กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม
สถานการณ์ภัยแล้งส่อเค้ารุนแรง นาข้าวหลายแสนไร่ส่อเค้าแห้งตาย ล่าสุดได้ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วง แล้ว 1 อำเภอ และจ่อคิวเตรียมประกาศอีก 5 อำเภอ
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และข้อมูลสภาพการทำนาของสำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม แม้เกษตรกรทำนาไปแล้ว กว่า 2 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 91 ของพื้นที่นาทั้งจังหวัด 2.3 ล้านไร่ แต่หลายพื้นที่ปริมาณฝนที่ตกค่อนข้างน้อย และดินแห้งเร็ว เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุและฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือนทำให้ดินยังไม่ชุ่มน้ำ และนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลให้ต้นข้าวกำลังขาดแคลนน้ำใกล้ยืนต้นแห้งตายหลายแสนไร่ ล่าสุดจังหวัดมหาสารคามได้ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้งจากภาวะฝนทิ้งช่วงในอำเภอกันทรวิชัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคามได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สนับสนุนตามอำนาจหน้าที่ในเรื่องของค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำให้กับเกษตรกร รวมถึงขุดร่องเพื่อเปิดทางระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งหากไม่เพียงพอก็ให้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือได้ที่อำเภอหรือจังหวัดต่อไป นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอฝนเทียมไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทำให้การทำฝนเทียมไม่ได้ผลเท่าที่ควร จึงได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งอย่างเต็มที่ และหากยังไม่มีฝนตกก็ได้เตรียมประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติจากภัยแล้งฝนทิ้งช่วงอีก 5 อำเภอ
เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่าส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งจากข้อมูลโครงการชลประทานมหาสารคามเหลือปริมาณน้ำเก็บกักโดยรวมเพียง ร้อยละ 25 ของความจุอ่าง 81.41 ลูกบาศก์เมตร และมีอ่างเก็บน้ำถึง 6 แห่งมีปริมาณน้ำเก็บกัก ไม่ถึงร้อยละ 15 ของความจุอ่าง เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรหรือพืชผลการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน หรือขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาการเกษตร โดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔ สถานการณ์ภัยแล้งส่อเค้ารุนแรง นาข้าวหลายแสนไร่ส่อเค้าแห้งตาย ล่าสุดได้ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติจากภาวะฝนทิ้งช่วง แล้ว 1 อำเภอ และจ่อคิวเตรียมประกาศอีก 5 อำเภอ
ว่าที่ ร.ต.จักรภัทร ผ่องโอภาส เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และข้อมูลสภาพการทำนาของสำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม แม้เกษตรกรทำนาไปแล้ว กว่า 2 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 91 ของพื้นที่นาทั้งจังหวัด 2.3 ล้านไร่ แต่หลายพื้นที่ปริมาณฝนที่ตกค่อนข้างน้อย และดินแห้งเร็ว เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุและฝนทิ้งช่วงมานานนับเดือนทำให้ดินยังไม่ชุ่มน้ำ และนับวันยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลให้ต้นข้าวกำลังขาดแคลนน้ำใกล้ยืนต้นแห้งตายหลายแสนไร่ ล่าสุดจังหวัดมหาสารคามได้ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้งจากภาวะฝนทิ้งช่วงในอำเภอกันทรวิชัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคามได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สนับสนุนตามอำนาจหน้าที่ในเรื่องของค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำให้กับเกษตรกร รวมถึงขุดร่องเพื่อเปิดทางระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งหากไม่เพียงพอก็ให้ทำเรื่องขอความช่วยเหลือได้ที่อำเภอหรือจังหวัดต่อไป นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอฝนเทียมไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทำให้การทำฝนเทียมไม่ได้ผลเท่าที่ควร จึงได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งอย่างเต็มที่ และหากยังไม่มีฝนตกก็ได้เตรียมประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติจากภัยแล้งฝนทิ้งช่วงอีก 5 อำเภอ
เกษตรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวต่อไปว่าส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้ง 17 แห่งจากข้อมูลโครงการชลประทานมหาสารคามเหลือปริมาณน้ำเก็บกักโดยรวมเพียง ร้อยละ 25 ของความจุอ่าง 81.41 ลูกบาศก์เมตร และมีอ่างเก็บน้ำถึง 6 แห่งมีปริมาณน้ำเก็บกัก ไม่ถึงร้อยละ 15 ของความจุอ่าง เกษตรกรที่มีปัญหาด้านการเกษตรหรือพืชผลการเกษตรได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ และสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน หรือขอคำปรึกษาและแก้ปัญหาการเกษตร โดยตรงกับเกษตรจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข ๐๘๑-๗๙๐๕๒๕๖ และหมายเลข ๐๘๘-๕๔๙๗๙๔๔