบการสถาบันกวดวิชาต่างๆ สร้างความปลอดภัยในอาคาร โดยติดตั้งถังดับเพลิงเคมีไม่น้อยกว่าชั้นละ 1 เครื่อง และติดตั้งสูงไม่เกิน 1.50 เมตร เพื่อสะดวกในการอ่านคำแนะนำก่อนการใช้งานและหยิบใช้ได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะในชั้นที่มีการแบ่งห้องควรเพิ่มจำนวนถังดับเพลิงเคมีตามความเหมาะสม ติดตั้งระบบเตือนภัยภายในอาคารทั้งระบบตรวจจับควันไฟและสัญญาณกระจายเสียงภายในอาคารให้ได้ยินทุกพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้อพยพทันท่วงที จัดให้มีระบบไฟส่องสว่างสำรองยามฉุกเฉิน ป้ายบอกชั้นควรมีทั้งด้านในอาคารและด้านนอกอาคารหนีไฟ โดยตัวอักษรต้องเรืองแสงและมีความสูงไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร เพื่อให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญ ควรจัดวางสิ่งของไม่กีดขวางเส้นทางหนีไฟ ทางเดิน บันไดเพราะอาจหกล้มขณะหนีเพลิงไหม้ รวมถึงในแต่ละชั้นควรติดตั้งแบบแปลนแผนผังอาคารในแต่ละชั้น เพื่อแสดงตำแหน่งห้อง อุปกรณ์ดับเพลิงและทางหนีไฟในแต่ละชั้นไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วนชั้นล่างของอาคารควรจัดให้มีแบบแปลนรวมของทุกชั้น เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถตรวจสอบทันท่วงที
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่สถาบันกวดวิชา ควรหมั่นตรวจสอบสายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ประตู หน้าต่างให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี หากชำรุดเสียหายควรซ่อมแซมทันที รวมทั้งหมั่นตรวจสอบถังดับเพลิงเคมีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ศึกษาเรียนรู้วิธีการใช้ถังดับเพลิงเคมีอย่างถูกวิธี ตลอดจนกำหนดบทบาทหน้าที่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ตั้งแต่ผู้นำทางอพยพ ผู้ดับเพลิงเบื้องต้น ผู้แจ้งเหตุฉุกเฉินไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากทุกคนตระหนักจะสามารถลดความสูญเสียจากอัคคีภัยได้