ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ชุดปัจจุบัน และจัดอันดับหุ้นกู้ไม่มีประกัน วงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท “บ. ภัทรลิสซิ่ง” ที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Positive”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 6, 2012 18:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A-” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Positive” หรือ “บวก” บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายฐานสินทรัพย์ให้เช่าของบริษัท อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ (Operating Lease) และความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัทในการขยายปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าได้อย่างต่อเนื่อง อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและการบริหารมูลค่าคงเหลือของสินทรัพย์ให้เช่า (Residual Value) ที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถดำรงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี นอกจากนี้ การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความต้องการในการใช้บริการรถเช่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเอกชนด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกบั่นทอนจากการแข่งขันที่รุนแรงซึ่งยังคงเป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ให้เช่าในอนาคตจากการกู้ยืมที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลง ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระบบการจัดการความเสี่ยงและสถานะทางธุรกิจให้ดีขึ้น ตลอดจนสถานะทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นและการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถดำรงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์โดยการเพิ่มความหลากหลายของฐานลูกค้าและรักษาฐานลูกค้ารายสำคัญกลุ่มเดิม รวมทั้งรักษาระดับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ พร้อมทั้งปรับเพิ่มผลประกอบการทางการเงินโดยอาศัยจุดแข็งต่าง ๆ จากสถานะผู้นำตลาด นอกจากนี้ บริษัทจะต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้เป็นไปตามความคาดหมายของทริสเรทติ้งด้วย ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด ณ สิ้นปี 2553 ที่ระดับ 21.2% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 30 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าทางการเงินแก่ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ในปี 2554 เหตุการณ์อุทกภัยที่ขยายวงกว้างในประเทศไทยได้ส่งผลกระทบต่อทั้งความต้องการเช่ารถยนต์และการผลิตรถยนต์ และถึงแม้จะเกิดเหตุอุทกภัย บริษัทก็ยังคงสามารถขยายฐานสินทรัพย์ให้เช่าเพื่อรักษาสถานะผู้นำตลาดเอาไว้ได้ ณ สิ้นปี 2554 สินทรัพย์ให้เช่าสุทธิของบริษัทอยู่ที่ระดับ 6,579 ล้านบาท เปรียบเทียบกับ 6,372 ล้านบาทในปี 2553 ในขณะที่ลูกหนี้สินเชื่อให้เช่าการเงินอยู่ที่ระดับ 1,458 ล้านบาท เทียบกับ 907 ล้านบาทในปี 2553 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 สินทรัพย์ให้เช่าสุทธิของบริษัทรักษาระดับอยู่ที่ 6,547 ล้านบาท ส่วนลูกหนี้สินเชื่อให้เช่าการเงินยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 1,563 ล้านบาท ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการมีฐานเงินทุนที่เพียงพอช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทภัทรลิสซิ่งในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ให้ประโยชน์แก่บริษัทจากการประหยัดต่อขนาด แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจากการกระจุกตัวของฐานลูกค้าทั้งในด้านการผิดนัดชำระหนี้และการพึ่งพิงรายได้จากลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้บรรเทาลงจากการที่ลูกค้ารายใหญ่มีคุณภาพเครดิตที่ค่อนข้างดี บริษัทมีความพยายามในการกระจายฐานลูกค้าซึ่งสะท้อนจากการกระจุกตัวของฐานลูกค้า 20 รายใหญ่ เมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนินงานและสินเชื่อคงค้างภายใต้สัญญาเช่าการเงิน ลูกค้ารายใหญ่ 20 รายแรกคิดเป็น 43.0% ของสินทรัพย์ทั้ง 2 ประเภทรวมกัน ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 ซึ่งลดลงจาก 55.9% ในปี 2552 นอกจากนี้ ลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 รายของบริษัทยังกระจายตัวมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม หลังจาก บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทภัทรลิสซิ่งในปี 2549 ตัวแทนของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต โดยผ่านทางคณะกรรมการบริษัท ได้สนับสนุนความพยายามของบริษัทในการพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยง ทั้งนี้ ระบบการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดมีส่วนช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์เมื่อบริษัทขยายธุรกิจไปสู่สินทรัพย์ประเภทอื่นซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ประเภทรถยนต์ ในปี 2554 บริษัทได้เปลี่ยนนโยบายการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญโดยบริษัทได้พิจารณารวมราคาตลาดของสินทรัพย์ให้เช่าในการคำนวณปริมาณค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ แม้ว่านโยบายใหม่นี้จะเป็นแนวทางที่บริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันปฏิบัติ แต่ก็เป็นนโยบายเชิงรุกมากกว่าแนวปฏิบัติเดิมของบริษัท นโยบายใหม่นี้ช่วยลดอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมของบริษัทลง โดยปรับลดลงจาก 5.3% ในปี 2553 เป็น 0.7% ในปี 2554 นอกจากนี้ ยังช่วยปรับเพิ่มผลการดำเนินงานของบริษัทเนื่องจากมีการกลับรายการค่าใช้จ่ายสำหรับหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเป็นรายได้ แม้ว่าจะมีการปรับนโยบายการตั้งสำรอง แต่ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญยังอยู่ในระดับที่สูงเพียงพอสำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.12% ของลูกหนี้รวม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 โดยอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับ 444.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 บริษัทภัทรลิสซิ่งมีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาทในปี 2554 ซึ่งลดลงค่อนข้างมากจาก 281 ล้านบาทในปี 2553 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเท่ากับ 2.3% ในปี 2554 ลดลงจาก 3.8% ในปี 2553 ความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่บริษัทได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์เช่าดำเนินงานได้สิ้นสุดลงเมื่อปีบัญชี 2553 นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ผ่านมาได้ลดประโยชน์ทางภาษีที่บริษัทได้รับจากสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี ผลกระทบจากประเด็นทางภาษีดังกล่าวส่งผลให้บริษัทมีภาระภาษีเพิ่มขึ้น 63.7 ล้านบาทในปี 2554 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในปี 2554 ได้รับประโยชน์จากการกลับรายการค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัญจะสูญซึ่งมีมูลค่าประมาณ 35 ล้านบาท สินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทเพียง 1% ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับการคุ้มครองจากประกันภัยเกือบทั้งหมด บริษัทมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 ในขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยปรับเพิ่มเป็น 3.0% (ปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปีแล้ว) บริษัทภัทรลิสซิ่งใช้เงินทุนจากการกู้ยืมในการขยายฐานสินทรัพย์เป็นหลัก โดย ณ สิ้นปี 2554 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 3.5 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 3.1 เท่าในปี 2553 และ 2.5 เท่าในปี 2552 และจากที่คาดว่าความสามารถในการทำกำไรจะยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรงรวมถึงไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการทางภาษี อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทคาดว่าจะถดถอยลง แม้ว่าระดับฐานทุนในปัจจุบันของบริษัทจะยังคงเพียงพอในการขยายขนาดสินทรัพย์ให้เช่าตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ทริสเรทติ้งยังคาดหวังที่จะเห็นบริษัทปรับเพิ่มระดับผลประกอบการและควบคุมอัตราส่วนหนี้สินไว้ บริษัทรักษานโยบายการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่เข้มงวดด้วยการบริหารอายุของหนี้ผ่านการกู้ยืมระยะยาวเพื่อให้สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าสินทรัพย์ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A- อันดับเครดิตตราสารหนี้: PL132A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 คงเดิมที่ A- PL163A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 คงเดิมที่ A- PL172A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 คงเดิมที่ A- หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560 A- แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive (บวก)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ