กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ          นายกร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแถลงผลการเจรจาความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างไทย-เวียดนาม          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนดงลยีแห่งประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และคณะ ได้เดินทางมาเยือนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประเทศไทยเพื่อประชุมหารือความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างไทย-เวียดนาม           คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและเวียดนามได้ร่วมปรึกษาหารือถึงแนวทางการดำเนินโครงการความร่วมมือในด้านต่างๆ  ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดต่อไปในอนาคต ซึ่งประเด็นในการหารือ ได้แก่ การริเริ่มโครงการความร่วมมือสาขาเทคโนโลยีชีวภาพ คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีโลหะและวัสดุ และการสำรวจระยะไกล ในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์          ประเทศไทยและประเทศเวียดนาม มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนาน ทั้งนี้เนื่องจากมีปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ ได้แก่ ความใกลัชิดทางภูมิศาสตร์ สภาวะแวดล้อมทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ           ตลอดจนนโยบายที่ต่อเนื่องของไทยที่เน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน การแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูง การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว             มีการดำเนินความร่วมมือด้านวิชาการด้านสังคมและวัฒนธรรมเป็นอย่างดี          การประชุมครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีสำหรับเราทั้งสองประเทศ ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์และข้อมูลต่าง ๆ  ร่วมกัน  เพื่อจะนำไปสู่การสร้างสรรค์โครงการความร่วมมือให้ขยายเครือข่ายต่อไปมากยิ่งขึ้นด้านแรก ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีชีวภาพ   ดร.มรกต  ตันติเจริญ ได้กล่าวถึงรายละเอียดดังนี้          1.    โครงการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีชีวภาพสำหรับประเทศกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม(CLMV) โดยมี   โครงการจัดการฝึกอบรมระยะสั้นสำหรับนักวิจัยของทั้ง 4 ประเทศดังกล่าว ตั้งแต่ปี  2001 สำหรับปี 2004  มีการฝึกอบรมให้แก่ประเทศ เวียดนาม  อันได้แก่          1. Mr. Le  Tan  Hung Institute  of  Tropical  Biology, Vietnam course  1          2. Mr. Vu  Dang  Khanh Institute of  Tropical  Biology, Vietnam  course 2          3. Mr. Phan  Huyen  Xuan Dalat Institute of  Biology, Vietnam  course 3          4. Ms. Vu Hong Minh Vietnam  Marine Science and Technology Association,Vietnam  course 4          5. Mr. Nguyen  Van  Hien National Fisheries  Quality Assurance and Veterinary  course 5          Dieetorate  Branch  V, Vietnam          Course  1  :  Lactic  Acid  Bacteria : Development  of  Strain / Innoculum and Cultivtion (at  CRS)          Course  2  :  Collection, Indentitfication  and  Preservation  of  Fungi          Course  3  :  Disesearch-free  Plant  Production  through  Biotechnology          Course  4  :  Research-based  Training  on  Starter  Culture  Development          Course  5  :  Pathogenic  Risk  Assessment  of  Cultured  Fermented  Food          Course  6  :  Fungal  Enzyme  Screening          2.  ในปี  2003   Ms. Thuy  Thanh  Tran, นักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศเวียดนาม ได้รับการฝึกอบรม ด้านเทคโนโลยีชีวภาพเป็นระยะเวลา  3  เดือน ในการสะสมสายพันธุ์จุลินทรีย์ ,การเก็บตัวอย่างยีสต์และรา ฝึกทักษะและศักยภาพเทคนิคทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ที่หน่วยบ่มเพาะเทคโนโลยีชีวภาพ          การฝึกอบรมขั้นพื้นฐานและเทคนิคขั้นสูงทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ การเยี่ยมชมโรงงาน การดูงานภายนอกสถานที่ โดยมีการฝึกอบรมและให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว          3.  การประชุมคณะกรรมการด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ภายใต้ความร่วมมือของประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียนศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) เป็นองค์กรหลักของประเทศไทย ที่นำเสนอต่อที่ประชุมเชิงปฏิบัติการความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพในอนาคต            โดยจะมีการทำวิจัยร่วมกันระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่จะเกิดประโยชน์ต่อแหล่งข้อมูลทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ประเทศไทยยินดีที่จะสนับสนุนและให้ความร่วมมือทางด้านการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยีกับประเทศเวียดนามต่อไป          ด้านที่สอง    ความร่วมมือด้านมาตรวิทยา  มีดังนี้          กิจกรรมที่  1       เป็นการฝึกอบรมของทั้งสองฝ่าย          กิจกรรมที่  2       เป็นการวัดเปรียบเทียบด้านมาตรวิทยาของทั้งสองฝ่าย          กิจกรรมที่  3       เป็นการประชุมสัมมนาทางวิชาการ และประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ          กิจกรรมที่  4       เป็นกิจกรรมการวิจัยร่วมกันทางมาตรวิทยา          ทั้ง  4  กิจกรรมได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว          ด้านที่สาม ความร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ มีดังนี้          ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ได้กล่าวถึงกิจกรรมความร่วมมือด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์  ประเทศไทยมีแผนงานที่จะดำเนินโครงการร่วมกับประเทศเวียดนาม   2   โครงการ ดังนี้          1. โครงการพัฒนาซอฟต์แวร์รหัสเปิด  (opensource  software)          2. โครงการพัฒนาคอมพิวเตอร์ราคาประหยัด          ในฐานะที่ศูนย์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เป็นองค์กรนำในการพัฒนาซอฟต์แวร์รหัสเปิด  (opensource  software)  ของประเทศไทย เนคเทค มีความยินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยและเวียดนามจะมีความร่วมมือกันในด้านนี้ แม้ว่าประเทศเวียดนามจะเพิ่งใช้ซอฟต์แวร์ประเภท  opensource software หลังจากประเทศไทย แต่เป็นที่น่ายินดีที่รัฐบาลได้สนับสนุนการใช้ซอฟต์แวร์opensource  software อย่างชัดเจนมากขึ้นในประเทศเวียตนาม ประเทศไทยและประเทศเวียดนามต่างก็มีกิจกรรมสนับสนุนซอฟต์แวร์ opensource ในภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีประเทศญี่ปุ่นมีส่วนร่วมอยู่ด้วย เรามุ่งเป้าการใช้ซอฟต์แวร์ให้ถูกกฎหมาย โดยเน้นการใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Linux  กับ Open Office          ทั้งนี้เนคเทค  ได้เคยจัดอบรม opensource  software  ณ  อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย  ประเทศเวียดนามได้หารือกันในสิ่งที่เป็นยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ โดยมีผลสรุปเบื้องต้นดังนี้          1. โครงการฝึกอบรมผู้สอนและผู้เชี่ยวชาญด้าน opensource software กิจกรรมโครงการนี้ประเทศไทยจะจัดวิทยากรไปสอน จัดหลักสูตรการสอน  จัดทำเนื้อหาการสอน และออกใบวุฒิบัตรให้กับประเทศเวียดนาม          2. การจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างมาตรฐานการใช้เอกสารของแต่ละประเทศ ในกิจกรรมนี้จะมีการวิจัยร่วมกันเพื่อสนับสนุนให้ภาษาเวียดนามเป็นภาษาสากลภาษาหนึ่ง ที่ใช้งานได้กับระบบ Linux          3. การจัดประชุมร่วมกันทางด้าน  opensource software ภายใต้กิจกรรมนี้ จะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจในเรื่อง  opensource  software เพื่อทำให้เกิดเครือข่ายของผู้ชำนาญการ              นอกจากนี้ประเทศไทยโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ยินดีที่จะสนับสนุนโครงการคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดของประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงเครือข่ายข้อมูลของประเทศเวียดนามได้ เนื่องจากจะทำให้ราคาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในประเทศเวียดนามราคาลดลงอย่างมาก          ด้านที่สี่ ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีโลหะและวัสดุ ดร.ปริทรรศน์  พันธุบรรยงก์  กล่าวถึงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีโลหะและวัสดุ  2  ส่วนดังนี้          โครงการความร่วมมือการพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็กของประเทศเวียดนาม          1. โครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology  Transfer) ที่ได้พูดคุยกันตั้งแต่ปี  2545  เป็นโครงการความร่วมมือในการถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีโครงการ ITAP เป็นความร่วมมือในการให้คำแนะนำทางด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ประเทศไทยจะใช้แนวคิดนี้           ในการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศเวียดนามได้ ประเด็นที่สำคัญก็คือจะต้องขอข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของอุตสาหกรรม SME จากประเทศเวียตนามว่ามีความต้องการที่จะพัฒนาอุตสาหกรรม SME ประเภทใด เพื่อที่จะได้จัดเตรียมโปรแกรมและผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ได้ถูกต้อง          2.  ความร่วมมือด้านการจัดสัมมนาของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุ ประเทศไทย-ประเทศเวียดนามได้ร่วมเป็นคณะทำงานในเครือข่ายของเอเปค ในการประเมินเทคโนโลยีทางด้านวัสดุ เพื่อจะร่วมกันพัฒนาศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุของไทยและเวียดนาม เมื่อประมาณปลายเดือนธันวาคมถึงต้นมกราคมทางเวียตนามได้ส่งผู้แทน  3  ท่าน มาเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ในการทดลองที่ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) หลังจากนั้น ได้มีการร่างความร่วมมือที่จะมีการลงนามร่วมกัน ซึ่งข้อตกลงทั้ง  2  ด้านคือ อันได้แก่  ความร่วมมือที่เป็นทางการ จะต้องส่งให้กับกระทรวงการต่างประเทศของไทยพิจารณา ส่วนข้อตกลงย่อย คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในไม่ช้าในระยะเวลาอีก 2 เดือนข้างหน้านี้หลังจากนั้นจะได้ดำเนินการต่อไป          ด้านที่  5              ความร่วมมือในการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติด้วยดาวเทียมและภูมิสารสนเทศดำเนินการโดย  สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ  GISTDA  ของประเทศไทย ขณะนี้มีการดำเนินการใน  2  เรื่องคือ          1. การให้บริการข้อมูลดาวเทียมสำรวจทรัพยากร          2. การฝึกอบรม          ศูนย์เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  หรือ GISTDA ความร่วมมือมีดังนี้          1. สืบเนื่องจากประเทศไทยมีดาวเทียมในการสำรวจทรัพยากรหลายดวง วัตถุประสงค์คือการส่งข่าว สารข้อมูลถึงประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในภูมิภาคแถบนี้          2. การใช้ข้อมูลดาวเทียมสำรวจทรัพยากร เป็นความร่วมมือโครงการนำร่องของทั้งสองประเทศ อาทิ          โครงการบริหารจัดการและการติดตามอุทกภัยโดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียม ภายหลังการจัดทำโครงการ นำร่องแล้วจะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลข่าวสาร   ในระหว่างการดำเนินโครงการจะมีการทัศนศึกษาทางวิชาการของนักวิจัยทั้งสองฝ่ายด้วย ในโอกาสอันใกล้จะมีการปรึกษาหารือของทั้งสองฝ่ายเพื่อจัดทำบันทึกความเข้าใจและลงนามต่อไป--จบ----อินโฟเควสท์ (นท)--