อดีตผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจ จูงมือสาวโปรดิวเซอร์บริษัทออร์กาไนเซอร์ยักษ์ใหญ่ เผยความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กับการตัดสินใจเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ ในงาน GRE@T DAY เราทำได้ คุณทำได้

ข่าวทั่วไป Wednesday August 8, 2012 15:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ อาวียองซ์ (aviance) แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม จากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างยูนิลีเวอร์ นำโดย มนต์ชัย เดโชจรัสศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญที่ไม่มีโอกาสใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่า โอกาสที่คุณจะได้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับ ยูนิลีเวอร์ในงาน “GRE@T DAY (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” งานที่คุณจะได้พบกับบุคคลต้นแบบที่ประสพความสำเร็จ มาบอกเล่าประสบการณ์การตัดสินใจครั้งสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ ณ หอประชุมมหิศร ไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก 9 บุคคลต้นแบบที่ประสพความสำเร็จ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การตัดสินใจครั้งสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับยูนิลีเวอร์ เช่น ไพโรจน์ ดิลกพัฒนมงคล Area Executive Business Associate อดีตผู้บริหารระดับสูงรัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ และยังคร่ำหวอดในธุรกิจเครือข่ายมากว่า 20 ปี สุดท้ายค้นพบว่าธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ คือโอกาสที่คนไทยจะสามารถสร้างความสำเร็จระดับโลกได้อย่างแท้จริง เผยว่า “ผมเกิดในครอบครัวคนจีนที่มีพร้อมทุกอย่าง ทั้งธุรกิจที่คุณพ่อทำมีเงินหมุนเวียนสูงถึง 50 ล้านบาทเมื่อสมัย 50 ปีที่แล้ว นับว่าเป็นจำนวนเงินที่มากทีเดียว กระทั่งเมื่อธุรกิจพังลง คุณพ่อเครียดหนักจนล้มป่วยและเสียชีวิต ทำให้ลูกๆ ทุกคนรวมทั้งผมต้องเอาตัวรอดด้วยการเรียนหนังสือให้เก่ง เพื่อที่จะได้ชิงทุนสอบเข้าต่างๆ จนสามารถเข้าเรียนและจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเข้าทำงานที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยถูกส่งไปประจำอยู่ที่อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง กระทั่งแต่งงานมีครอบครัวและทำงานอยู่ที่นั่น 15 ปี จนวันหนึ่งเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานมากโทรศัพท์มาหา และทำให้ได้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายแบรนด์ดังเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ตกลงใจทำควบคู่กับงานประจำ และมีโอกาสเดินทางไปยังอเมริกาได้พบกับนักธุรกิจขายตรงระดับโลก จนกลับมาที่บ้านคุยกับภรรยาว่าเราควรเปลี่ยนให้ธุรกิจเครือข่ายนี้เป็นธุรกิจหลัก กระทั่ง 5 ปีผ่านไปประเทศไทยเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ธุรกิจเครือข่ายดังกล่าวจึงเลิกรากันไป ต่อมาผมได้เปิดบริษัทด้านวิศวกรรมขึ้น กิจการไปได้ดีแต่แล้ววันหนึ่งเพื่อนคนนี้ ก็โทรหาอีกครั้งพร้อมกับให้เปิดใจรับธุรกิจเครือข่ายอันใหม่ ซึ่งก็คือธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ จึงได้ลองค้นคว้าหาข้อมูล พบว่ายูนิลีเวอร์เป็นบริษัทยิ่งใหญ่เพียงใด และพอมองข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ก็พบว่าส่วนใหญ่มาจากบริษัทยูนิลีเวอร์ทั้งสิ้น และเมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารทำให้ตัดสินใจสมัครทำธุรกิจทันทีด้วยเงินเพียง 600 บาท แม้ว่าในเดือนแรกจะได้รับรายได้ตอบแทนเพียง 495 บาท 6 เดือนต่อมารับรายได้ 6 หมื่นกว่าบาท 11 เดือนต่อมา รับรายได้ 1 แสนบาท ปัจจุบันผมทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์มาแล้วเป็นเวลา 9 ปีครับ มีรายได้สะสมเกิน 16 ล้านบาท และต้องบอกว่าที่ผ่านมาธุรกิจเครือข่ายมีต้นกำเนิดมาจากทางฝั่งอเมริกา แต่ยูนิลีเวอร์เปิดโอกาสให้ประเทศไทยได้เป็นประเทศต้นกำเนิดธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ที่เวลานี้ได้ขยายธุรกิจก้าวไกลไปแล้วทั้งในกัมพูชา และมาเลเซีย และยังมีลู่ทางที่จะขยายธุรกิจนี้ไปยังประเทศอื่นๆ ได้อีกมากมาย ซึ่งผมมองว่าจุดนี้ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ถ้าทำได้อนาคตมหาเศรษฐีก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เมื่อผมทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน” ด้านสาวโปรดิวเซอร์บริษัทออร์กาไนเซอร์ยักษ์ใหญ่ ปารณีย์ บู้หลง Area Executive Business Associate ที่ครั้งหนึ่งเกิด วิกฤตครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต จนต้องกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว ในความมืดกลับมีแสงหนึ่งจากธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ที่จุดประกายความหวังและความฝัน เผยว่า “หลังเรียนจบได้แต่งงานกับนายตำรวจที่แม้ว่าใครๆ จะเรียกดิฉันว่า “คุณนาย” แต่ในความเป็นจริงรายได้ 2 คนรวมกันไม่กี่หมื่นบาท ทำให้คุณนายคนนี้ต้องทำงานหนัก ถ้าที่ทำงานมีทำโอที จะต้องมีดิฉันทำงานอยู่ด้วย กระทั่งวันที่คลอดลูกสาว เพื่อนคนหนึ่งที่ไม่ได้คุยกันมานานร่วม 2 ปี เพราะเมื่อ 2 ปีที่แล้วเพื่อนคนนี้เคยชักชวนให้รู้จักกับธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ แต่ด้วยความที่เวลานั้นใจไม่เปิดรับ เวลาเพื่อนโทรหาจึงไม่คุย ไม่รับสาย กระทั่งเพื่อนคนนี้มาเยี่ยมในวันที่คลอดลูกสาว จึงได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเขาที่ดูดีขึ้น พร้อมมีรถเก๋งป้ายแดงขับมาหา จึงถามเพื่อนไปว่าไปทำอะไรมา ทำไมดูดีขึ้น และบอกเราได้ไหมว่าตอนนี้มีรายได้อยู่ที่เท่าไร เพื่อนคนนี้ตอบว่า เราก็ทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ที่เราเคยชวนเธอไง ตอนนี้เรามีรายได้ต่อเดือน 7 หมื่นกว่าบาท วันนั้นไม่รอเพื่อนชวนแล้วค่ะ บอกเพื่อนคนนี้ทันทีเราอยากทำ และเพื่อนคนนี้ก็ชวนให้มาศึกษาธุรกิจที่ เอสซีบี ปาร์ค ตัดสินใจสมัครด้วยเงินลงทุนเพียง 600 บาท พร้อมกับศึกษาธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์อย่างจริงจัง จนเมื่อสามีรู้เข้าพร้อมคำพูดที่เสียดแทงใจว่า “ถ้าทำแล้วเป็นหนี้เป็นสิน ไปเจอกันที่อำเภอ” เวลานั้นเสียใจค่ะ ที่เราต้องการให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น แต่ดิฉันก็ยังคงทำธุรกิจนี้ต่อไป โดยมีหลักเพียงแค่ซื้อสินค้า เรียนรู้ ชักชวนคน เดือนแรกที่ทำได้รับรายได้ 4 พันกว่าบาท 3 เดือนต่อมาดิฉันรับรายได้ 15,000 บาท เวลานั้นครอบครัวเราเริ่มดีขึ้น เพราะสภาพทางการเงินคล่องขึ้น และเวลาแห่งความสุขมันช่างสั้นนัก เมื่อวันหนึ่งดิฉันได้รับข่าวร้ายว่า สามีถูกคนร้ายลอบยิงกระสุนถูกอวัยวะสำคัญหลายแห่ง เป็นผลทำให้ต้องกลายเป็นผู้พิการไม่สามารถเดินได้ เวลานั้นไม่รู้ว่าจะหาเงินได้มาจากที่ไหน ช่วงเวลาที่กำลังสับสนในมือก็ถือใบเสร็จเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล เพียงคืนเดียวที่สามีนอนรักษาตัว ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บร่วม 3 แสนบาท แต่ดิฉันสามารถเบิกจากต้นสังกัดได้เพียง 3 พันบาท มีวิธีเดียวเท่านั้นที่จะสามารถช่วยดิฉันได้คือธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ เวลากลางวันเป็นเวลาของงานประจำ แต่เมื่อเลิกงานเป็นเวลาของธุรกิจ เวลานั้นเพียงเดือนเดียวดิฉันสามารถสร้างรายได้ 3 หมื่นบาท เพื่อนที่เป็นอัพไลน์บอกลาออกเถอะ เพื่อจะได้ทำธุรกิจอย่างเต็มที่เต็มเวลา ดิฉันตัดสินใจลาออก ทำให้ดิฉันมีเวลาดูแลสามีที่โรงพยาบาล พร้อมเลี้ยงลูกสาววัย 11 เดือนควบคู่กัน และทำธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์อย่างเต็มที่ ทำให้รายได้พุ่งขึ้นเป็น 9 หมื่นกว่าบาท ดิฉันต้องอดทนกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย แต่เมื่อดิฉันมีเป้าหมายดิฉันยอมให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นพูดกันไป จนในที่สุดผ่านไปแล้ว 5 ปี ดิฉันมีรายได้เลข 6 หลักรับรายได้ต่อเดือน 3 แสนบาท ดิฉันสามารถเติมเต็มความฝันจากที่เคยอยู่บ้านพักข้าราชการ เวลานี้มีบ้าน มีรถยนต์ และยังสามารถซื้อรถเข็นแพงๆ ที่สั่งทำขึ้นพิเศษจากต่างประเทศสำหรับสามีของดิฉันโดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่เขา ธุรกิจนี้ไม่เพียงจะให้รายได้ที่งดงามกับดิฉัน ยังทำให้ดิฉันมีเวลาไปรับไปส่งลูก หรือไปเฝ้ารอลูกก่อนที่โรงเรียนเลิก เพื่อรับเขากลับบ้าน และธุรกิจนี้ยังทำให้ดิฉันมีโอกาสพาครอบครัวที่ไม่ใช่แค่สามีและลูก แต่เป็นคุณแม่และคุณยายได้ร่วมเดินทางไปต่างประเทศกับครอบครัวเรา ไม่ว่าจะเป็นทริปเกาหลี หรือจีน ยังไม่นับรวมอีก 10 กว่าประเทศก่อนหน้านั้นที่ดิฉันได้เดินทางไปเพราะธุรกิจนี้ แม้กระทั่งวิกฤตล่าสุดที่เพิ่งผ่านพ้นไปกับเหตุการณ์น้ำท่วม ที่บ้านของดิฉันก็ประสบภัยครั้งนี้เช่นกัน ดิฉันไม่สนใจหรือลังเลอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ซ่อมบ้านพร้อมสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่โดยไม่ต้องลังเลถึงสตางค์ในกระเป๋า ดิฉันมองว่าจะมีธุรกิจใดที่จะทำให้เราสามารถชื่นชมยินดีได้ในทุกๆ วัน แม้ว่าในทุกๆ วันนั้นจะมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายผ่านเข้ามาก็ตาม ดังนั้นเมื่อดิฉันทำได้ คุณก็ทำได้เช่นกัน” เต็มอิ่มกับประสบการณ์ความสำเร็จจากผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายอาวียองซ์ ในงาน “GRE@T Day (เกรท เดย์) เราทำได้ คุณทำได้” ที่มาร่วมแชร์แบ่งปันเส้นทางสู่ความสำเร็จ ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้พบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิต เพราะอาวียองซ์เชื่อว่า “เราทำได้ คุณทำได้” มนต์ชัย เดโชจรัสศรี (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับบุคคลต้นแบบที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์แห่งความสำเร็จ จากซ้าย 1.วัฒนา จำชาติ Group Executive Business Associate 2.ศิรินทร์ทิพย์ เปรมจิตต์ Executive Business Associate 3.จิตพิสุทธิ วงษ์บุตร Executive Business Associate 4.ปารณีย์ บู้หลง Area Executive Business Associate 5.จิรชีพ เฮ้ง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ — อาวียองซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด 6. ไพโรจน์ ดิลกพัฒนมงคล Area Executive Business Associate 7.รุ่งนภา ประจวบพันธ์ศรี Team Business Associate 8. เปมิกา ถิรเจือเจริญ Executive Business Associate 9. รัชพล เกิดสว่างเนตร Executive Business Associate

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ