กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,615 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,613 (22.30น.)เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.48 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,950 บาท กับ 24,050 บาท และกลับมาปิดที่ 24,000 บาท กับ 24,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,856 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,402 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 128 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.3% แบบ 10 บาท ลดลง 2.7% Silver Futures เพิ่มขึ้น 2.3% GFQ12 ปิดที่ 24,180 บาท และ GFV12 ปิดที่ 24,300 บาท และ GF10Q12 ปิดที่ 24,200 บาท และ GF10V12 ปิดที่ 24,300 บาท SVQ12 ปิดที่ 880 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,620 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 2.2 เซนต์ ปิดที่ระดับ 28.09 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,254.94 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์/เซนต์ ปิดที่ระดับ 93.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 10.45 จุด ปิดที่ระดับ 13,165.19 จุด
Ratio Gold / Silver 58 เท่ากับ ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest
ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ในช่วงแรกปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดในรอบวัน จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีอิทธิพลต่อตลาดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามภายหลังราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 4.2 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,620.2 เหรียญต่อออนซ์ ในการซื้อขายที่เบาบางต่ำกว่า 70,000 ล็อต ซึ่งเป็นระดับประมาณ 60% ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 30 วัน และเป็นปริมาณต่ำที่สุดในปีนี้ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการชะลอตัวในการเติบโตของผลผลิตโรงงานของจีนประจำเดือนกรกฎาคมที่ออกมาอ่อนแอที่สุดในรอบมากกว่า 3 ปี ทำให้เกิดความคาดหวังจากนักลงทุนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจระดับต้นๆ ของโลก ซึ่งอาจเป็นการกระตุ้นความต้องการในทองคำได้
นอกจากนี้ ตัวเลข CPI ประจำเดือนกรกฎาคมของจีนที่ประกาศออกมาเมื่อช่วงเช้าวานนี้สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 30 เดือนชี้ให้เห็นว่า ธนาคารกลางของจีนอาจติดตามผลการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนและเดือนกรกฎาคมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
การที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟดและอีซีบีหรือไม่ อาจทำให้ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 15 เหรียญในสัปดาห์นี้ระหว่าง 1,602 — 1,617 เหรียญ
โบรกเกอร์ มาเร็กซ์ สเป็กตรอน ระบุว่า การที่ไม่มีข่าวใหม่ในเรื่องการผ่อนคลายการเงินจากยูโรโซนและสหรัฐ ก็อาจยังคงเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบเช่นนี้ต่อไป ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่มีการปรับตัวสูงขึ้นจากความคาดหวังในเรื่องที่จีนอาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาช่วงค่ำเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐประจำเดือนเมษายนหดตัวลง 10.7% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.292 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยเป็นผลมาจากตัวเลขนำเข้าที่ร่วงลงเพราะราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง ขณะที่การส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ส.ค. ลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ 361,000 ราย บ่งชี้ตลาดแรงงานอาจเริ่มปรับตัวมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความผิดหวังว่าจะได้รับการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณหรือ QE
นอกจากนี้ นักลงทุนในทองคำแท่งดูจะยังคงรออยู่นอกตลาดเพื่อรอสัญญาณจากนายเบน เบอร์นันเก ประธานเฟดที่จะมีการประชุมกับสมาชิกเฟดในแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 31 สิงหาคม
ปริมาณความต้องการทองคำในอินเดียยังคงเบาเบาง ตามที่อินเดียอยู่ในช่วงฤดูลมมรสุมอ่อนแอและราคาทองคำที่อยู่ในระดับสูงทำให้นักลงทุนยังไม่เข้าซื้อทองคำ โดย Dealer ทองคำแท่งคาดหวังให้ช่วงเทศกาลต่างๆ จะดึงปริมาณความต้องการทองคำกลับมา
บริษัท ทอมสัน ครีก เมเทิล โค ได้ปรับปรุงแก้ไขข้อตกลงการไหลเวียนของทองคำกับบริษัทรอยัล โกลด์ ซึ่งทำให้บริษัทรอยัล โกลด์จะซื้อผลผลิตทองคำบริสุทธิ์เพิ่มเติม 12.25% จาก เอ็มที มิลิแกน คอปเปอร์ โกลด์ ไมน์ จำนวน 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 435 เหรียญต่อออนซ์
CNBC
ในสัปดาห์นี้มีผลสำรวจของรอยเตอร์ที่ระบุว่า มีความเป็นไปได้ 68% ที่สเปนจะรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรปก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ได้ลดมุมมองทางเศรษฐกิจในปี 2013 ของกรีซ โปรตุเกสและสเปนลง และกล่าวว่า ประเทศต่างๆ ดังกล่าวจะล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายยอดขาดดุลที่ตกลงไว้กับคณะกรรมาธิการยุโรป ทั้งนี้ท่ามกลางกลุ่มประเทศในยูโรโซนมีเพียงประเทศไอร์แลนด์ที่การเติบโตของเศรษฐกิจจะกลับมาสู่ระดับปานกลางในเร็ววัน ในขณะที่ผลสำรวจชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ลดลงที่กรีซอาจออกจากยูโรโซน โดยมีการเน้นมาที่สเปนแทนว่าเป็นจุดโฟกัสใหม่ของวิกฤตหนี้สาธารณะ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Trade Balance เดิมอยู่ที่ระดับ -48.0B ตัวเลขออกมาจริงปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ -42.9B
- Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 367K ตัวเลขออกมาจริงปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับ 361K
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Import Prices เดิมอยู่ที่ระดับ -2.7% คาดการณ์ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.1%
- Federal Budget Balance เดิมอยู่ที่ระดับ -59.7B คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ -103.0B
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการสะสมพลัง โดยเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,610 — 1,620 เหรียญ ท่ามกลางข่าวเศรษฐกิจที่เบาบาง แล้วก็กำลังรอข่าวใหม่ๆ ซึ่งยังคาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ ในวันศุกร์ ตัวเลขทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ในขณะที่การคาดหวังว่า ตัวเลข Federal Budget Balance จะมีการติดลบมากขึ้นจากระดับติดลบ 59.7 พันล้านดอลลาร์เป็นติดลบ 103 พันล้านดอลลาร์ ในเชิงเทคนิคจะเห็นได้ว่าราคาทองคำทรงตัวอยู่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,615 — 1,620 เหรียญ โดยที่ถ้าสามารถทะลุ 1,620 เหรียญได้ จะมีแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ 1,632 เหรียญ ในขณะที่แนวรับด้านล่างอยู่ที่ระดับ 1,600 เหรียญ ค่าเงินบาทของไทยยังทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 31.47 — 31.52 บาท/ดอลลาร์ ราคาน้ำมัน NYMEX ทรงตัว ปิดที่ระดับ 93.36 ดอลลาร์/บาเรล ดาวโจนส์ปิดลดลงเล็กน้อย ในเชิงเทคนิคยังคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวทิศทาง Sideway ต่อไปก่อน ค่าเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.2296 ดอลลาร์/ยูโร
Gold Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,300 บาท
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,420 บาท
Silver Futures Q12 จะมีแนวรับที่ระดับ 870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 900 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบดังกล่าว ซึ่งช่วงนี้คงจะทำกำไรได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากราคาเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของเงินบาทจะเห็นได้ว่า การเคลื่อนตัวของ Gold Futures และทองแท่งจะเคลื่อนตัวในกรอบ 50 — 100 บาท/บาททองคำเท่านั้น ซึ่งเป็นลักษณะของกราฟทางเทคนิคที่ราคากำลังบีบเข้าช่วงปลายของรูปของ Ascending Triangle โดยด้านบนอยู่ที่ระดับ 1,620 เหรียญ ส่วนด้านล่างขยับอยู่ที่ 1,610 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ยังเป็นทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว ถือครองพอร์ท 30%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังเป็นทยอยซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวเช่นเดียวกัน ถือครองพอร์ท 20%
สรุป ราคาทองคำน่าจะเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นได้ในช่วงเดือนหน้า ซึ่งน่าจะมีโอกาสเป็นการขึ้นได้มากกว่าลง และมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 70 เหรียญด้วยซ้ำ จึงแนะนำให้นักลงทุนใช้เวลาช่วงนี้ในการศึกษาเรื่องการลงทุนและทยอยเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง หาจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง