(ต่อ3): วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ A Cinderella Story

ข่าวทั่วไป Tuesday July 20, 2004 14:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส
คลิฟฟอร์ด เวอร์เบอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง) ได้ผ่านการทำงานบริหารภาพยนตร์ให้กับบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ๊อกซ์ ฟิล์ม คอร์ปอร์เรชั่นและวอร์เนอร์ บราเดอร์ส ตั้งแต่ปี 1986 มาจนถึงปี 1999 ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขายังได้ทำงานอย่างใกล้ชิดให้กับภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อย่างเช่นเรื่อง The Abyss เรื่อง Home Alone I และ II เรื่อง Broadcast News เรื่อง Grand Canyon เรื่อง Braveheart
ในช่วงเวลาที่เขาต้องดูแลงานในสตูดิโอ เวอร์เบอร์ยังได้ดูแลงานให้กับบริษัทฟ๊อกซ์และบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส และได้ร่วมสร้างและซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์หลายเรื่องทั้งเสียงภาษาอังกฤษและ ภาษาพื้นเมืองอาทิ ภาษาเยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศสตลอดจนละติน อเมริกาซึ่งรวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง Trainspotting เรื่อง Girl of Your Dreams เรื่อง Open Your Eyes และเรื่อง Orfeus และภาพยนตร์ไลฟ์แอ๊คชั่น และภาพยนตร์การ์ตูนครอบครัวรวมไปถึง ภาพยนตร์ของเยอรมันเรื่อง Asterix Conquers America เรื่อง Fearless Four และเรื่อง A Rat’s Tale เรื่อง Japan’s My Neighbor Totoro และเรื่องที่ได้รับรางวัลอย่างเรื่อง Shiloh เรื่อง Little Men เรื่อง Family Tree และเรื่องMy Dog Skip
เวอร์เบอร์ เริ่มเค้าโครงร่างและพัฒนาเรื่อง A Cinderella Story อย่างไม่มีสังกัดเมื่อเขาลาออกจากวอร์เนอร์ บราเดอร์สในปี 1999 และในปี 2002 เขาได้ร่วมกับผู้กำกับการแสดงคือ มาร์ค รอสแมนและกับรอสแมนนั่นเองภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย
ฮิลลารี่ ดัฟฟ์ ก่อนที่จะนำเรื่องนี้มาเสนอให้กับบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์สสำหรับการสร้างอีกครั้งในปี 2003 นับแต่นั้นเวอร์เบอร์ก็ได้เซ็นสัญญาการสร้างภาพยนตร์กับบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์
อีไลซ่า กู้ดแมน (ผู้อำนวยการสร้าง) เคยรับหน้าที่เป็น ผู้บริหารให้กับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์และภาพยนตร์ทางจอเงิน และในปัจจุบันนี้เธอรับงานอิสระให้กับหลายสตูดิโอและหลายบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่สำคัญและชื่อของเธอยังได้รับการยอมรับจากผลิตภาพยนตร์และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์อีกด้วย เธอเพิ่งเซ็นสัญญาผลิตภาพยนตร์จากเรื่องดัดแปลงเรื่อง The Wish ซึ่งมีเค้าโครงเรื่องมากจากนิยายวัยรุ่นขายดีของกิล คาร์สัน เลวีน (แอลล่า เอ็นชานเต็ด) ผู้ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ นิวเบอรี่ อวอร์ด และเรื่องต่อไป
กู้ดแมนจะสร้าง ภาพยนตร์แนว อินดี้เรื่อง Princess ซึ่งจะเปิดกล้องที่วอชิงตัน ดีซีซัมเมอร์นี้ ส่วนโครงการอื่น ๆ ในการบุกเบิกพัฒนาของเธอนั้นรวมไปถึงเรื่อง The Paw เรื่อง Jeremy Tatcher Dragon Hatcher เรื่อง Anne Frank & Me และเรื่อง One Night กู้ดแมนยังได้สร้างผลงานที่มีคุณภาพให้กับวงการบันเทิงอีกหลายเรื่องดูได้จากรางวัลจากภาพยนตร์ที่เธอได้รับ เรื่อง Summer of the Monkeys ซึ่งทำสถิติภาพยนตร์ทำเงินโดย บริษัท ดิสนีย์เป็นผู้จัดจำหน่าย
ในทางด้านภาพยนตร์โทรทัศน์ เมื่อไม่นานมานี้ กู้ดแมนได้ขายซี่รีส์ดั้งเดิมเรื่อง Mall Or Nothing ให้กับ บริษัท The Style Network และยังได้ป็นผู้ร่วมอำนวยการบริหารให้กับซีรีส์วัยรุ่นยอดนิยมเรื่อง Moolah Beach ซีรีส์หลายเรื่องที่มีเค้าโครงเรื่องมาจากต้นคิดของเธอได้รับวิพากษ์วิจารณ์และการยอมรับในความสำเร็จทั้งทางช่องของฟ๊อกซ์และ ทางช่อง แฟมิลี่ชาแนล
กู้ดแมนเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงที่นิวยอร์คโดยทำงานให้กับบริษัท มิราแม๊กซ์ ฟิล์มก่อนที่จะย้ายมาที่ ลอสแอนเจลิสเพื่อรับตำแหน่งกับบริษัท ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เธอเบนเข็มเข้าสู่วงการโทรทัศน์โดยรับตำแหน่ง รองประธานของบริษัท ฟิล์ม เอ็นเทอร์เทนเมนท์ให้กับ บอนเนอร์วิลล์ เวิร์ดไวล์ด เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (บี ดับบริว อี) ซึ่งทำให้เธอได้รับผิดชอบในการบุกเบิกพัฒนา การผลิตและการจัดจำหน่ายให้กับภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมากกว่าสิบสองเรื่องและภาพยนตร์สองเรื่องได้รับรางวัลภาพยนตร์ดั้งเดิมอีกด้วย กู้ดแมนย้ายจากบริษัท บี ดับบริว อี เพื่อไปทำงานให้กับ ช่อง ดิสคอเวอรี่ เน็ทเวอร์ค แอนนิมอล แพลนเน็ท ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้เป็นผู้ให้แนวทางการบุกเบิกพัฒนาและการผลิตให้กับภาพยนตร์ดั้งเดิมและซีรีส์ที่ได้รับรางวัลหลายเรื่อง
กู้ดแมน ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายรางวัลซึ่งรวมไปถึง รางวัล ภาพยนตร์สำหรับเด็ก จากเทศกาลภาพยนตร์ ซานตา บาบาร่า อินเตอร์เนชั่นแนล ชิลเดรนท์ ฟิล์ม และ งานเทศกาลหนังฮาร์ทแลนด์ โดยได้รับรางวัล คริสตัล ฮาร์ท อวอร์ด และยังได้รับรางวัล ออเดียนส์ ช้อยส์ อวอร์ด จากเทศกาลภาพยนตร์สองงานคือ เทลลูไรด์และมาร์โค ไอส์แลนด์ อวอร์ด
ฮันท์ โลวรี่ (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นผู้นำของบริษัท เกย์ลอร์ด ฟิล์มและแผนกพิเศษคือ แพนโดร่า ซึ่งที่นั่นเขาได้สัญญาระยะยาวในการจัดสรรเงินทุนและร่วมผลิตกับบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิคเจอร์ส และภายใต้สัญญานี้เอง โลวรี่ก็ได้สร้างภาพยนตร์ยอดฮิตของบ๊อกซ์ ออฟฟิศเรื่อง What A Girl Wants ร่วมแสดงโดย อแมนด้า ไบเนส โคลิน เฟริท์ และ เคลลี่ เพรสตั้น เรื่อง A Walk to Remember แสดงนำโดย แมนด้า มัวร์และ เชน เวสท์ เรื่อง The Divine Secrets of the Ya-Ya Sisterhood แสดงนำโดย แอชลี่ย์ จู้ดด์ อัลเลน เบอร์สไตน์และ แซนดร้า บูลล็อคและเรื่อง White Oleander แสดงนำโดย มิเชล ไฟเฟอร์ เรอ์นี เซลล์เวเกอร์ และ โรบิน ไรท์ เพนน์ ผลงานการอำนวยการสร้างที่สร้างของโลวรี่ร่วมไปถึงเรื่อง The Blue Collar Comedy Tour แสดงนำโดย เจฟฟ์ ฟ๊อกซ์เวอธี่ ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์สยองขวัญเรื่อง Cypher แสดงนำโดย เจอรามี่ นอร์เธมและ ลูซี่ ลิว และภาพยนตร์วัยรุ่นเกี่ยวกับเรื่องสเก็ตบอร์ด เรื่อง Grind ตอนนี้โลวรี่กำลังอำนวยการสร้างเรื่อง Dreamer ซึ่งเป็นหนังครอบครัวแนวดราม่าในโลกของวงการม้าแข่งและอยู่ในระหว่างเก็บงานภาพยนตร์เรื่อง Duma ซึ่งกำกับการแสดงโดย คาร์รอล บัลลาร์ด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งและเสือชีต้าซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาในเซ้าท์แอฟริกา เขาอยู่ในระหว่างการเตรียมงานภาพยนตร์เรื่อง Capa ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องของ ช่างภาพคือ โรเบริต์ คาพา
โรว์ลี่ยังได้อำนวยการสร้างบริหารให้กับภาพยนตร์ยอดนิยมอีกหลายเรื่อง อาทิ Donnie Darko แสดงนำโดย เจค กิลเลนฮัล เจนน่า มาโลน ดรูว์ แบรี่มอร์ โนอาห์ ไวล์ด และ แพทริค สเวย์ซี่ ซึ่งเปิดตัวที่งานเทศกาลหนัง ซันเด้นซ์ ฟิล์ม เฟลติวัลและได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล Grand Jury Prize และยังได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล อินดิเพนเด้นท์ สปิริต อวอร์ดอีกสามรางวัลอีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ โลวรี่ได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Disney’s The Kid แสดงนำโดย บรูซ วิลลิซ และภาพยนตร์ของ ยอน เทอร์เทิ้ลทับเรื่อง Instinct แสดงนำโดย แอนโธนี่ ฮอปกิ้นส์ คิวบ้า กู้ดดิ้ง จูเนียร์และ โดนัล ซัทเธอร์แลนด์ เรื่อง A Time to Kill กำกับการแสดงโดย โจแอล ชูว์เมคเกอร์และแสดงนำโดย แซนดร้า บูลล๊อค แมทธิว แม๊คคอนนาฮีและ แอชลี่ย์ จูดด์ เรื่อง First Knight ซึ่งกำกับการแสดงโดย เจอร์รี่ ซัคเกอร์และแสดงนำโดย ชอน คอนเนอรี่ ริชาร์ด เกียร์และ จูเลีย ออม้อนด์ เรื่อง Revenge แสดงนำโดย เควิน คอสเนอร์ แอนโธนี่ ควินน์และ แมดเดอร์ลีน สโตว์ เรื่อง My Life นำแสดงโดย ไมเคิล คีตั้นและนิโคล คิดแมน ภาพยนตร์ของ ไมเคิล แมนน์เรื่อง The Last of the Mohicans แสดงนำโดย แดเนียล เดย์ ลูวิสและ แมดเดอร์ลีน สโตว์ เรื่อง Only the Lonely (ร่วมกับ จอห์น ฮิวส์) ซึ่งกำกับการแสดงโดย คริส โคลัมบัสและแสดงนำโดย จอห์น แคนดี้ โลว์รี่ยังได้อำนวยการสร้างเรื่อง Career Opportunities เรื่อง Top Secret เรื่อง Get Crazy และร่วมอำนวยการสร้างเรื่อง Airplane (ร่วมกับ เจอร์รี่ ซัคเกอร์) แสดงนำโดย โรเบริต์ เฮย์ส และ จูลี่ แฮคเกอร์ตี้
ผลงานทางจอแก้วที่เขาได้อำนวยการสร้างรวมไปถึงของทาง เอชบีโอเรื่อง Baja Oklahoma และเรื่อง Rascals and Robbers เรื่อง The Secret Advantures of Tom Sawyer and Huck Finn ให้กับซีบีเอส เขายังได้อำนวยการสร้างมินิซีรีส์ให้กับซีบีเอสเรื่อง Dream West และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์อีกหลายเรื่อง อาทิ His Mistress เรื่องWild Horses และเรื่อง Surviving ให้กับเอบีซี เธียร์เตอร์อีกด้วย
เขาเป็นคน โอกลาโฮม่า ซิตี้ โลว์รี่เข้าเรียนที่วิทยาลัยที่ Rollins College และ มหาวิทยาลัย Forest University ในปี 1976 เขาได้เข้ามาที่ ลอสแอนเจลิสเพื่อมาเยี่ยมดิ๊คซึ่งเป็นพี่ชายที่กำลังเรียนอยู่ที่ สถาบัน American Film Institute เมื่อได้มาที่ลอสแอนเจลิสโลว์รี่ก็ตกหลุมรักวงการมายาและตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านยาและย้ายมาอยู่ที่ลอสแอนเจลิสเขาอยู่ที่ แฮนค๊อคปาร์คที่คริสตีนภรรยาที่เป็นผู้กำกับบทโดยมีลูกชายคือ โอลิเวอร์และลูกสาวชื่อ ลิบบี้
ไดแลน เซลเลอร์ส (ผู้อำนวยการสร้าง) เขาเกิดที่เมืองลอสแอนเจลิสและศึกษามหาวิทยาลัยที่ University of California ที่ เบิร์คลี่ย์ และเข้าเรียนโรงเรียนกฎหมายที่ Hastings Law School โดยเขาเรียนจบและได้รับเกียรตินิยม จากทั้งสองสถาบัน เขาได้รับความสำเร็จโดยเป็นทนายในวงการบันเทิงของบริษัท โอเมลวินนี่ย์ แอนด์ ไมเยอร์ หลังจากที่ได้มีเวลาท่องเที่ยวทั้งเอเซียอาคเนย์และ เอเซียตะวันตกรวมทั้งใช้เวลาหลายเดือนในประเทศอินเดีย เซลเลอร์ส ตัดสินใจว่ามันจะน่าสนุกกว่าที่จะสร้างภาพยนตร์ดีกว่าที่จะเป็นตัวแทนทางกฎหมายให้กับภาพยนตร์ต่าง ๆ
เซลเลอร์ส์ได้เข้าร่วมงานกับ บริษัท ทัชสโตน พิคเจอร์สในตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรในปี 1987 ต่อจากนั้นก็รับตำแหน่ง ผู้ช่วยประธานกรรมการฝ่ายการสร้างให้กับบริษัท ซิมสัน/บรั๊คไฮม์เมอร์ โปรดักชั่นส์ ในปี 1988 และได้รับตำแหน่งประธานให้กับบริษัท ลี ริช โปรดักชั่นส์ ในปี 1991 ในปี 1993 เซลเลอร์สร่วมงานกับบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ๊อกซ์ ฟิล์ม คอร์ปอร์เรชั่นในตำแหน่ง รองประธานอำนวยการบริหาร ด้านการสร้างและผลิต และได้ดูแลรับผิดชอบภาพยนตร์อาทิเรื่อง Kiss of the Death เรื่อง The Edge เรื่อง The Crucible และเรื่อง Nine Months เซลเลอร์ส ยังได้ซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์คอมเมดี้ยอดนิยมเรื่อง There’s Something About Mary อีกด้วย
เมื่อไม่นานมานี้เขาได้อำนวยการสร้าง เรื่อง Agent Cody Banks และภาคที่ตามมาคือเรื่อง Agent Cody Banks 2: Destination London ผลงานสร้างชื่อของเขารวมไปถึงซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง The Black Sash ให้กับบริษัท วอร์เนอร์ บราเดอร์ส เรื่อง Valentine กับเดนนิส ริชาร์ดส์และ เดวิด โบรีเนซ และเรื่อง The Replacements นำแสดงโดย คีอานู รีฟส์และ จีน แฮ๊ดแมน แซลเลอร์สยังได้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ให้กับทางช่องของ วอล์ท ดิสนีย์ เรื่อง You Ruined My Life และภาพยนตร์เรื่อง Passenger 57 เรื่องThe Music of Chance เรื่อง The Paper เรื่อง The Amazing Panda Adventure เรื่อง Big Bully และเรื่อง Out to Sea
เซลเล่อร์สอยู่ในลอสแอนเจลิสกับภรรยาและลูกสาวสองคน
ไมเคิล รัชมิล (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร) เขาเพิ่งเสร็จจากการอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Torque และภาพยนตร์วัยรุ่นยอดฮิตเรื่อง Not Another Teen Movie เขายังได้ร่วมเป็นผู้อำนวยการสร้างบริหารให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Glass House เรื่อง The In Crowd เรื่อง Universal Soldier: The Return เรื่อง Major League: Back to the Minors เรื่อง The Glimmer Man เรื่อง Nowhere to Run และเรื่อง Flatliners
ผลงานการสร้างของรัชมิลยังรวมไปถึงเรื่อง Major Payne เรื่อง Lassie เรื่อง L.A. Story เรื่อง No Holds Barred เรื่อง Punchline เรื่อง Roxanne เรื่อง Quicksilver และเรื่อง Runaway
ปีเตอร์ กรีน (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร) เป็นคนบุคคลที่เราสามารถเรียกได้ว่า “ผู้มีความสามารถรอบด้าน” ในวงการบันเทิง ภาพยนตร์ที่เขาอำนวยการสร้างร่วมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง After Midnight จากผู้ผลงานการเขียนของ พิทช์ แบล๊คและภาพยนตร์ของ มาร์ก เฮลเกนเบอร์เกอร์เรื่อง The Cool Surface นำแสดงโดย โรเบิร์ต แพทริค และ ให้กับเทอรี่ แฮทเชอร์ และเรื่อง Painted Hero ให้กับ ดไวท์ โยแฮม
คีธ กิกลิโอ (ผู้อำนวยการสร้างบริหาร) ได้รับการยอมรับจากผลงานการเขียนของเขาจากภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง Noah ซึ่งร่วมแสดงโดย โทนี่ เดนซ่า และภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง Joshua ร่วมกับ โทนี่ โกล์ดวิน
เมื่อเขามาอยู่ที่ลอสแอนเจลิส กิกลิโอได้พบผู้กำกับการแสดงมาร์ค รอสแมนเพราะพวกเขาแบ่งที่จอดรถกัน ภาพยนตร์เรื่อง A Cinderella Story เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในงานอำนวยการสร้างของกิกลิโอ
เลห์ ดัสแลป (ผู้เขียนบท) เธอโตที่ สตูดิโอ ซิตี้ แคลลิฟอร์เนียและและได้เข้าเรียนที่ โรงเรียนสอนเกี่ยวกับภาพยนตร์คือ USC School of Cinema-Television ภาพยนตร์เรื่อง A Cinderella Story เป็นผลงานการเขียนบทเรื่องแรกของเธอ ตอนนี้เธอกำลังทำงานเรื่อง Camp Rockaway ให้กับบริษัท เรด วาก้อน โปรดักชั่นสและบริษัท โคลัมเบีย พิคเจอร์สและเรื่อง Spy Girls ให้กับผู้อำนวยการสร้าง คาเรน บาร์เบอร์ ให้กับบริษัท ลอว์เรนซ์ เบนเนอร์ โปรดักชั่นส์
ดันแลป อยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกับจิมซึ่งเป็นสามีและลูกชายคือ ฟาร์เรล
แอนโธนี่ บี ริชมอนด์ เอเอสซี/บีเอสซี (ผู้กำกับภาพ) ทำงานเป็นช่างภาพมากว่าสามทศวรรษ ผลงานที่ผ่านมาของเขาร่วมไปถึงเรื่อง Shade เรื่อง Dirty Dancing: Havana Nights เรื่อง The Sweetest Thing เรื่อง Legally Blonde เรื่อง A Walk on The Moon เรื่อง Ravenous และเรื่อง Someone Like You
ผลงานภาพยนตร์ของเขายังรวมไปถึงเรื่อง Men of Honor เรื่อง First Kid เรื่อง Bastart Out of Carolina เรื่อง Sandlots เรื่อง Candy Man เรื่อง That’s Life เรื่อง Love and Bullets และภาพยนตร์ของ นิโคลาส โรเอคเรื่อง The Man Who Fell to Earth และเรื่อง Don’t Look Now ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ริชมอนด์ได้รับรางวัล BAFTA Award
ผลงานภาพยนตร์ทางโทรทัศน์นั้น ริชมอนด์ได้ทำงานให้กับเรื่อง And the Beat Goes On: The Sonny and Cher Story เรื่อง Rough Riders เรื่อง Heart of Darkness เรื่อง In the Arms of a Killer และเรื่อง Settle the Score
ชาร์ลส บรีน (ผู้ออกแบบฝ่ายศิลป์) เขาเรียนทางด้านสถาปัตย์มาจาก ครานบรุ๊ค สถาบันที่มีชื่อเสียงทางด้านศิลปะและการออกแบบก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่แคลิฟอร์เนียเพื่อทำงานและเขาก็ได้หลงใหลวงการมายา ในฐานะผู้กำกับฝ่ายศิลป์ เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับการแสดงที่มีชื่อเสียงมากมายอาทิ ริดลี่ย์ สก๊อตต์ (เรื่อง Blade Runner) ไมค์ นิโคลส์ (จากเรื่อง Postcards From the Edge) ริชาร์ด แอทเทนโบโรห์ (จากเรื่อง Chapplin) และ วอลเตอร์ ฮิลล์ (จากเรื่อง Looters) บรีนยังได้ร่วมงานกับ แบร์รี่ เลวินสัน จากเรื่อง Disclosure กับ คลิน อีสท์วู้ด จากเรื่อง The Bridges of Madison County และกับ วิลเลี่ยม ฟรายด์คิน จากเรื่อง Jade
การก้าวกระโดดจากการเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ขึ้นมาเป็นผู้ออกแบบฉากทำให้เกิดข้อโต้แย้งในงานของเขาและได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากจากภาพยนตร์เรื่อง Your Friends and Neighbors ให้กับ ผู้กำกับการแสดง นีล ลาบิวต์ ซึ่งนำแสดงโดย เจสัน พาทริค และ เบน สติลเลอร์และภาพยนตร์คอมเมดี้มืดเรื่อง Nurse Betty ซึ่งยังร่วมงานกับ ลาบิวต์นำแสดงโดย เรอเน่ เซลล์เวคเกอร์ บรีนได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัล เอมมี่สำหรับ ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ยอดเยี่ยมให้กับเอชบีโอจากเรื่อง Weapons of Mass Distraction
บรีนยังได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้บริหารของ สาขา ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของ สถาบัน Academy of Motion Picture Arts and Sciences
ผลงานทางภาพยนตร์ของเขารวมไปถึงเรื่อง Boat Trip เรื่อง Eight Legged Freaks เรื่อง Dude, Where’s My Car เรื่อง Urban Legend และเรื่อง She’s All That
คาร่า ซิลเวอร์แมน เอซีอี (ผู้ลำดับภาพ) เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ทำงานลำดับภาพให้กับภาพยนตร์เรื่อง Guru ซึ่งกำกับการแสดงโดย เดซี่ วอน เชอร์เรอร์ ไมเยอร์ และ ภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง See Spot Run ผลงานภาพยนตร์โดยเธอได้ทำงานร่วมกับ ผู้กำกับการแสดง จอห์น ไวท์เซล และผลงานของเธอยังรวมไปถึงภาพยนตร์เรื่อง Head Over Heels ซึ่งกำกับการแสดงโดย มาร์ค วอเตอร์ส เรื่อง The Best Man เรื่อง Permanent Midnight เรื่อง Party Girl และเรื่อง Malibu’s Most Wanted
ซิลเวอร์แมนยังได้เคยร่วมงานกับ พอล ชเรเดอร์เรื่อง Touch และ โรเบิร์ต เดอ นีโรจากเรื่อง A Bronx Tale และเรื่อง Jeffrey ผลงานทางโทรทัศน์ของเธอยังรวมถึงผลงานสร้างของบริษัท อเมริกัน เพลย์เฮ้าส์ เรื่อง Blown Sideways Through Life
คริสตอฟ เบค (เพลงประกอบภาพยนตร์) ได้มีผลงานกาแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ให้กับทั้งจอเงินและจอแก้วมากว่าห้าสิบเพลง ผลงานล่าสุดรวมไปถึงเรื่อง Cheaper by The Dozen เรื่อง Under the Tuscan Sun เรื่อง Dickie Roberts: Former Child Star และเรื่อง American Wedding
นอกจากนี้ผลงานของเขายังรวมไปถึงเรื่อง Just Married เรื่อง The Tuxedo เรื่อง Stealing Harvard เรื่อง Big Fat Liar เรื่อง Bring It On และเรื่อง Airborne
สำหรับผลงานทางภาพยนตร์โทรทัศน์ เบคเป็นที่รู้จักดีสำหรับผลงานของเขาจากภาพยนตร์เรื่อง Buffy the Vampire Slayer ซึ่งเขาได้รับรางวัลเอมมี่ในปี 1998 สำหรับ Outstanding Music Composition เขายังได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลเอมมี่สำหรับ Outstanding Music Direction จากภาพยนตร์เรื่อง Buffy ในปี 2002 อีกด้วย ผลงานทางโทรทัศน์อาทิ ซี่รีส์เรื่อง Angel เรื่อง The Practice เรื่อง Spy Game เรื่อง Good Company เรื่อง Land’s End และเรื่อง White Fang
เดนนิส วินเกท (ออกแบบเครื่องแต่งกาย) ผลงานเรื่องล่าสุดจากผลงานหลายโครงการของเธอคืองานภาพยนตร์ดราม่าที่เธอทำร่วมกับ ไมเคิล โทลลิน เรื่อง Radio แสดงนำโดย คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์ ภาพยนตร์ โรแมนติค คอมเมดี้เรื่อง The Sweetest Thing ซึ่งมีดาราร่วมแสดง อาทิ คาเมรอน ดิเอซ คริสติน่า แอปเปิ้ลเกท และ เซลม่า แบล์ลและ คอมเมดี้มืดเรื่อง Novocaine แสดงนำโดย สตีฟ มาร์ติน เฮเลนน่า บอนแฮม คาร์เตอร์และ ลอร่า เดอร์น
เธอเป็นชาวเซ้าท์เทอน์ แคลลิฟอร์เนีย วินเกทเริ่มงานออกแบบเครื่องแต่งกายของเธอและออกทัวร์ไปกับคลื่นลูกใหม่เดอะ แบงค์เกิ้ล เธอยังได้ทำงานออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับรายการโชว์ทางโทรทัศน์เช่น Melrose Place และ Models, Inc.
ผลงานทางภาพยนตร์ของเธออาทิ เรื่อง Soul Survivors เรื่อง Blue Streak เรื่อง Cruel Intentions เรื่อง She’s All That เรื่อง Judas’ Kiss เรื่องThe Alarmist เรื่อง The Last Time I Committed Suicide เธอยังได้ออกแบบเครื่องแต่งกายให้กับงานสร้างทางโทรทัศน์ของภาพยนตร์เรื่อง Cruel Intentions และภาพยนตร์ทางโทรทัศน์เรื่อง Perfect Prey และซีรีส์คอมเมดี้ของซีบีเอสเรื่อง Almost Perfect
เราจะได้เห็นผลงานการออกแบบของเธอจากในภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่อง Paparazzi
ในตอนนี้เธอกำลังทำงานให้กับทีมงานสร้างภาพยนตร์โรแมนติคคอมเมดี้เรื่อง The Wedding Crashers นำแสดงโดย โอเวน วิลสัน เจน ซีมัวร์ และ คริสโตเฟอร์ วอลกิ้นส์ และมีแผนจะออกฉายในปี 2005--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ