กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--BEN COMUNICATIONS
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การทุจริตคอร์รัปชั่นนับเป็นปัญหาอุปสรรคสำคัญ ที่ฉุดรั้งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก และนับวันที่จะหยั่งรากลึกเข้าไปในทัศนคติของคนในชาติว่า หากทุจริตคอร์รัปชั่นแล้วทำให้ประเทศเจริญก็ยอมรับได้ ซึ่งการสร้างแนวคิดเช่นนี้ให้กับสังคมไทย นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งและยากที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไข เพื่อหยุดยั้งและขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไป
ปัญหาคอร์รัปชั่นในวันนี้ได้มีการตื่นตัวกล่าวถึงกันมากขึ้นในสังคมเป็นอย่างมาก และถึงเวลาแล้วที่สังคมจะต้องหันมาดูแลเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง โดยภาคส่วนต่างๆ ได้เกิดการร่วมตัว ‘ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น’ ซึ่งเป็นการร่วมตัวขององค์กรชั้นนำ ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาคประชาชน องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน ซึ่งมีหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะร่วมกันรณรงค์ และกระตุ้นสังคมไทยให้ลุกขึ้นมาต่อต้านการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง จึงได้เกิดโครงการ “ต่อต้านคอร์ปชั่น จุดเปลี่ยนประเทศไทย” ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว
และในวันนี้ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า จึงได้ร่วมกับ คณะนักศึกษาหลักสูตร ‘ผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย’ รุ่น 2 ( ปนป.2 ) จัดเสวนา “ผู้นำยุคใหม่กับการยุติคอร์รัปชั่นในประเทศไทย” โดยงานนี้มีผู้นำยุคใหม่ ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคสังคม รวมทั้งสื่อมวลชน และผู้สนใจทั่วไปเข้าร่วมงานมากมาย ณ ห้องประชาธิปก สถาบันพระปกเกล้า
โดยงานนี้ อรอุมา รัตนากร ประธานนักศึกษา คณะกรรมการนักศึกษาหลักสูตร ‘ผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย’ รุ่น 2 เป็นแม่งาน ในการจัดโครงการนี้ขึ้นมา
“เป็นโครงการแรกที่จัดทำ เพราะอยากจะเห็นมุมมองใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นให้มากๆ ยิ่งขึ้น แล้วแพร่กระจายไปทั่วในสังคมไทย ฉะนั้นการเป็นผู้นำยุคใหม่จะต้องมีบทบาทที่สำคัญ เป็นแบบอย่างที่ดี และพร้อมในการที่ปลูกฝังและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้ก้าวเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งเป็นคนเก่ง คนดี มีคุณธรรม และจรรยาบรรณ จึงได้ร่วมกันจัดเสวนานี้ขึ้นมา
...เพราะทุกท่านที่มาในที่นี้มาจากต่างสาขาอาชีพมารวมพลังมาสรรค์สร้างการต่อต้านคอร์รัปชั่น เพื่อได้ทราบถึงข้อมูลอย่างละเอียด และเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง แล้วพร้อมที่จะไปเผยแพร่สู่องค์กรต่างๆ ได้อย่างดี ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในการที่ต่อต้านคอรัปชั่นที่ได้ฝังรากลึกมานานแล้ว
...การปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี ต้องเริ่มจากครอบครัว โรงเรียน โดยเฉพาะผู้ปกครองมีบทบาทที่สำคัญในการดูแลลูกหลานส่งเสริมทำความดี มีวินัย มีน้ำใจ และมีความซื่อสัตย์สุจริต ทั้งปลูกฝังเปลี่ยนค่านิยม เพื่อไม่ให้เด็กถูกครอบงำด้วยกระแสวัตถุนิยม ซึ่งก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สรรค์สร้างสังคมสู่สิ่งดีๆ ได้ ”
ผศ.ดร. จอมพงศ์ มงคลวนิช ประธานฝ่ายวิชาการ และประธานกรรมการจัดเสวนา กล่าวว่า “ การทุจริตและการคอร์รัปชัน นับเป็นภัยคุกคามที่สำคัญของสังคมและประเทศที่พบเห็นกันได้ทุกระดับชั้น คนรุ่นใหม่และผู้บริหารยุคใหม่ขององค์การต่างๆ จึงเป็นความหวังในการพัฒนาประเทศโดยยึดหลักความโปร่งใสและความถูกต้อง ในการเสวนานอกจาก ได้รับฟังจากวิทยากร และการระดมความเห็น ยังมีการประกาศสัตยาบันร่วมกันในการต่อต้านคอร์รัปชัน และหวังอย่างยิ่งว่าเจตน์จำนงดังกล่าว จะขยายผลสู่โครงการต่างๆ ในอนาคตเพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”
จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงบทบาทผู้นำยุคใหม่ต่อการยุติปัญหาคอร์รัปชั่นว่า “ ในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในสังคมไทยนั้น เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องมีบทบาทและส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือแม้แต่เยาวชน จะต้องตระหนักและมีจิตสำนึกที่ดี และพร้อมที่จะต่อสู้และต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ เพื่อนำสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งคุณธรรม จริยธรรม ตลอดไป
...ในส่วนตัวแล้ว ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง อยากที่จะร่วมแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง และอยากจะปลูกจิตสำนึกความเป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริตกับทุกคน โดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งเป็นจุดเริ่มที่จะต้องสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา อย่างโครงการของกทม. ‘โตไปไม่โกง’ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีมีของการสร้างคุณธรรมจริยธรรม ที่น่าสนับสนุน ...และนอกจากนี้ หากทำได้อยากจะออกกฎหมายมีบทลงโทษในเรื่องของการคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาด พร้อมชี้ให้เห็นถึงคุณโทษอย่างชัดเจน เพื่อคนจะได้เกรงกลัว และไม่กล้าทุจริตอีกต่อไป”
ปิดท้ายด้วย ฐิติวรดา สิงสุขสี เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) กล่าวว่า
“ อยากให้ทุกคนให้ความสนใจ มาร่วมช่วยกันยุติปัญหาการคอร์รัปชั่น ซึ่งนับวันกลายเป็นปัญหาที่สำคัญ ที่คนไทยทุกคนนิ่งเฉยไม่ได้แล้ว มาร่วมกันทำความดี และแผ่ขยายออกไปสู่สังคมให้มากๆ พร้อมมาร่วมกันปลูกจิตสำนึกที่ถูกต้องและดีงามแก่เยาวชน ทั้งในด้านความรู้ควบคู่กับคุณธรรม
...ซึ่งนับว่าสำคัญ ในการที่จะปลูกจิตสำนึกที่ดี ต้องเริ่มกันที่เด็กๆ โดยเริ่มกันง่ายๆ เช่น การเข้าแถวต่อคิวต่างๆ และการไม่พูดโกหก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว หากเด็กปฏิบัติได้ดังนั้น เชื่อว่าเด็กดีในวันนี้ ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้า”
ภารกิจต่อต้านคอร์รัปชั่น ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ตราบใดที่ปัญหาคอร์รัปชั่นในสังคมยังไม่จางหายไป ดังนั้นเราควรมาร่วมด้วยช่วยกันเป็นคนดี ซื่อสัตย์ รักชาติ กตัญญูต่อแผ่นดินให้เป็นมาตรฐานสังคมไทย