บล.เคจีไอปลื้มหุ้น UMS สร้างผลตอบแทนเกิน 100%

ข่าวทั่วไป Monday July 19, 2004 08:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--คิธ แอนด์ คิน
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ที่ปรึกษาทางการเงินหุ้น UMS ยิ้มร่า เทรดวันแรกสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นสูงถึง 101% มั่นใจตั้งราคาเหมาะสม และเป็นหุ้นพื้นฐานดี พร้อมจ่ายปันผลให้ ผู้ถือหุ้น
นายเจษฏาวัฒน์ เพียบจริยวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS กล่าวว่า หุ้นของ UMS เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (เอ็มเอไอ) วันนี้เป็นวันแรก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ราคาหุ้นสามารถปรับตัวสูงขึ้นจากราคาจองซื้ออย่างมาก โดยราคาปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ราคาหุ้นละ 16 บาท หรือเพิ่มสูงกว่าราคาจองซื้อ (หุ้นละ 7.95 บาท) ร้อยละ 101.25% ทั้งนี้ หุ้น UMS ถือว่าเป็นหุ้นไอพีโอตัวแรกในตลาดเอ็มเอไอ ที่ให้ผลตอบแทนสูงในรอบปี 2547 นี้
“การเข้าเทรดวันแรกถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะราคาหุ้นสามารถปรับตัวสูงขึ้นจากราคาจองซื้อ ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่ดี และเป็นผลงานที่ดีของ KGI ต่อเนื่องมากจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีหลักทรัพย์ IRCP และ SINGHA ซึ่งราคาหุ้นก็สูงกว่าราคาจองมาโดยตลอด”นายเจษฎาวัฒน์กล่าว
สาเหตุที่ราคาหุ้น UMS ปรับตัวขึ้นได้มาก เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี และได้รับผลประโยชน์จากราคาถ่านหินที่พุ่งสูงขึ้น รวมถึงการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ก็มีการกระจายให้กับนักลงทุนสถาบันในสัดส่วนที่สูงถึง 40% จากจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด 20 ล้านหุ้น และเป็นกลุ่มนักลงทุนที่จะถือหุ้นในระยะยาว
นอกจากนี้ ราคาที่เสนอขายไอพีโอเป็นราคาที่เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงมากเกินความจริง โดยช่วงที่กำหนดราคาขายครั้งแรกเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นซบเซา เมื่อเข้ามาซื้อขายในช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น จึงได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ประกอบกับมีจำนวนหุ้นที่เสนอขายไม่มาก จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาปรับตัวขึ้น
นายเจษฏาวัฒน์ กล่าวถึงเรื่องการจ่ายเงินปันผลของหุ้น UMS ว่าคาดว่าจะจ่ายปันผลได้จากผลการดำเนินงานงวดปี 2547 นี้ โดยคณะกรรมการบริษัท UMS มีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40%ของกำไรสุทธิ นอกจากนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 2 ปี 2547 คาดว่าจะออกมาดีกว่างวดไตรมาสที่ผ่านมา เพราะบริษัทมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่ม จากเดิมที่เน้นลูกค้ารายใหญ่ และได้หันมาขยายฐานลูกค้าเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างกำไรมากขึ้น
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะเพิ่มจากปี 2546 จากอัตรา 25% เป็น 30% เนื่องจากภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตหันมาใช้ถ่านหินและน้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงแทน
ด้าน นายสมบูรณ์ สิริไพบูลย์พงศ์ กรรมการผู้จัดการ ของ UMS กล่าวว่าราคาหุ้นสูงเกินความคาดหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อผู้ถือหุ้นได้รับอัตราผลตอบแทนในระดับสูง และสาเหตุที่นักลงทุนให้ความสนใจหุ้น UMS เนื่องจาก นักลงทุนต้องการที่จะถือหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี สามารถลงทุนได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 2547 นี้ จะมีรายได้รวมประมาณ 800 ล้านบาท เทียบกับรายได้จากปีก่อนอยู่ที่ 667 ล้านบาท และคาดว่าในปี2548 รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 1 พันล้านบาท เพราะหลังจากที่มีการระดมทุนเสนอขายหุ้นและได้รับเงินประมาณ 159 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินไปลงทุนในโครงการระยะสั้น 3 โครงการ คือ โครงการซื้อรถบรรทุก ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายของบริษัทในไตรมาส 3 ปี 2547 โครงการขยายฐานลูกค้าในการจำหน่ายถ่านหิน และจำหน่ายหม้อไอน้ำ และโครงการสร้างคลังถ่านหินแห่งใหม่ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ประมาณไตรมาส 1ปี 2548
ทั้งนี้ UMS มีทุนชำระแล้ว 70 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และได้เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 20 ล้านหุ้นในราคาจองหุ้นละ 7.95 บาท และเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (เอ็มเอไอ) ในวันที่ 16 กรกฏาคม 2547 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทดำเนินธุรกิจนำเข้าถ่านหินคุณภาพดี มีค่าพลังงานความร้อนสูง และมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมน้อย ซึ่งมีการนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย เพื่อจัดจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก โดยมีคลังสินค้าตั้งอยู่ที่ จังหวัดสมุทรสาคร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ โทร. 0-2663-3226 โทรสาร 0-2259-89
โสรยา พงษ์ประยูร (ติ๋ว) Mobile 0-1697-9100 e-mail : apapornk@hotmail.com--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ