กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--ททท.
คณะที่ปรึกษา ททท. จัดประชุม "ท่องเที่ยวไทย ความแตกต่างที่สร้างค่า" เตรียมความแข็งแกร่งพร้อมเปิดตลาดเชิงรุกพิชิตคู่แข่งขัน วันที่ : 27 ก.ค. 2547 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) โดยคณะที่ปรึกษาผู้ว่าการ ททท. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง Thai Tourism Forum : Differentiation for Value หรือ "ท่องเที่ยวไทย ความแตกต่างที่สร้างค่า" ขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2547 ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาทิศทาง แนวโน้มการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า พร้อมกับวางกรอบกลยุทธ์เชิงรุกที่มีประสิทธิภาพ หวังผลได้ที่เป็นจริง เพื่อสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ระหว่างผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน ประกอบด้วยบุคลากรจากภาครัฐและเอกชนสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดในสาขาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรูปแบบของการประชุมในวันแรกจะมุ่งเน้นในเรื่องของการระดมความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุม โดยมีการแบ่งกลุ่มการเสวนาตามประเภทของสินค้าทางการท่องเที่ยว 5 ประเภท ได้แก่ Spa (Health and Beauty), Thai Food, Shopping, Soft Adventure and Ecotourism และ Sport ส่ วนในวันที่ 2 จะเป็นการบรรยายพิเศษโดยนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว โดยในเบื้องต้นมีข้อเสนอแนะจากการระดมความคิดเห็นในการประชุมกลุ่มย่อยที่น่าสนใจ อาทิ * สำหรับในกลุ่มของ Thai Food นั้น เสนอให้มีการสร้างแบรนด์อาหารไทย ส่งเสริมให้อาหารไทยเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งของโลก ภายใต้ Theme "Thaifood : first choice for global consumers" โดยเสนอให้มีการสนับสนุนแหล่งเงินทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับร้านอาหารไทย, การกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกร้านอาหารไทยดีเด่นที่มีคนไทยเป็นเจ้าของและมีพ่อครัวคนไทยและเชิญไปออกงานในต่างประเทศ, เน้นการเป็นแหล่งอาหารปลอดภัยโดยกำหนดมาตรฐานของอาหาร, การให้ความรู้ทางด้านโภชนาการ มาตรฐานการปรุงอาหาร รวมทั้งทักษะด้านภาษาอังกฤษแก่พนักงานร้านอาหาร, การให้ความรู้ผู้ผลิดเกี่ยวกับการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันสารพิษตกค้าง, การประชาสัมพันธ์ถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทยรวมถึงมาตรฐานอาหารไทย โดยร่วมกับสมาคมแพทย์แผนไทย, เปิดเว็บไซด์เผยแพร่รายการอาหาร สร้างเรื่องราวความเป็นมาของอาหารไทย (Story) เชื่อมโยงกับเว็บไซด์ท่องเที่ยว, ร่วมกับพันธมิตร เช่น การบินไทย ผลิตภาพยนตร์แสดงเรื่องราวของอาหารไทยและเทคนิคการประกอบอาหารเผยแพร่บนเครื่อง, การส่งเสริมให้มีร้านอาหารไทยแบบฟาสฟู้ด, จัดทำทำเนียบร้านอาหารไทยดีเด่นทั่วโลกและสถาบันการสอนทำอาหารในประเทศไทย รวมทั้งการเปิดอบรมหลักสูตรการประกอบอาหารในลักษณะ Edu Tour ใน สถาบันการศึกษา เป็นต้น * ในกลุ่ม Shopping นั้น มีข้อเสนอที่สำคัญ ได้แก่ การส่งเสริมภาพลักษณ์ การเป็นเมือง Shopping Paradise และบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ, การพัฒนาร้านค้าปลอดภาษีที่สนามบินให้เป็นที่จูงใจนักท่องเที่ยว, การส่งเสริมมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยว, เพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าราคาโรงงานตามแหล่งท่องเที่ยว, ร่วมกับภาคเอกชนจัดทำกลยุทธ์ทางการตลาดที่จูงใจ อาทิ การทำบัตรส่วนลด, เพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าโดยจัดตั้ง Government Shop, จัดทำระบบข้อมูลสินค้า OTOP, จัดตั้งศูนย์รวมสินค้า OTOP ในกรุงเทพฯและจังหวัดหลัก,จัดทำคู่มือการซื้อสินค้า OTOP ในเส้นทางท่องเที่ยว รวมทั้งจัดงานแสดงสินค้า OTOP Road Show ที่ต่างประเทศ * กลุ่ม Sport มีการผลักดันกีฬา 3 ประเภทที่มีศักยภาพในเชิงการท่องเที่ยว ได้แก่ กีฬากอล์ฟ ดำน้ำ และจักรยาน โดยเสนอให้มีการพิจารณาเรื่องภาษีสรรพสามิตของสนามกอล์ฟ, การจัดทำมาตรฐานสนามกอล์ฟให้มีมาตรฐานเดียวกัน, การกระจายการจัดแข่งขัน Thailand Circuit ตามภาคต่าง ๆ, การจัด Pro-Am ให้นักกอล์ฟสมัครเล่นของต่างประเทศเข้ามาแข่งขันกับนักกอล์ฟมืออาชีพในประเทศไทย, การจัดกิจกรรมกอล์ฟสตรี, การส่งเสริมการขายร่วมกับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น สปาและอาหารไทย ในส่วนของกิจกรรมดำน้ำนั้น เสนอให้มีการจัดตั้งสมาคมดำน้ำ, ผลักดันให้มีการออกใบอนุญาตดำน้ำของประเทศไทยที่มีมาตรฐานเทียบเท่าสากล, การออกระเบียบให้ใช้ Dive Master หรือ Dive Leader ที่เป็นคนไทย, การสนับสนุนด้านเงินทุน ให้คนไทยเป็นเจ้าของธุรกิจดำน้ำมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการขายร่วมกับกิจกรรมอื่น ๆ เช่นปีนหน้าผา, พายเรือคะยัค เป็นต้น สำหรับกีฬาจักรยานนั้น เสนอให้มีการจัดการแข่งขันในระดับนานาชาติในประเทศไทย, การจัดการแข่งขันจักรยานร่วมกับกิจกรรมอื่น เช่น พายเรือและว่ายน้ำ รวมทั้งการสำรวจเส้นทางและจัดทำแผนที่สำหรับจักรยานโดยเฉพาะ เป็นต้น * ในส่วนของกลุ่ม Soft Adventure มีข้อเสนอแนะ 3 ประเด็นหลัก คือ ด้าน พื้นที่ มีการผลักดันให้เสนอดงพญาเย็นเป็นมรดกโลก, การดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวประเภท Soft Adventure ในพื้นที่ผืนป่าตะวันตก (Western Jungle Heritage) และพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ (Southern Jungle : Heart of the Peninsula) รวมทั้งพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง สำหรับด้านกิจกรรม เสนอการจัดโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยจักรยานจากเหนือสู่ใต้ หรือตะวันออกจรดตะวันตก ภายใต้ Theme "Paradise of Cycling tour; End to End", การจัดกิจกรรมชมวีถีชีวิตป่า อาทิ Night Safari, Walking Canopy, การดำน้ำเทียม ส่วนด้านการตลาด เสนอให้มีการประกาศปีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของไทย (Ecotourism Year), การจัด Eco-Mart Outdoor Mart รวมทั้งการจัดทำรายงานวิจัยด้านการตลาดในกลุ่ม Ecotourism และการประกาศเมืองต้นแบบของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในประเทศไทย (Eco-Zone)เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญต่อการกำหนดทิศทางการบริหาร จัดการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตามแนวโน้มการเติบโตในระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคณะที่ปรึกษาผู้ว่าการ ททท. จะได้ร่วมกันดำเนินงานตามกรอบแนวทางการพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยวและการวางกลยุทธ์การเปิดตลาดการท่องเที่ยวเชิงรุกและมีส่วนช่วยผลักดันการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องในทิศทางที่เหมาะสมต่อไป
แหล่งข่าว กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ ททท.
โทร.0-2250-5500 ต่อ 1555 - 1563
โทรสาร 0-2250-5681
Web Site : ข่าวประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://www.tat.or.th/pr--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--