ปตท.สผ. ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้น Cove

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 17, 2012 14:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ส.ค.--ปตท.สผ. นายเทวินทร์ วงศ์วานิช (Mr. Tevin Vongvanich) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า บริษัท PTTEP Africa Investment Limited หรือ PTTEP AI ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.สผ. ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้นของ Cove Energy Plc. โดยเมื่อ วันที่ 15 สิงหาคม 2555 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรณี (Minister of Mineral Resources) สาธารณรัฐโมซัมบิกได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงผู้ถือสัดส่วนทางอ้อมในทรัพย์สินทั้งหมด ของ Cove มาเป็น PTTEP AI เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การอนุมัติดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอน หลังจากที่ ปตท.สผ. ได้รับการตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้น Cove เป็นจำนวนร้อยละ 91.37 เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา สำหรับขั้นตอนต่อไป ปตท.สผ. จะดำเนินการเพิกถอนหุ้นของบริษัท Cove Energy Plc. ออกจากตลาด Alternative Investment Market (AIM) ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange) เพื่อเปลี่ยนสถานะให้กลับไปเป็นบริษัทจำกัด และจะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลืออีก 5.68% รวมทั้งเข้าเป็นผู้ถือสัดส่วนในโครงการ Rovuma Area 1 และแหล่งปิโตรเลียมอื่น ในสาธารณรัฐโมซัมบิก และสาธารณรัฐเคนยา ร่วมกับบริษัทร่วมทุนอื่นๆ โครงการ Rovuma Area 1 ในสาธารณรัฐโมซัมบิก ประกอบด้วยแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณสำรอง (Resources) มากกว่า 60 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และยังมีศักยภาพน้ำมันในโครงสร้าง Black Pearl ซึ่งจะเป็นฐานการเพิ่มปริมาณสำรอง และ ปริมาณการผลิตที่สำคัญของ ปตท.สผ. ต่อไป โครงการ Rovuma Area 1 ประกอบด้วยผู้ร่วมทุนดังนี้ PTTEP AI ถือสัดส่วนร้อยละ 8.5 บริษัท Anadarko (ผู้ดำเนินการ) ถือสัดส่วนร้อยละ 36.5 บริษัท Mitsui ถือสัดส่วนร้อยละ 20 บริษัท ENH ถือสัดส่วนร้อยละ 15 บริษัท Bharat Petroleum ถือสัดส่วนร้อยละ 10 และบริษัท Videocon ถือสัดส่วนร้อยละ 10 การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้มีผลทำให้ ปตท.สผ. ได้รับสิทธิในการถือสัดส่วนการร่วมทุน ร้อยละ 10 ในแปลงสำรวจ Rovuma Onshore ในสาธารณรัฐโมซัมบิก และสัดส่วนการร่วมทุน ร้อยละ 10 - 25 ในแปลงสำรวจน้ำลึกอีก 7 แปลงในสาธารณรัฐเคนยาอีกด้วย ความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของ ปตท.สผ. ในการขยายการลงทุนในแหล่งพลังงานสู่ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกที่มีศักยภาพทางไฮโดรคาร์บอนสูง และ มีแนวโน้มจะเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่สำคัญในอนาคต สำหรับรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ