ทีคิวพีอาร์ ขยายเครือข่ายครอบคลุมถึงประเทศเวียดนาม

ข่าวทั่วไป Monday August 9, 2004 15:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ทีคิวพีอาร์ ประเทศไทย
ทีคิวพีอาร์ ขยายเครือข่ายครอบคลุมถึงประเทศเวียดนามเป็นพีอาร์เอเจนซี่ระดับนานาชาติแห่งแรกที่เข้ารุกตลาดในเวียดนาม
ทีคิวพีอาร์ กรุ๊ป ได้ทำการขยายเครือข่ายประชาสัมพันธ์ระดับภูมิภาคให้ครอบคลุมถึงตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างประเทศเวียดนาม ด้วยการเปิดสำนักงาน ณ เมือง โฮจิมินห์ ด้วยเครือข่ายสำนักงานซึ่งตั้งอยู่ตามเมืองต่างๆ ในภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟกของทีคิวพีอาร์ อันได้แก่กรุงเทพมหานคร กัวลาลัมเปอร์ จาร์การ์ต้า และสำนักงานใหม่ที่ โฮจิมินห์ นี้ จะทำให้เวียดนามมีโอกาสได้ใช้บริการผู้ให้คำปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์คุณภาพสูงเป็นครั้งแรกของประเทศ
“เราอยู่ในฐานะที่มีกำลังความพร้อม และศักยภาพที่สูงมากในขณะนี้” มร. กาย แช็ปปลิน ซีอีโอ ของบริษัท ทีคิวพีอาร์ กล่าว “เราเป็นเอเจนซี่ระดับนานาชาติแห่งแรกที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการในประเทศเวียดนาม สำหรับธุรกิจที่จำเพาะเจาะจงอย่างการให้คำปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์
ในการร่วมทุนกันระหว่าง ทีคิวพีอาร์ และพันธมิตรในเวียดนามคือ ทรูออง ล็อค จะดำเนินการภายใต้การนำของ มร. แม็ทธิว อันเดอร์วู๊ด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับเอเจนซี่ระดับภูมิภาคชื่อ อัพสตรีม เอเชีย (Upstream Asia) ก่อนที่จะมาร่วมงานกับทีคิวพีอาร์
“ทีคิวพีอาร์ จะนำเอาประสบการณ์ความชำนาญ ทักษะ ไม่ว่าจะเป็นด้านยุทธศาสตร์ และทีมงานสนับสนุนระดับมืออาชีพ รวมไปถึงการสร้างแบรนด์ มาใช้ในการดำเนินธุรกิจร่วมทุนในครั้งนี้ ขณะที่ มร. ล็อค จะนำเอาความรู้ความชำนาญ กอปรกับความสัมพันธ์ที่มีอยู่ในประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญมากในความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม พร้อมทั้ง มร. แม็ทธิว จะนำเอาประสบการณ์ด้านการให้คำปรึกษา และลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อมาพัฒนาทีมงาน และดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างอย่างราบรื่น” มร. แช็ปปลิน กล่าวเสริม
ทีคิวพีอาร์ เวียดนาม เกิดขึ้นด้วยความร่วมมือกันระหว่าง ทีคิวพีอาร์ ประเทศไทย และทีคิวพีอาร์ มาเลเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ เวิลด์คอม พับลิค รีเลชั่นส์ กรุ๊ป เครือข่ายประชาสัมพันธ์อิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มร. ล็อค ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานบริษัท Truong Loc เห็นว่า “ขณะนี้ เวียดนามมีความพร้อม และสามารถรองรับเอเจนซี่ประเภทนี้ได้แล้ว” มร. ล็อค เป็นอดีตนักข่าว และต่อมาได้กลายเป็นผู้บุกเบิก อุตสาหกรรมด้านโฆษณาของเวียดนามในราวต้นทศวรรษ’90 นับว่าเป็นผู้มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเวียดนาม เชื่อมั่นว่าการลงทุนกับทีคิวพีอาร์ในขณะนี้จะประสบความสำเร็จอย่างสูง
“ตลาดของที่นี่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา ในขณะที่ความเชื่อถือในการโฆษณาอยู่ในช่วงขาลง เพราะตลาดอยู่ในจุดอิ่มตัว และผู้บริโภคเริ่มพัฒนาความคิดเห็นของตัวเองในการมอง และรับฟังสื่อต่างๆ ที่นำเสนอ และนี่เป็นการเปิดประตูให้แก่ทีคิวพีอาร์ให้เข้าสู่ประเทศนี้”
“การเลือกใช้การประชาสัมพันธ์ในเวียดนาม นับว่าเป็นการพิจารณาหลังจากใช้การโฆษณา มันเป็นบริการที่สามารถพูดสรุปได้ด้วยประโยคที่ว่า “คุณต้องการที่จะจัดงานแถลงข่าวด้วยหรือไม่” มร. แม็ทธิว อันเดอร์วู๊ด ผู้จัดการทั่วไป กล่าว “อุตสาหกรรมพีอาร์ที่นี่ยังอยู่ในสภาวะแรกเริ่ม และมีแนวโน้มในการถูกชักนำด้วยบริษัทสองจำพวก คือ เอเจนซี่โฆษณาที่มีฝ่ายประชาสัมพันธ์พ่วงท้าย (ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนเล็กๆ ในมุมหนึ่งของบริษัท) และเอเจนซี่ท้องถิ่นของเวียดนามเอง ซึ่งขาดความน่าเชื่อถือในระดับนานาชาติ และการกระจายข่าวให้ออกไปกว้างขวางอย่างที่ลูกค้าหลักๆ มีความประสงค์ที่จะได้ และนี่นับเป็นช่องว่างที่เราคิดว่าเราสามารถจะเติมให้เต็มได้”
ทีคิวพีอาร์ มีเป้าหมายเจาะจงที่ฐานลูกค้าบริษัทข้ามชาติ โดยทีมงานผู้ให้คำปรึกษาในเวียดนามนั้นล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ องค์กร และ ไลฟ์สไตล์ ไอที ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคที่มีการเคลื่อนไหวในตลาดค่อนข้างเร็ว การเงิน การเดินทางและการท่องเที่ยว เฮลธ์แคร์ และเภสัชกรรม และผลิตภัณฑ์ที่จัดอยู่ในประเภทไลฟ์สไตล์
จะเห็นได้ว่าในเวียดนามไม่มีเอเจนซี่เกี่ยวกับประชาสัมพันธ์ระดับนานาชาติอยู่เลย ดังนั้น ทีคิวพีอาร์จึงถือเป็นผู้บุกเบิก และเป็นบริษัทแรกที่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลเวียดนามในการร่วมทุนประกอบการธุรกิจด้านพีอาร์
“นอกเหนือจากเครือข่ายพีอาร์แล้ว เรายังมุ่งในการทำงานด้านพัฒนาพันธมิตรกับเอเจซี่ด้านพีอาร์อื่นๆ ทั่วภูมิภาคนี้ ที่ต้องการความช่วยเหลือพื้นฐานในตลาดนี้ ตามความประสงค์ของลูกค้าที่ต้องการเจาะตลาดในเวียดนาม” มร. อันเดอร์วู๊ด กล่าว
เวียดนามอยู่ในยุคสมัยที่มีการเติบโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยจีดีพีปีต่อปีเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และกำลังประสบกับการเพิ่มขึ้นของการลงทุนจากต่างประเทศ ตั้งแต่รัฐบาลเริ่มใช้นโยบาย “Doi Moi” หรือ นโยบายเศรษฐกิจแบบเปิด ด้วยการส่งออกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อันเห็นได้จากการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมการผลิต ชาวเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาความมั่งคั่งในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยมีชนชั้นกลางเริ่มให้เห็นเด่นชัดในเมืองต่างๆ
เพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับการผลิตสินค้าสำหรับชาวเวียดนาม จำเป็นจะต้องมีการพัฒนาโครงสร้างต่างๆ เพื่อการจัดการเกี่ยวกับอุปสงค์จากต่างประเทศ และเห็นได้ธุรกิจต่างๆ รวมถึงรัฐบาลได้ทำการลงทุนเป็นล่ำเป็นสันในหลายๆ อุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน อสังหาริมทรัพย์ และ เทคโนโลยีสารสนเทศองค์กร
“ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้ามาในตลาดนี้” มร.อันเดอร์วู๊ด กล่าวเสริม “ช่วงเวลาสำหรับการเติบโตคือ ณ ตอนนี้ และเป็นช่วงเวลาในการสร้างแตกต่างให้กับแบรนด์ในจิตสำนึกของผู้บริโภคทั้งหลายในประเทศนี้ หากถ้ารอหรือช้ากว่านี้ โอกาสที่ดีสำหรับการพัฒนาความได้เปรียบด้านการแข่งขันก็จะมลายหายไปด้วยการฉกฉวยโอกาสจากบริษัทอื่นๆ”
ทีคิวพีอาร์ เวียดนาม มีสำนักงานตั้งอยู่ ณ เมืองโฮจิมินห์ ศูนย์กลางธุรกิจของเวียดนาม และจะมีการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมเมืองฮานอยในลำดับต่อไปประมาณสิ้นปีนี้
“เมืองฮานอย นับเป็นตลาดที่สำคัญอันดับสองสำหรับลูกค้าหลักๆ หลายบริษัทของเรา” มร. ล็อค อธิบาย “เป็นเมืองที่มีความสำคัญและใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นฐานของสื่อมวลชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ รวมถึงผู้มีอำนาจตัดสินระดับอาวุโสของรัฐบาล สำหรับลูกค้าของเราซึ่งมีการติดต่อกับรัฐบาล หรือสำหรับลูกค้าที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาล ดังนั้น เมืองฮานอยจึงเป็นฐานที่สำคัญแห่งหนึ่ง”
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
สุรัตน์ ตัณทนาวิวัฒน์ / วริทร์ ประภาวัต แม็ทธิว อันเดอร์วู๊ด
ทีคิวพีอาร์ ประเทศไทย ทีคิวพีอาร์ เวียดนาม
โทร. 02 260 5820 โทร. +84 8 8 272 152
อีเมล: tqprthai@ksc.th.com อีเมล: matt@tqpr.net--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ