กรุงเทพฯ--14 ส.ค.--นานมี
ทุกวันนี้ปัญหาปากท้อง การทำมาหากิน สภาพการแข่งขันในหน้าที่การงาน และความขัดแย้งในสังคมนำมาซึ่งความเครียด หลายคนเลือกจะเดินทางไปแสวงหาความสุขและเติมพลังจากธรรมชาติ ซึ่งบางครั้งความสุขที่ได้ก็มักมีราคาแพง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสุขเป็นสิ่งที่หาได้ใกล้ๆตัว บริษัท นานมี จำกัด ได้จัดกิจกรรม เวิร์คชอปสีน้ำ “หอมดอกไม้ ไอความสุข” ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะได้ชิ้นงานสวยๆแล้ว ยังบ่งบอกและทำให้หลายท่านได้คิดถึงสัจธรรมและหลักธรรมที่ค้นพบได้ด้วยตนเอง
ปรีญาณี สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมี จำกัด กล่าวว่า นานมีจัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น โดยหวังอยากให้ลองลดความเป็นวัตถุนิยมลง มองหาความสุขใกล้ตัวที่เรียบง่าย เช่นดอกไม้ต้นไม้ที่อยู่ในบ้านของเรา มาถ่ายทอดออกมาเป็นงานศิลปะ เราสามารถเรียนรู้และชื่นชมกับความงดงามของธรรมชาติผ่านงานศิลปะด้วยดอกไม้ เพราะดอกไม้เป็นเครื่องมือที่ทำให้ใกล้ชิดธรรมชาติได้ง่ายๆ และไม่ต้องเสียสตางค์แพงๆเพื่อเดินทางออกไปต่างจังหวัดและไม่เสียเวลา เพียงหาดอกไม้จากริมรั้วหรือการซื้อหาจากตลาดใกล้บ้าน เพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะเรียนรู้ธรรมชาติได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดความรักและหวงแหน และอยากจะช่วยปกป้องและรักษาธรรมชาติให้คงอยู่ตลอดไป
อ.อิงอร หอมสุวรรณ์ กล่าวถึงเคล็ดลับของการวาดภาพระบายสีดอกไม้ว่า สิ่งสำคัญที่ทำให้วาดภาพระบายสีดอกไม้ได้สวย คือต้องรู้จักพินิจพิเคราะห์ให้เป็น เดิมที่เคยมองเห็นดอกไม้เพียงผ่านๆไม่ได้ใส่ใจ ลองหัดสังเกตดอกไม้จริงๆตามธรรมชาติ ว่าประกอบด้วยส่วนใดบ้าง มีรูปทรงเป็นอย่างไร มีสีที่มีความหลากหลายและไม่ได้เป็นสีเดียวกันตลอด เพราะธรรมชาติได้รังสรรค์งานศิลปะออกมาเป็นสีสันที่มีทั้งอ่อน แก่ หนัก เบา เป็นสีที่ผสมผสานกันหลายๆสี ซึ่งดอกไม้แต่ละชนิดก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน เราจึงได้เรียนรู้ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สรรค์สร้างดอกไม้ กลีบ เกสร ก้าน ใบ ลำต้น หนาม เรียนรู้ผ่านการมอง สัมผัสจับต้อง และดม เมื่อรู้จักดอกไม้แล้วก็จะสามารถวาดออกมาได้ตามความเป็นจริง ถ่ายทอดออกมาผ่านเส้นตรง โค้ง หงิกหงอ รูปทรง เหลี่ยม กลม รี และระบายสีที่มาจากการผสมเข้มข้นหรือเจือจางได้ตามที่ได้สัมผัสและเรียนรู้ด้วยตนเอง เราจะมองเห็นคุณค่าของธรรมชาติว่าดอกใบของดอกไม้แม้ไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่ก็ยังมีความสวยงาม เช่นเดียวกับคนเราที่ไม่ได้ดีพร้อมไปทุกอย่างแต่ทุกคนก็มีคุณค่าในตัวเอง และเราควรเคารพในคุณค่าของทุกสิ่งรอบตัว
ศ.คลินิก พญ.วินัดดา ปิยะศิลป์ คุณหมอเล่าว่า เมื่อก่อนเป็นคนใจร้อนมาก เมื่อมาเรียนและทดลองทำงานศิลปะพบว่าทำให้ใจเย็นขึ้น มีสมาธิอย่างเห็นได้ชัดเลย มองโลกช้าลงและมองสิ่งต่างๆด้วยความพินิจพิเคราะห์และถี่ถ้วนมากขึ้น เช่นเดียวกับเมื่อมองดอกไม้ เห็นความอ่อนช้อยของรูปทรง กลีบแต่ละกลีบ ใบแต่ละใบ เมื่อมองอย่างลึกซึ้งจะพบว่าแตกต่างกัน แต่เพราะความไม่เหมือนกันนี่เองที่ทำให้สวยและมีคุณค่า เฉกเช่นคนเราที่มีความแตกต่างภายนอกและภายใน อ้วนต่ำดำขาว มีทั้งคนดีและคนไม่ดี เราจะได้รู้จักมองคนอย่างลงรายละเอียดมากขึ้น และความหลากหลายนี้หากเรารู้จักยอมรับและเข้าใจคนที่แตกต่างกันได้ก็จะพบความสุข สำหรับงานศิลปะที่ใช้สีน้ำมองว่าท้าทายและมีเสน่ห์มาก เพราะการทำงานศิลป์โดยใช้สีน้ำ จำเป็นต้องมีการวางแผนเพราะต้องใช้ความรวดเร็วในการลงสี การจะแต่งแต้มจรดปลายพู่กันแต่ละครั้งทำให้รู้จักคิดก่อนเสมอ
ณรงค์ บุตรจันทร์ อดีตวิศวกรที่ปัจจุบันเกษียณอายุมาหลายปีแล้วเล่าว่า ตอนแรกก็เรียนรู้ธรรมชาติผ่านเลนส์ก่อนด้วยการตระเวนถ่ายรูปไปทั่ว แต่เมื่ออายุมากขึ้นการเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้แบกอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีน้ำหนักมากเพื่อไปสัมผัสกับธรรมชาติไกลๆนั้นดูจะเป็นอุปสรรคไปเสียแล้วด้วยสังขารที่ร่วงโรยไปตามกาลเวลา คุณลุงเล่าว่า การสร้างสรรค์งานศิลปะด้วยสีน้ำ เป็นความสนุกที่คนสูงวัยทำได้ไม่ยาก สร้างสมาธิ ทำให้รู้จักอยู่กับตนเอง อยู่กับสภาวะของจิตในขณะที่วาดและระบาย ด้วยอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพง สามารถทำที่บ้านได้เอง เริ่มจากการหาดอกไม้ต้นไม้มาเป็นต้นแบบในการวาดและระบายสี ดอกไม้ที่ทับซ้อนกันเป็นชั้นเป็นช่อที่ละเอียดมีใบแตกกิ่งก้านสาขามากมาย หากเราเก็บรายละเอียดทั้งหมดจะทำให้เราต้องวาดภาพที่ใหญ่และมีรายละเอียดมากเกินไปจนเราเหนื่อย จึงควรรู้จักโครงสร้างของรูปที่จะวาด ตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เช่นเดียวกันในชีวิตคนเราก็ควรปล่อยวาง มองข้ามสิ่งที่ทำให้เกิดทุกข์ เกิดความไม่สบายใจ เกิดความขุ่นข้องหมองใจ เลือกมองในสิ่งที่ดี สิ่งที่ทำให้เรามีความสุข เพียงเท่านี้ความสุขก็มาหาและอยู่กับเราได้ง่ายๆ
เสน่ห์ของงานศิลปะคือ ความสุขไม่ได้เกิดจากผลสำเร็จของชิ้นงานที่ทำ แต่เป็นความสุขในระหว่างที่ได้ลงมือทำ ทั้งจิตที่ได้อยู่กับตัวเองและแผ่นเฟรมเบื้องหน้า และความผูกพันที่ได้จากคนข้างๆสัมผัสกับความปรารถนาดีระหว่างกันในกลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักและสนใจในงานศิลปะเช่นเดียวกัน