ผู้ว่าฯ สมัครเปิดใจอำลาสภากทม.

ข่าวทั่วไป Thursday July 22, 2004 10:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--กทม.
สภากทม.เลื่อนการประชุมอีกครั้ง ผู้ว่าฯ สมัคร ถือโอกาสเปิดใจอำลาสภากทม.พร้อมเผยผู้ว่าฯคนใหม่ต้องสามารถนำพากรุงเทพมหานครให้เดินหน้าไปได้ด้วยดี และต้องสามารถทำงานร่วมกับสภากทม.ได้
เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.47) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ได้กำหนดให้มีการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยการประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2547 ซึ่งเลื่อนมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 7 และ 14 ก.ค.47 อย่างไรก็ตามการประชุมครั้งนี้ยังคงไม่สามารถเปิดการประชุมได้ เนื่องจากสมาชิกสภากรุงเทพมหานครมาลงชื่อประชุมเพียง 29 คน ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม ดังนั้นเมื่อถึงเวลา 10.40 น. นายธนา ชีรวินิจ ประธานสภากรุงเทพมหานคร จึงเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันพุธหน้า วันที่ 28 ก.ค.47 ในโอกาสเดียวกันนี้นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วยและได้อำลากับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เนื่องด้วย นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมาจนครบ 4 ปี ซึ่งได้ให้ความร่วมมือกับสภากรุงเทพมหานครเป็นอย่างดีตลอดมาแม้ว่าพรรคประชากรไทยจะไม่มีสมาชิกจำนวนมากในสภาแห่งนี้ แต่ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าสภากรุงเทพมหานคร ได้ให้ความร่วมมือร่วมใจที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรมของผู้ว่าฯ กทม. เพราะฉะนั้นในโอกาสที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครบวาระ ตนในฐานะประธานสภากทม.และสมาชิกทุกคนขอส่งความปรารถนาดีให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีสุขภาพอนามัยที่แข็งแรง เป็นหลักให้กับบ้านเมือง และขอให้ยังมีเจตนารมย์ที่จะทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนหรือทำงานเพื่อบ้านเมืองต่อไป เพราะตนเชื่อว่าประสบการณ์อันยาวนานของผู้ว่าฯกทม. จะเป็นประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพมหานครและพี่น้องชาวไทยทุกคน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพหมานคร กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมานั้น ตนมีความตั้งใจที่จะมาทำงานให้กับบ้านเมือง ตนมีความสุขที่ได้ทำงานกับทั้ง 2 สถาบันของกรุงเทพมหานคร คือ สภากรุงเทพมหานคร และฝ่ายบริหารของกรุงเทพมหานคร ทั้งสองสถาบันนี้มีสถานะและเกียรติยศเท่าเทียมกัน หลายครั้งที่ตนใช้ประสบการณ์จากสภาผู้แทนราษฎรมาดำเนินการในการบริหารราชการกทม. แต่ก็ไม่เคยลุกล้ำทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายสภา สำหรับเรื่องการที่สภากทม. ไม่สามารถประชุมได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุมนั้น ตนเห็นว่าเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็ใช้ทิฐิเข้ามาแข่งขันกัน ซึ่งก็เป็นสิทธิของ แต่ละบุคคล แต่ว่างานของบ้านเมืองก็ยังต้องดำเนินการต่อไป
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในสุดท้ายว่า ตนมีความประทับใจในการทำงานกับสภาท้องถิ่นแม้ว่าจะเป็นสภาเล็กแต่ก็เป็นสภาท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กรุงเทพมหานครนั้นต้องเรียกว่าการปกครองพิเศษ มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร จำนวน 61 คน ซึ่งเป็นสถาบันฝ่ายนิติบัญญัติของกทม. ส่วนฝ่ายบริหารก็มีข้าราชการประจำ คือ ปลัดกรุงเทพมหานครเป็น ผู้บริหารสูงสุด และมีข้าราชการประจำ ข้าราชการครู ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวในสังกัด รวมแล้วประมาณ 78,000 คน ซึ่งเป็นองค์กรที่ใหญ่มาก ดังนั้นตนเห็นว่าสถาบันแห่งนี้จำเป็นจะต้องมีคนที่มีคุณสมบัติที่จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาสามารถนำพา องค์กรแห่งนี้ให้เดินหน้าไปด้วยดี ผู้ว่าฯ คนใหม่จึงต้องเข้ากับสภากทม.ได้ ต้องสามารถบริหารราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสำคัญที่สุด คือ ต้องสามารถร่วมงานต่าง ๆ ในระดับสากลได้--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ