กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--อาร์ค เวิลด์ไวด์
ความประทับใจแรกเพียงไม่กี่วินาที อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตไปสู่หน้าที่การงานอันก้าวหน้า หรือ ความรักสุดแสนหวาน เพราะช่วงเวลาสั้นๆ นี้จะเป็นตัวดึงดูดให้คนอื่นอยากเข้ามารู้จักเรา ดังนั้น เราจึงไม่ควรมองข้ามการเตรียมตัวให้พร้อมสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ สิ่งสำคัญที่จะช่วยเนรมิตรูปลักษณ์ที่ปรารถนานั้นประกอบไปด้วย เสื้อผ้าดูดีมีสไตล์ บุคลิกที่มั่นใจ และอีกสิ่งที่ควรให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ คือ เส้นผม ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญสะดุดสายตาทุกคน เพราะผมสุขภาพดีเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าคุณเป็นคนใส่ใจดูแลตนเองมากเพียงไร
ว่าแล้วสาวๆ ก็พากันเสาะหาวิธีร้อยแปดมาดูแลเส้นผมให้สวยสุขภาพดี เริ่มจากการเข้าซาลอนอบไอน้ำ เคลือบสีผม ที่เห็นผลทันใจในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ด้วยราคาที่สูงจนอาจทำให้กระเป๋าฟีบ เห็นทีจะสู้ไม่ไหว เลยต้องลองเปลี่ยนมาใช้วิธีธรรมชาติ ชโลมน้ำมันมะกอก หมักไข่แดงแทน ซึ่งขัดกับตารางงานที่แน่นเอี๊ยด จนไม่มีเวลามานั่งเตรียมส่วนผสมที่ยุ่งยากมากมายเหล่านี้ สุดท้าย วิธีดีและง่ายที่สุดคงหนีไม่พ้น การใช้ทรีทเมนท์สูตรเข้มข้นมาบำรุงเส้นผมเองที่บ้าน
แม้การใช้ทรีทเมนท์บำรุงผมดังกล่าวจะมีข้อดีมากมายหลายประการ ทั้งช่วยให้ผมนุ่มชุ่มชื้น หวีง่ายไม่พันกัน แต่ใครจะรู้ว่าทรีทเมนท์บำรุงเส้นผมดังกล่าวอาจแฝงมาด้วยปัญหาที่ทำให้สาวๆ ต้องหนักใจยิ่งกว่า เพราะทรีทเมนท์ที่เข้มข้นเกินไปทำให้เส้นผมหนัก และเหนียวเหนอะหนะ กลายเป็นว่าพอผมนุ่มลื่น ชุ่มชื้น ก็จะดูลีบแบน ไร้ชีวิตชีวา จนสาวๆ ต้องยอมทำใจ อดมีผมพลิ้วสวยเป็นธรรมชาติอย่างที่ฝัน
ทั้งนี้ ไลเอซ โคล (Lais Koelle) นักวิทยาศาสตร์จาก แพนทีน โปร-วี เผยผลการศึกษาค้นคว้าถึงสาเหตุว่า “เส้นผมของคนเราโดยธรรมชาติแล้วจะมีความนุ่มสลวยอยู่ในตัว แต่เมื่อผมถูกสารเคมีทำลายจากการดัด ไดร์ หรือทำสี เกล็ดผมก็จะเปิดออก จึงทำให้เส้นผมหยาบกระด้าง พันกัน และเปราะขาดได้ง่าย ซึ่งคนส่วนใหญ่จะหาทางฟื้นฟูสภาพเส้นผม ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม อาทิ ครีมนวดผม ทรีทเมนท์ ลีฟออน หรือ อินเทนซีฟ มาส์ก เพื่อเพิ่มมอยส์เจอร์ไรเซอร์ พร้อมเคลือบบำรุงให้เกล็ดผมวางตัวเรียบสม่ำเสมอ แต่หารู้ไม่ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อสารบำรุงเพื่อให้เกาะตัวอยู่บนเส้นผมยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งหมายถึงจำนวนโมเลกุลของสารบำรุงกว่าล้านโมเลกุลจะอยู่กับเส้นผม จึงไม่น่าสงสัยว่าทำไมผมที่ได้รับการบำรุงมากๆ จะรู้สึกหนัก และไม่พลิ้วสวย”
จากการศึกษาดังกล่าวจึงเป็นแรงบันดาลใจให้ แพนทีน โปร-วี คิดค้นและพัฒนาส่วนผสมภายในสูตร ด้วยการผสานสุดยอดเทคโนโลยี โปร-วี เข้ากับพลังมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ จนออกมาเป็นสูตรเฉพาะ แพนทีน โปร-วี เนเจอร์ แคร์ สมูทเนส แอนด์ ไลฟ์ (Pantene Pro-V Nature Care Smoothness and Life) เพื่อเนรมิตเส้นผมในฝันของผู้หญิงทุกคน ให้นุ่มลื่น พลิ้วสวยเป็นธรรมชาติ
“แพนทีน โปร-วี เนเจอร์ แคร์ สมูทเนส แอนด์ ไลฟ์ เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ได้นำเทคโนโลยีเฉพาะ โปร-วี รวมเข้ากับส่วนประกอบสำคัญจากธรรมชาติ แคสเชีย คอมเพล็กซ์ (Cassia Complex) เสริมด้วยคุณค่าจาก อโลเวร่า (Aloe Vera) คาเลนดูล่า (Calendula) และ จินเจอร์ (Ginger) โดย คุณสมบัติของแคสเชียจะช่วยยับยั้งไม่ให้โมเลกุลของสารบำรุงเคลือบตัวอยู่บนเส้นผมมากจนเกินไป และช่วยการกระจายการบำรุงให้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผมเบาสบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ นอกจากนี้ เทคโนโลยี โปร-วี และ แคสเชีย คอมเพล็กซ์ จะเข้าเคลือบปิดเกล็ดผม รักษาสมดุลของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ลดการเสียดสีระหว่างเกล็ดผมเส้นต่อเส้น ผมจึงนุ่มลื่นและชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี เมื่อใช้ควบคู่กันอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ขั้นตอน แชมพู, คอนดิชั่นเนอร์ และ อินเทนซีฟ แฮร์ มาส์ก จะยิ่งมอบผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น” ไลเอซ โคล เสริม
เท่านี้ สาวๆ ก็เตรียมมีผมนุ่มลื่น พลิ้วสวย สุขภาพดี สะกดสายตาจนทุกคนต้องหลงไหลประทับใจได้แล้ว