กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--เนคเทค                      เรื่อง “กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์…กับผลกระทบเมื่อมีการบังคับใช้”                             วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2547  เวลา 09.00—15.00 น.                             ณ ห้องมิราเคิลแกรนด์ ซี โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น                                                หลักสี่                                                จัดโดย                                    กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร                                                 และ                                สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์                                    ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ                                                ร่วมกับ                                           สำนักงานศาลยุติธรรม                                           สำนักงานอัยการสูงสุด                                           สำนักงานกิจการยุติธรรม                                           สำนักงานตำรวจแห่งชาติ                                           สภาทนายความ                                           หอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย          1.หลักการและเหตุผล          แม้มนุษย์จะได้นำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้และก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมายก็ตามแต่ในทางกลับกันหากมีการนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในทางมิชอบก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหรือส่งผลกระทบที่ร้ายแรงแก่สังคมได้ โดยเป็นที่มาของการเกิดอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด ซึ่งประเทศต่างๆก็ได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนา “กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์(Computer Crime Law)” มากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งที่อยู่ในรูปของการบัญญัติกฎหมายเฉพาะขึ้นใหม่หรือปรับแก้กฎหมายเดิมที่ใช้บังคับอยู่ให้สามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้          ประเทศที่พัฒนาและบัญญัติกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ขึ้นใช้บังคับแล้วอาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น  สิงคโปร์และมาเลเซีย เป็นต้น และอีกหลายๆ ประเทศที่อยู่ระหว่างการพัฒนากฎหมายขึ้นเพื่อใช้บังคับรวมทั้งคณะมนตรีแห่งยุโรป (Council of Europe)  ก็ได้จัดทำอนุสัญญาว่าด้วยอาชญา-กรรมทางคอมพิวเตอร์ (Convention onCybercrime) ขึ้นเมื่อปี 2001 ซึ่งนับเป็นอนุสัญญาฉบับแรกที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประเทศสมาชิกคณะและประเทศอื่นที่สนใจร่วมลงนามเป็นภาคีของอนุสัญญาดังกล่าวได้เพื่อที่ประเทศต่างๆ จะได้มีกฎหมายภายในทั้งส่วนกฎหมายสาระบัญญัติและวิธีสบัญญัติที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงมีกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ          สำหรับประเทศไทยนั้นปัจจุบันมีร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2546 และผ่านการพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาจากร่างพระราชบัญญัติฯ ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีค่อนข้างมาก          ดังนั้น เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในกระบวนการนิติบัญญัติเป็นไปอย่างรอบคอบและมีเนื้อหาที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นถึงข้อดี หรือข้อบกพร่อง ที่จะต้องมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในร่างพระราชบัญญัติ รวมถึงประเด็นปัญหาต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นและเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ด้านกฎหมายได้อย่างแท้จริง          2. วัตถุประสงค์          2.1 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติว่าด้วย อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ที่ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะ กรรมการกฤษฎีกา          2.2 เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยตรงและ จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อการปรับปรุงเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติว่าด้วย อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. รวมถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายในอนาคต          3. กลุ่มเป้าหมาย          ผู้เข้าร่วมการเสวนา ประมาณ 300 คน ได้แก่          *ผู้พิพากษา                                    ประมาณ   50 คน          * อัยการ                                     ประมาณ   50 คน          * เจ้าหน้าที่ตำรวจ                              ประมาณ   50 คน          * นักเทคโนโลยีและผู้ที่เกี่ยวข้องจากภาคเอกชน         ประมาณ  150 คน          4. รูปแบบการจัดงาน          เป็นการสัมมนาและเสวนาทางวิชาการ โดยวิทยากรทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง          5. วัน เวลา สถานที่          วันพฤหัสบดี ที่ 22 กรกฎาคม 2547  เวลา 09.00 —15.00 น.          ณ ห้องมิราเคิลแกรนด์ ซี โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่          6. หน่วยงานที่จัด          * กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร          * สำนักงานศาลยุติธรรม          *  สำนักงานกิจการยุติธรรม          * สำนักงานอัยการสูงสุด          * สำนักงานตำรวจแห่งชาติ          * สภาทนายความ          * หอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย          * ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ          สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ          กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี          7. กำหนดการ          08.30-09.00 น.          ลงทะเบียน          09.00 — 09.10           กล่าวรายงาน                                  โดย ดร. ทวีศักดิ์  กออนันตกูล (เนคเทค)          09.00-09.15 น.          กล่าวเปิดงาน                                  โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร          09.15-12.00 น.          “การปรับแก้กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์…                                  เพื่อรับมืออาชญากรออนไลน์”                                  *  สรุปภาพรวมการปรับแก้กฎหมาย                                  โดย   ดร. ทวีศักดิ์ กออนันตกูล (เนคเทค)                                  *  สาระสำคัญของกฎหมาย                                  โดย                                  - รศ.ทวีเกียรติ  มีนะกนิษฐ                                  (คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)                                  *   มุมมองทางด้านการนำไปปฏิบัติ                                  โดย                                  -    นายชวลิต  อัตถศาสตร์ (สภาทนายความ)                                  -    นายตฤณ  ตัณฑเศรษฐี (บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน))                                  -    นายปริญญา  หอมเอนก                                   (ศูนย์ฝึกอบรมระบบเครือข่ายและความปลอดภัยข้อมูล)                                  -    นายวันฉัตร  ผดุงรัตน์ (พันธุ์ทิพย์ดอทคอม)                                  ร่วมเสวนาและดำเนินรายการโดย นางสุรางคณา  วายุภาพ          12.00-13.00 น.          รับประทานอาหารกลางวัน          13.00-15.00 น.          การรับฟังความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมเสวนา”                                  โดย    ผู้เข้าร่วมเสวนา          หมายเหตุ          วิทยากรอยู่ระหว่างการยืนยันและการเสวนาในช่วงเช้ามีพักรับประทานอาหารว่าง--จบ----อินโฟเควสท์ (นท)--