ประเทศไทย: บริษัท อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป เปิดตัวรายงานปี 2555 ความเชื่อมั่นของนักลงทุนแข็งแกร่งภายหลังฟื้นตัวจากวิกฤตน้ำท่วม

ข่าวทั่วไป Monday August 27, 2012 16:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ส.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ คำบรรยายใต้ภาพ: ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (คนที่สองจากซ้าย) เป็นประธานในพิธีเปิดหนังสือ รายงาน: ประเทศไทย 2555 (The Report: Thailand 2012) โดยภายในงานมี ดร. อรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) (ซ้าย) มร.ปีเตอร์ กริมส์ดิช (Peter Grimsditch) ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการบริษัท อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป (คนที่สองจากขวา) และมร.พอเลียช คูซินาส (Paulius Kuncinas) บรรณาธิการฝ่ายภูมิภาค บริษัท อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป (ขวา) เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรม ภายหลังวิกฤตน้ำท่วมครั้งรุนแรง รายงาน: ประเทศไทย 2555 (The Report: Thailand 2012) ได้จัดพิมพ์ขึ้นโดยบริษัทอ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป (โอบีจี) ซึ่งนับเป็นบริษัทมีชื่อเสียงในด้านจัดทำรายงานวิจัยและให้คำปรึกษาในระดับโลก รายงานฉบับนี้ได้จัดทำโดยร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) บริษัทบีดีโอ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต และบริษัทติลลิกี่ แอนด์ กิบบินส์ เนื้อหารายงานครอบคลุมถึงการขยายฐานทางเศรษฐกิจและเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน งานเปิดตัวรายงาน: ประเทศไทย 2555 (The report: Thailand 2012) ณ. โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ โดยมี ม.ร.ว. พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ดร. อรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ขึ้นกล่าวในงาน พร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน รายงาน: ประเทศไทย 2555 (The Report: Thailand 2012) ได้รวบรวมรายละเอียดของข้อมูลและจัดเป็นหมวดหมู่ เพื่อเสนอเนื้อหาอย่างเป็นระบบ ประกอบด้วยบทสัมภาษณ์ของผู้นำทางการเมือง เศรษฐกิจ และธุรกิจ ซึ่งรวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และนายบุญชัย โชควัฒนา ผู้บริหารของบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด รวมถึงบุคคลสำคัญในต่างประเทศ เช่น มร.วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ มร. โทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร รวมถึง ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ซึ่งแต่ละคนต่างให้มุมมองของตนเองเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย รายงาน: ประเทศไทย 2555 (The Report: Thailand 2012) ได้นำเสนอถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศหลังจากวิกฤตน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ครอบคลุมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงซ่อมแซมโรงงานที่เสียหายให้ดำเนินการผลิตได้อีกครั้งหนึ่ง วิเคราะห์การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยซึ่งภาคราชการคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5 — 6% รวมถึงพยากรณ์เกี่ยวกับแนวโน้มที่แจ่มใสของภาคอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งนับเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ดังนั้น รายงานฉบับใหม่ของโอบีจีได้วิเคราะห์ในรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสำคัญในด้านนี้ของประเทศไทย ครอบคลุมทั้งการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านท่าเรือ และโครงการก่อสร้างเพื่อขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังได้วิเคราะห์เชิงลึกถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งเดิมเมื่อปลายปี 2554 ประสบปัญหาอย่างมากจากอุทกภัย แต่ปัจจุบันกำลังมีบทบาทสำคัญในการก่อสร้างเพื่อพื้นฟูประเทศ รายงานฉบับล่าสุดของโอบีจี เเสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัวของไทยเพื่อเตรียมพร้อมรับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งคาดหมายว่าจะช่วยกระตุ้นการค้าขายและเปิดตลาดระหว่างประเทศในภูมิภาคนี้ รายงาน: ประเทศไทย 2555 (The Report: Thailand 2012) ยังแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการของรัฐบาลไทยในการพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้นไป ด้วยการสนับสนุนธุรกิจจัดประชุมและนิทรรศการนานาชาติ หรือที่เป็นที่รู้จักกันว่า MICE (Meeting, Incentive, Convention, and Exhibition) พร้อมกับดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งจากประเทศในภูมิภาคใกล้เคียงและจากประเทศที่ห่างไกล โอบีจีได้จัดทำรายงานฉบับใหม่โดยได้รับความร่วมมือทางวิชาการจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และการสนับสนุนเพิ่มเติมจากบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต บริษัทตรวจสอบบัญชีและให้คำปรึกษาบีดีโอ (บีดีโอ) และบริษัทกฎหมายติลลิกี่ แอนด์ กิบบินส์ มร. พอเลียช คูซินาส (Paulius Kuncinas) บรรณาธิการฝ่ายภูมิภาค บริษัท อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า “ความไม่แน่นอนทางการเมืองและสถานการณ์น้ำท่วมนับเป็นบททดสอบของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี การฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงความสำเร็จในการรักษาโมเมนตัมการเติบโตของภาคธุรกิจเอกชนอย่างต่อเนื่อง ได้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น” อย่างไรก็ตาม เขากล่าวยอมรับว่าประเทศไทยต้องเผชิญความท้าทายในการพัฒนาเศรษฐกิจในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นกรณีเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกมากเกินไปและกฎระเบียบที่ยังเป็นภาระต่อการดำเนินธุรกิจ "เราคิดว่าประเทศไทยสามารถธำรงรักษาความเป็นผู้นำทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ แปรรูปอาหาร และการท่องเที่ยว แต่ยังตามหลังประเทศอื่นในอาเซียนในธุรกิจด้านโลจิสติกส์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ และภาคบริการทางการเงิน" พร้อมกับกล่าวเสริมว่า "เราต้องการเห็นหน่วยงานกำกับดูแลให้ความสนใจในด้านปรับปรุงกฎระเบียบให้ผ่อนคลายและโปร่งใสมากขึ้น เพื่อเปิดรับการลงทุนทั้งจากภายในประเทศและต่างประเทศ" มร.ปีเตอร์ กริมส์ดิช (Peter Grimsditch) ผู้อำนวยการกองบรรณาธิการบริษัท อ๊อกฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป ได้กล่าวขอบคุณพันธมิตรของโอบีจีสำหรับความช่วยเหลือในกระบวนการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ในการจัดทำรายงาน: ประเทศไทย 2555 (The Report: Thailand 2012) มร. กริมส์ดิช กล่าวว่า “ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายมากสำหรับประเทศไทย ภายหลังจากเหตุการณ์อันไม่คาดฝันต่างๆ เกิดขึ้น อย่างน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศไทยกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่สาขาใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ผมเชื่อมั่นว่ารายงานฉบับนี้ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยร่วมมือกับพันธมิตรซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศไทยเป็นอย่างดี จะช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้นำทางธุรกิจให้เล็งเห็นถึงโอกาสมากมายในการลงทุน รายงาน : ประเทศไทยปี 2555 (The Report: Thailand 2012) นับเป็นผลสัมฤทธิ์สำคัญภายหลังใช้เวลาดำเนินการมากว่า 11 เดือน ในทีมนักวิเคราะห์จากโอบีจี รายงานฉบับนี้ได้ให้ข้อมูลในแง่มุมต่างๆ ทั้งในด้านเศรษฐกิจมหภาค โครงสร้างพื้นฐาน การธนาคาร และการพัฒนาในสาขาต่างๆ โดยรายงาน: ประเทศไทย 2555 ฉบับนี้ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งในรูปของหนังสือและออนไลน์ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านข่าวประชาสัมพันธ์กรุณาติดต่อ วารดี วสวานนท์ บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด อีเมล์ cherry@spark.co.th โทร. 02 653-2717-9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ