กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
ยอดการใช้ยูทูบเป็นช่องทางสื่อสารพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ชุมชนออนไลน์ส่วนใหญ่กล่าวถึงบริษัทผ่านทวิตเตอร์
เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ชั้นนำของโลก เผยผลสำรวจการใช้โซเชียลมีเดียของโลกประจำปีที่สาม (3rd Annual Burson-Marsteller Global Social Media Check-up) ว่า บริษัทขนาดใหญ่ใน Fortune Global 100 ถูกกล่าวถึงในสังคมออนไลน์รวม 10,400,132 ครั้งในช่วงหนึ่งเดือน โดยผ่านทางทวิตเตอร์เป็นส่วนใหญ่ สำหรับการสำรวจโลกออนไลน์ครั้งล่าสุด เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ ได้นำข้อมูลใหม่จากบริษัท วิซิเบิล เทคโนโลยี่ส์ ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการเทคโนโลยีการวิเคราะห์และติดตามผลข้อมูลทางโซเชียลมีเดียมาร่วมประมวลผลด้วย
รายงานผลสำรวจการใช้โซเชียลมีเดียของโลกประจำปีที่สามของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ เป็นการเก็บข้อมูลการใช้โซเชียลมีเดียของบริษัทขนาดใหญ่ใน Fortune Global 100 ซึ่งรวมทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ้ค ยูทูบ นอกจากนี้ ยังมีการรวมข้อมูลจากกูเกิล พลัส และพินเทอเรสต์ เข้ามาประมวลเป็นครั้งแรก สำหรับข้อมูลที่ได้จากวิซิเบิล เทคโนโลยี่ส์ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับการพูดคุยถึงบริษัทในแง่มุมต่างๆ ในสังคมออนไลน์นั่นเอง
รายงานฉบับนี้ยังพบอีกว่า ในปี 2555 บริษัทส่วนใหญ่ (ร้อยละ 87) ใช้โซเชียลมีเดียอย่างน้อยหนึ่งช่องทางเพื่อสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยมีอัตราการใช้ยูทูบเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยจำนวนบริษัทที่มีช่องทางยูทูบของตนเองเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39 ในกลุ่มตัวอย่างดังกล่าว มีบริษัทกว่าร้อยละ 79 ใช้ช่องยูทูบของตนเองในการสื่อสาร เทียบกับในปี 2554 ที่มีเพียงร้อยละ 57 ในช่องทางดังกล่าว มีอัตราการเข้าชมเฉลี่ยกว่า 2 ล้านครั้ง และมีสมาชิก 1,669 ราย
แม้ยูทูบจะเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่ทวิตเตอร์ก็ยังคงเป็นช่องทางการสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับตัวบริษัทและการพูดคุยที่มีการเอ่ยอ้างถึงบริษัท โดยพบว่า ร้อยละ 82 ของบริษัทใน Fortune Global 100 เป็นสมาชิกทวิตเตอร์อย่างน้อยหนึ่งบัญชีต่อบริษัท และได้รับการกล่าวถึง 55,970 ครั้งโดยเฉลี่ย
นายมาร์ค เพนน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ เปิดเผยว่า “ผลการสำรวจในปีนี้พบแนวโน้มที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้างสรรค์เนื้อหา (content creation) ของบริษัทใน Fortune Global 100 นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา เราเห็นกระแสการใช้ช่องทางเหล่านี้ที่พัฒนาจากเพียงแค่การเผยแพร่ข่าวเป็นการสร้างสรรค์เนื้อหา ตลอดจนการนำเนื้อหาในสื่อต้นฉบับ เข้ามาแบ่งปันกับผู้ติดตามทางทวิตเตอร์ เฟซบุ้ค หรือยูทูบมากขึ้น”
นอกจากนี้ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ยังเป็นกลุ่มที่ติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทในช่องทางออนไลน์อย่างใกล้ชิด โดยจำนวนผู้ติดตามทวิตเตอร์เฉลี่ยตั้งแต่ปี 2554 ได้เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าจาก 5,076 เป็น 14,709 รายต่อหนึ่งบัญชีทวิตเตอร์ของบริษัท สำหรับเฟซบุ้คของบริษัท ก็มีจำนวนกด “ไลค์” เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 275 จากปี 2553 เป็น 152,646 ครั้งในปี 2555
นายดัลลัส ลอว์เรนซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลยุทธ์สื่อดิจิตอลทั่วโลกของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ กล่าวว่า “ผู้คนต้องการมีปฏิสัมพันธ์และติดตามสื่อสารกับบริษัทชั้นนำระดับโลก ขณะที่แพลตฟอร์มเหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนสะพานเชื่อมข้อมูลระหว่างองค์กรกับผู้คน ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ บริษัทเหล่านี้มีการติดต่อสื่อสารและสานสัมพันธ์กับผู้ติดตามด้วย การศึกษาพบว่าบัญชีทวิตเตอร์องค์กรจำนวนร้อยละ 79 สร้างความสัมพันธ์ผ่านทวิตเตอร์ด้วยการรีทวิต รวมไปถึงส่งต่อข้อความ และการกล่าวถึง นอกจากนี้ บริษัทกว่าร้อยละ 70 ที่มีเฟซบุ้คก็มีตอบรับต่อความเห็นหรือข้อซักถามในหน้าวอลล์และไทม์ไลน์ของตนด้วย”
สำหรับผลการสำรวจฉบับสมบูรณ์ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ bm.com/social
ผลการศึกษาอื่นๆ ที่น่าสนใจ มีดังนี้
- บริษัทใน Fortune Global 100 มีจำนวนบัญชีผู้ใช้ในแต่ละแพลตฟอร์มมากกว่าในอดีต โดยเฉลี่ยแต่ละบริษัทมีบัญชีทวิตเตอร์เฉลี่ย 10.1 บัญชี หน้าเฟซบุ๊ค 10.4 หน้า ช่องยูทูปเฉลี่ย 8.1 ช่อง หน้ากูเกิลพลัส 2.6 หน้า บัญชีพินเทอเรสต์ (Pinterest) 2.0 บัญชี
- บริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้ร้อยละ 74 มีหน้าเฟซบุ้คบริษัท 1 หน้า
- หน้าเฟซบุ้คของบริษัทร้อยละ 93 มีการอัพเดทข้อมูลเป็นประจำทุกสัปดาห์
- บริษัทร้อยละ 48 เป็นสมาชิกของกูเกิล พลัส
- บริษัทร้อยละ 25 มีบัญชีพินเทอเรสต์
- หน้าเฟซบุ้คบริษัทแต่ละหน้า มีผู้คนพูดถึงเฉลี่ย 6,101 ราย
เกี่ยวกับผลสำรวจการใช้โซเชียลมีเดียของโลกประจำปีที่สาม
รายงานการสำรวจฉบับนี้มีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ของบริษัทใน Fortune Global 100 บนระบบทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค ยูทูป กูเกิลพลัส และพินเทอเรสต์ โดยมีบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ประกอบด้วย 29 บริษัทจากสหรัฐอเมริกา 45 บริษัทจากภูมิภาคยุโรป 23 บริษัทจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ 3 บริษัทจากภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยเป็นการศึกษาเปรียบเทียบกับผลการสำรวจสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัทใน Fortune Global 100 ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดทำและเผยแพร่โดยเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 และรายงานการสำรวจการใช้สื่อสังคมออนไลน์ระดับโลกประจำปี ครั้งที่ 2ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 การรวบรวมข้อมูลดำเนินการโดยทีมงานวิจัยของเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ทั่วโลก โดยมีบริษัท วิซิเบิล เทคโนโลยี่ส์ เป็นผู้ให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับจำนวนผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัทว่ามีการพูดถึงบริษัทในสังคมออนไลน์มากน้อยเพียงใด
เกี่ยวกับเบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ (www.bm.com) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2496 ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ให้บริการด้านประชาสัมพันธ์ชั้นนำระดับโลก บริษัทฯ ให้บริการวางกรอบแนวคิดเชิงกลยุทธ์และแผนงานประชาสัมพันธ์ในหลากหลายด้าน อาทิ ประชาสัมพันธ์ รัฐกิจสัมพันธ์ การสื่อสารในภาวะวิกฤติ และบริการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ในสื่อออนไลน์ ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจครอบคลุม 108 ประเทศใน 6 ทวีป ผ่านเครือข่ายบริษัทลูก 73 แห่ง และบริษัทในเครืออีก 83 แห่ง เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ เป็นบริษัทในเครือของดับบลิวพีพี ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ให้บริการการสื่อสารครบวงจรชั้นนำของโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
สาธิดา ศรีธัญญาธรณ์
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร: 0-2252-9871
อีเมล์: satida.s@abm.co.th