กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)
นำร่อง “วัดสร้างสุข” คัดเลือก 4 วัดต้นแบบ ถวายความรู้ 5ส แก่ พระ-เณร หวังเป็นแกนนำถ่ายทอดต่อให้ประชาชน ตั้งเป้าครอบคลุมทั่วประเทศใน 3 ปี
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ โรงแรมบางกอกชฎา สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) (ส.ส.ท.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดสัมมนาเรื่อง CSR สร้างสุข สร้างบุญ โดยนพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส.กล่าวว่า สสส.สนับสนุนโครงการรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สังคมไทยตื่นตัวเรื่องการช่วยเหลือสังคม ทำให้สังคมเป็นสุข โดยเฉพาะโครงการสังคมสดใสด้วยหัวใจ CSR ที่นำวิกฤตอุทกภัยปี 2554 มาต่อยอดแลกเปลี่ยนเรียนรู้จุดเด่น จุดด้อยขององค์กรต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อม สามารถผ่านพ้นภัยพิบัติไปด้วยกัน สำหรับโครงการวัดสร้างสุข เป็นหนึ่งในโครงการ CSR ที่พัฒนารูปแบบและแนวคิด 5ส สู่บริบทของวัด ส่งเสริมให้วัดเป็นพื้นที่ตัวอย่างทั้งด้านกายภาพและจิตใจ เพื่อขยายสู่ประชาชนต่อไป
ด้านนายอนุวรรตน์ ศิลาเรืองอำไพ ผู้อำนวยการสายงานการศึกษาฝึกอบรมและวินิจฉัยให้คำปรึกษา ส.ส.ท. กล่าวว่า โครงการวัดสร้างสุข เน้นระดมความร่วมมือเครือข่ายภาคธุรกิจที่ได้รับรางวัล 5ส แห่งประเทศไทย 25 หน่วยงาน ให้คำแนะนำและถวายความรู้แก่พระสงฆ์ สามเณร เพื่อเป็นผู้นำกระแสหลัก เผยแพร่เรื่อง 5ส ได้แก่ สะสาง สะดวก สะอาด สร้างมาตรฐาน และสร้างวินัย ไปสู่ภาคประชาชน โดยปีนี้จะคัดเลือกวัดพัฒนาต้นแบบนำร่องดำเนินโครงการ 5ส 4 วัดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีศักยภาพ และสนใจเข้าร่วมโครงการ พร้อมถ่ายทอดข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องวินัยสู่ประชาชน ก่อนที่จะขยายให้ครอบคลุมวัด ในภาคต่างๆ ทั่วประเทศภายใน 3 ปี และจะพัฒนาโครงการนี้ให้เป็นโครงการ CSR ที่บริษัทเอกชนให้ความสำคัญดำเนินการมากขึ้นด้วย
“26 ก.ค.นี้ จะประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับพระอาจารย์ 3 ท่านที่มีประสบการณ์นำแนวคิด 5ส ไปพัฒนาวัด ได้แก่ ดร.พระมหาสุทิตย์ อาภากโร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระมหาเฉลิม ปิยะทัสสี วัดปัญญานันทาราม และพระปลัดนิพพาน โชติธัมโม วัดเขาวง จ.สระบุรี ซึ่งทั้ง 2 วัน คือ วัดสุทธิวราราม และวัดเขาวง เป็นวัดนำร่องด้วย รวมทั้งบริษัทที่ได้รับรางวัล 5ส เพื่อระดมความเห็นจัดทำคู่มือมาตรฐาน 5ส นำไปถวายแด่พระสังฆาธิการ และสามเณร เพื่อเป็นแนวทางดำเนินงาน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้คนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเรื่องระเบียบวินัย และเข้าวัดมากขึ้น” นายอนุวรรตน์ กล่าว