กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--กรมส่งเสริมการส่งออก
จีนสำรวจไลฟ์สไตล์มหาเศรษฐีแดนมังกร ชี้เป็นตัวแปรควักกระเป๋าซื้อสินค้าแบรนด์ดัง เผยเป็นโอกาสของไทยหากเจาะตลาด ทั้งซื้อสินค้า-ดึงเข้ามาท่องเที่ยวจะสร้างฐานลูกค้า-มูลค่าการค้าเพิ่มขึ้น
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยถึงการดำเนินยุทธศาสตร์ด้วยผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการเชิงรุกตลาดศักยภาพสูง ประเทศจีน ว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้ รายงานผลสำรวจความมั่งคั่งของชาวจีน “Group M Knowledge — Hurun Wealth Report 2010” โดยระบุว่า ภาพรวมของกลุ่มผู้มีฐานะมั่งคั่งชาวจีนอยู่กระจายในเมืองสำคัญ พฤติกรรมในการใช้จ่ายและการลงทุน ซึ่งผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่ารวมเกินกว่า 10 ล้านหยวน(ประมาณ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 48 ล้านบาท)ถือว่าเป็น“ผู้มั่งคั่ง”และกลุ่มที่มีทรัพย์สินมูลค่ารวมเกินกว่า 100 ล้านหยวน( ประมาณ 480 ล้านบาท) ระบุให้เป็น“ผู้มั่งคั่งอย่างมาก”
ทั้งนี้จีนกำลังจะก้าวสู่ความเป็นประเทศที่มีสินค้าฟุ่มเฟือยมากที่สุดในโลก ดังนั้นการเข้าใจลักษณะและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ร่ำรวยในจีน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งจากการสำรวจพบว่าภายใต้สภาวะที่การบริโภคสินค้าหรูหรา(luxury goods consumption)ถือเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดจีน ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจในพฤติกรรม ทัศนคติ และความชอบของกลุ่มผู้มั่งคั่งเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์สินค้าหรูต่างๆ สามารถเข้าใจความคิดของกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่แบรนด์สินค้าได้
ในด้านของพฤติกรรมการใช้จ่ายพบว่า การท่องเที่ยวเป็นการใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สุดที่ผู้ร่ำรวยชาวจีนใช้ในแต่ละปี โดยผู้ร่ำรวยชาวจีนเหล่านี้ใช้ระยะเวลาเฉลี่ยราว 20 วันกับการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหลังจากทำงานมาทั้งปี โดยเหตุผลที่ผู้ร่ำรวยไปท่องเที่ยว หรือ ออกเดินทางไปต่างประเทศนั้น เหตุผลหลักคือ เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจช่วงวันหยุด รองลงมาคือการติดต่อทางธุรกิจ ซึ่งการท่องเที่ยวของผู้ร่ำรวยนั้นมีทั้งแบบเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ แหล่งท่องเที่ยวในประเทศที่ผู้ร่ำรวยชาวจีนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ได้แก่ ซันย่า(เกาะไหหลำ) เกาะฮ่องกง และมณฑลยูนนานตามลำดับ ขณะที่การท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น ผู้ร่ำรวยมีเป้าหมายยอดนิยมคือฝรั่งเศส ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย
“กลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพที่ผู้ประกอบการจะต้องพัฒนาสินค้าและบริการของไทยให้อยู่ในระดับดีเยี่ยม เพื่อยกระดับสินค้าและมาตรฐานแบรนด์ไทยให้ติดตลาดโลก ทำให้ผู้ซื้อเกิดความต้องการซื้อสินค้า หรือ มาใช้บริการซ้ำ รวมถึงประเทศไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับโลกในหลายแห่ง ซึ่งภาครัฐและเอกชนจะต้องผนึกกำลังและความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานอย่างต่อเนื่อง ให้ไปสู่จุดเป้าหมาย”นางนันทวัลย์ กล่าว
ทั้งนี้ผู้มีฐานะมั่งคั่งชาวจีนมีการกระจายตัวตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ตามพื้นที่ทางตะวันออก(เซี่ยงไฮ้ เจ้อเจียง เจียงซู ) ทางเหนือ(ปักกิ่ง) และทางใต้(กวางตุ้ง) โดยกรุงปักกิ่งเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ร่ำรวยมากที่สุดอยู่ที่ราว 1.79 แสนราย โดยมีผู้ร่ำรวยอย่างมาก 10,500 ราย ตามมาด้วยมณฑลกวางตุ้งเป็นอันดับสอง ตามด้วยนครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจ้อเจียงและมณฑเจียงซู ( สถิติดังกล่าวไม่ได้นับรวมพื้นที่ของเกาะฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊า)
“การระบุความมั่งคั่งของบุคคลวัดจากสินทรัพย์ 2 ส่วนที่บุคคลนั้นถือครองอยู่ คือ สินทรัพย์คงที่(Fixed Assets)และสินทรัพย์ลงทุน(Investable Assets) ซึ่งกลุ่มผู้มีฐานะมั่งคั่ง 503 คน ในจำนวนนี้มีผู้มีฐานะมั่งคั่งอย่างมาก 54 คน โดยมีผู้มีทรัพย์สิน 10ล้านหยวนขึ้นไปในจีนปัจจุบันมีเกินกว่า 1 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6.3% และมีผู้มั่งคั่ง(ผู้ที่มีทรัพย์สินเกินกว่า 100 ล้านหยวนขึ้นไป)จำนวน 63,500 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.8% ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะแบบหรูหราเพิ่มขึ้นสูง 21% รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 54 เพิ่มสูง 9.2% อย่างต่อเนื่องในจีนเป็นปัจจัยหลัก”นางนันทวัลย์ กล่าว
สถิติการส่งออกสินค้าไทยไปจีนในช่วง 6 เดือนแรก(ม.ค.-มิย.)ของปีนี้ คิดเป็นมูลค่า 13,408 ล้านเหรียญสหรัฐฯ( 414,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.5% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 8% ( 2,553 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ยางพารา เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันสำเร็จรูป ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ น้ำตาลทรายและน้ำมันดิบ