CCP โชว์ผลประกอบการ กำไรสุทธิไตรมาส 2 โตถล่มทลาย 1,741.37%

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 10, 2012 16:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--เวิร์คลิ้งค์ ดาเอเจนซี่ CCP โชว์ผลประกอบการ กำไรสุทธิไตรมาส 2 โตถล่มทลาย 1,741.37% ขณะที่ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 1,204.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 66.42 ล้านบาท คอนเฟริ์มธุรกิจคอนกรีตครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง เอกชนขยายการลงทุนทั่วประเทศ ความต้องการตลาดสูง โอกาสคว้างานใหม่เพียบ ส่วนระยะยาวเมกะโปรเจกต์รัฐหนุน ประกาศพร้อมลุยทุกโครงการ นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2/55 ว่า บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 625.66 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 526.74 ล้านบาท จำนวน 98.92 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.77% และมีกำไรสุทธิ 32.04 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.74 ล้านบาท จำนวน 30.3 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,741.37% ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรกปี 55 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,204.22 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,105.76 ล้านบาท จำนวน 98.46 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.9% และมีกำไรสุทธิ 66.42 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.5 ล้านบาท จำนวน 59.92 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 921.84% ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโต เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของโครงการก่อสร้างต่างๆ ทั้งงานโครงการใหม่และงานบูรณะซ่อมแซม จึงส่งผลให้มีความต้องการวัสดุก่อสร้าง เช่น คอนกรีตสำเร็จรูป ผนังคอนกรีต อิฐมวลเบา รวมไปถึงวัสดุก่อสร้างอื่นๆปรับตัวเพิ่มขึ้น และยังมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงทำให้มีการปรับเพิ่มขึ้นของราคา นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของรายได้ในทุกหน่วยธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนผสมเสร็จและผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป ธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง และธุรกิจผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบา ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 17% ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 13.32% ส่วนมูลค่างานในมือของบริษัท ณ เดือน มิ.ย. 2555 อยู่ที่ประมาณ 2,110 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 18 เดือน ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปัจจุบัน แบ่งออกเป็นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ประมาณ 35 - 40 % ปูนผสมเสร็จ (Ready Mix) ประมาณ 60 - 68 % ของบริษัทแม่ ซึ่งบริษัทแม่มีรายได้รวมคิดเป็น 59.25% ของกลุ่ม บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด อยู่ที่ 15.85% และบริษัท ชลบุรีกันยง จำกัด อยู่ที่ 24.90% นายชาคริต กล่าวต่อไปว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ธุรกิจคอนกรีตยังมีแนวโน้มขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี โดยปัจจัยสนับสนุนเกิดจากการลงทุนโครงการก่อสร้างภาคเอกชน ซึ่งมีการเติบโตที่ค่อนข้างโดดเด่น โครงการก่อสร้างกระจายตัวสู่ภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของการย้ายฐานการผลิต การขนส่ง การเติบโตของที่อยู่อาศัยในหัวเมืองต่างๆ ขณะที่การลงทุนในโครงการภาครัฐคาดว่าจะทยอยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ทั้งนี้การขยายตัวของงานก่อสร้างดังกล่าว ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากทำให้ความต้องการคอนกรีตปรับตัวสูงขึ้น และมีโอกาสในการเข้ารับงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของงานคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างมากเพราะสามารถผลิตรอตามความต้องการของผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการได้ ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน การขาดแคลนวัตถุดิบหิน ทราย ที่อาจส่งผลกระทบต่อระยะเวลาและต้นทุนในการก่อสร้าง “ธุรกิจคอนกรีตรวมไปถึงวัสดุก่อสร้างเป็นช่วงขาขึ้น และคาดว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี เนื่องจากภาครัฐมีการลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์จำนวนมาก อาทิ รถไฟฟ้าสายต่างๆ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก (อีสเทิร์นซีบอร์ด) การก่อสร้างขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ฯลฯ และในส่วนของโครงการภาคเอกชนความต้องการใช้งานในตลาดยังอยู่ในระดับสูง ตามการขยายตัวของโครงการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ”นายชาคริต กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ