PYLON มั่นใจปีนี้งานฐานรากยังเติบโตได้ดี เล็งขยายฐานธุรกิจออกต่างประเทศรับ AEC

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 30, 2012 14:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--IR PLUS “บดินทร์ แสงอารยะกุล” ผู้บริหาร PYLON มั่นใจครึ่งปีหลังงานรับเหมาฐานรากยังขยายตัวต่อเนื่อง เหตุโครงการรถไฟฟ้าหลายสายเดินหน้า ส่งผลให้งานฐานรากในตลาดฯ ล้นมือ เผยซิวงานใหม่ไปแล้ว 60 ลบ. รอเซ็นสัญญาอีก 90 ลบ. แถมอยู่ระหว่างประมูลงานเพิ่ม 700 ลบ. คาดได้งาน 20 -30 % พร้อมเล็งบุกงานต่างประเทศในแถบอาเซียน หลังเห็นโอกาสเติบโตสูงจาก AEC คาดปีนี้ปั๊มรายได้ตามเป้า 1.2 พันลบ. หายห่วง นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) และงานก่อสร้าง ในปี 2555 ว่า ยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐหลายโครงการ ดังนั้น ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/2555 ที่ผ่านมา ธุรกิจชะลอตัวเนื่องจากผู้ประกอบการหลายรายรอดูผลกระทบจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาล แต่ขณะนี้ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยหลายโครงการเริ่มก่อสร้างทำให้มีงานเข้ามาในตลาดจำนวนมาก อีกทั้งคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะได้แรงหนุนจากโครงการภาครัฐบาลเพิ่มเข้ามาอีกหลายโครงการ โดยล่าสุดมีการลงนามสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ — รังสิต) ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมงานฐานรากอย่างมีนัยสำคัญ “PYLON ในฐานะผู้ประกอบการในธุรกิจฐานรากที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างกว้างขวาง ก็คงจะได้รับผลดีจากการเติบโตของอุตสาหกรรมรับเหมาฐานรากด้วย ซึ่งขณะนี้บริษัทฯได้รับงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเซ็นสัญญาได้รับงานมูลค่าราว 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานโครงการประเภทอาคารสูง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมเพิ่มอีกราว 90 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงานที่ยื่นประมูลไปแล้วและรอผลอยู่มูลค่าราว 700 ล้านบาท แบ่งเป็นงานฐานราก มูลค่า 400 ล้านบาท งานแนวราบ มูลค่า300 ล้านบาท โดย คาดว่าจะได้งานดังกล่าวสัดส่วน 20 — 30% ของมูลค่างานที่เข้าร่วมประมูล นอกจากนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่รับรู้รายได้ในปีนี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2556 ทำให้มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1,200 ล้านบาทตามที่วางไว้ได้” นายบดินทร์กล่าว สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2555 เขากล่าวว่า อาจไม่เติบโตโดดเด่นเหมือนไตรมาสอื่นๆ เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากช่วงวันหยุดที่ติดต่อกันหลายวันทำการ และสภาพอากาศที่มีฝนตกชุก ส่งผลให้บริษัทฯ ทำงานได้ไม่เต็มที่ ประกอบกับในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการหลายรายรอดูความชัดเจนของนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาล ทำให้งานชะลอตัว แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวได้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว และในช่วงครึ่งปีหลังที่ถือเป็นช่วง High Seasonของธุรกิจที่จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่น จากการขับเคลื่อนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ - รังสิต) สัญญาที่ 1 ที่ทางผู้รับเหมาหลักได้เซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งช่วยให้ภาพรวมอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น และมองว่าการเร่งสร้างรถไฟฟ้าหลายสาย จะส่งผลดีต่อ PYLON เพราะบริษัทฯ ได้รับการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งด้านคุณภาพงาน การให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และความเป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านงานฐานรากอย่างแท้จริง และประการสำคัญสามารถรองรับปริมาณงานในตลาดที่เพิ่มขึ้นได้อย่างคล่องตัว ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการทั้งปียังมีทิศทางการเติบโตที่ดีดังกล่าว นายบดินทร์กล่าวอีกว่า นอกจากมุ่งขยายฐานธุรกิจในประเทศแล้ว ขณะนี้บริษัทฯยังเตรียมความพร้อมในการขยายตลาดในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคอาเซียนเพื่อรองรับการเปิดการค้าเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งมองว่าหลายประเทศในอาเซียนกำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและลงทุนในโครงการก่อสร้างจึงเป็นโอกาสที่บริษัทจะรับงานฐานรากในต่างประเทศโดยที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการเจรจาเบื้องต้นและคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ